"ฝรั่งเศส" ก่อนพิธีเปิด "โอลิมปิก 2024"

Fri, 26 Jul 2024 20:19:00

วันนี้ (26 ก.ค.2567) จากเหตุการณ์เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศส ตกเป็นเป้าโจมตีทำให้สะเทือนไปทั้งระบบ ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายแสนคน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนหน้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 กำลังเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ในกรุงปารีส

อ่านข่าว : พิธีเปิดโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ล่องเรือแม่น้ำแซน 

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของการรถไฟพร้อมตำรวจฝรั่งเศล เข้าตรวจสอบสายเคเบิลที่ถูกตัดและเผาทำลายจนได้รับความเสียหาย ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมได้เริ่มสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยถือเป็นคดีก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายต่อทรัพย์สิน ซึ่งคุกคามผลประโยชน์พื้นฐานของชาติ ข้อกล่าวหานี้มีโทษจำคุก 15 ปี ปรับ 225,000 ยูโร หรือประมาณ 8,800,000 บาท

ในขณะที่การรถไฟฝรั่งเศส ระบุว่า เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงตกเป็นเป้าการโจมตี ซึ่งรวมถึงการลอบวางเพลิงจนส่งผลให้การเดินรถไฟหลายสายเป็นอัมพาต ต้องสั่งยกเลิกการให้บริการในหลายเส้นทาง

นอกจากนี้ การรถไฟฝรั่งเศส ยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารประมาณ 800,000 คน พร้อมทั้งร้องขอให้ประชาชนเลื่อนการเดินทางออกไปก่อนในช่วงนี้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าใช้บริการที่สถานีรถไฟ เพราะเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ประเมินว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมตลอดสุดสัปดาห์นี้

ด้าน รัฐบาลฝรั่งเศส ออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการก่ออาชญากรรม ที่คาดว่ามีการเตรียมการวางแผนให้การโจมตีสอดรับกันในหลายจุด

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ในเวลา 19.30 น. ตามเวลาของประเทศฝรั่งเศส หรือ 00.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

"ปารีส" เงียบเหงา นักท่องเที่ยวเลี่ยง "โอลิมปิก"

แม้เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่เจ้าภาพยืนยันว่าพิธีการทุกอย่างจะคงไว้ตามกำหนดเดิม โดยโอลิมปิกในครั้งนี้มีเข้าร่วมงานมากกว่า 70,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักกีฬาประมาณ 10,500 คน สื่อมวลชนจากทั่วโลก 20,000 คน และอาสาสมัครที่มีมากถึง 45,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกประมาณ 75,000 คน

ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนปารีสในช่วงโอลิมปิกคาดว่าจะมีประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ถึง 4 ล้านคน โดยสายการบินหลายแห่งยอมรับว่าจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงการเข้าไปในกรุงปารีสในช่วงนี้

สิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความเงียบเหงาคืออัตราการจองโรงแรม ในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในภาพรวมยอดการจองลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นโรงแรมหรูลดลงร้อยละ 20-50

เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายย่อย อย่างร้านขายของที่ระลึก เจ้าของร้านบอกว่าลูกค้าเริ่มลดลงตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เดือนนี้ยิ่งแย่หนักกว่าเดิม และมองว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ทั้งประเทศ เพราะผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงฝรั่งเศสและกรุงปารีส เนื่องจากกังวลเรื่องโอลิมปิก รวมถึงการจราจรและเรื่องอื่น ๆ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด รวมถึงคาเฟ่ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็เงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะที่นักท่องเที่ยวเองก็ยอมรับว่าประสบปัญหาเรื่องการเดินทางในเมือง เพราะมีการปิดถนนเต็มไปหมด ทำให้ต้องเดินอ้อม มิหนำซ้ำนักท่องเที่ยวบางคนต้องลากกระเป๋าเดินทางไปด้วยเลยทำให้ลำบากเข้าไปอีก

แม้ว่าธุรกิจในกรุงปารีสจะได้รับผลกระทบจากการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปแล้วกลับได้รับอานิสงส์จากเรื่องนี้ 

สมาคมการท่องเที่ยวยุโรปประเมินว่า การแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้จะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มประเทศยุโรปมากถึง 872,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้คนที่หลีกเลี่ยงฝรั่งเศสจะเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนในประเทศอื่น ๆ แทน

นอกจากนี้คนที่เดินทางมาร่วมโอลิมปิกอาจจะถือโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นในยุโรปด้วย เพราะการเดินทางระหว่างประเทศในยุโรปค่อนข้างสะดวก ส่วนบรรยากาศที่เงียบเหงาในกรุงปารีสคาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อโอลิมปิกสิ้นสุดลงและทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

อ่านข่าว : เส้นทางล่องเรือแม่น้ำแซน พิธีเปิด "โอลิมปิก 2024" ปารีสเกมส์

เหล่าคนดังในมหกรรมกีฬา "โอลิมปิก 2024"

มวยสากลทีมชาติไทย ได้บายรอบแรก 4 รุ่น โอลิมปิก 2024


สถานทูตฯ เตือนคนไทยในฝรั่งเศส เพิ่มความระวังการใช้ชีวิต

Fri, 26 Jul 2024 19:50:00

วันนี้ (26 ก.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงาน เพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy - Paris, France - สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส โพสต์แจ้งเตือนกรณีเหตุเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศสถูกลอบวางเพลิง ก่อนพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปารีส ส่งผลให้ระบบขนส่งหยุดชะงักชั่วคราว

โดยระบุว่า เคยแจ้งให้พี่น้องชาวไทยทั้งที่มีถิ่นพำนัก ในฝรั่งเศส และนักท่องเที่ยวไทยที่มาร่วม และชมการแข่งขันโอลิมปิก ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั่วไป ดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันนี้ และได้เกิดเหตุร้ายหลายครั้งในกรุงปารีสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ (26 ก.ค.) นาย Jean-Pierre Farandou ประธานผู้บริหารการรถไฟฝรั่งเศส (SNCF) และนาย Patrice Vergriete รมว.คมนาคม ได้ออกแถลงการณ์ว่า เมื่อคืนนี้ (25 ก.ค. ) ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00-04.00 น. SNCF ได้ตกเป็นเป้าของความพยายามก่อวินาศกรรม โดยการวางเพลิงระบบรางรถไฟความเร็วสูงที่สำคัญพร้อมกัน 4 จุด (LGV Atlantique, LGV Nord, LGV Est, LGV Sud-est)

อ่านข่าว เหล่าคนดังในมหกรรมกีฬา "โอลิมปิก 2024"

ถึงแม้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมความเสียหายได้ทันท่วงที ในส่วนของรางรถไฟความเร็วสูงที่ออกจากกรุงปารีส ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังคงส่งผลกระทบกับเส้นทางรถไฟสายอื่นที่้เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องชะลอหรือยกเลิกรถไฟหลายขบวนโดยเฉพาะรถไฟจากภาคตะวันตก (จาก Gare Montparnasse) ภาคเหนือ (จาก Gare du Nord)

และภาคตะวันออก (จาก Gare de l'Est) ซึ่งต้องปรับไปใช้ทางรถไฟความเร็วธรรมดาแทนทางรถไฟความเร็วสูง ส่งผลให้เกิดความล่าช้าอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และคาดว่ามีผู้โดยสารได้รับผลกระทบประมาณ 800,000 คน โดย SNCF คาดว่าจะต้องใช้เวลาตรวจสอบและซ่อมแซมความเสียหายให้แล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุดภายในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค.นี้ 

ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูต จึงขอย้ำเตือนให้พี่น้องชาวไทยทั้งที่มีถิ่นพำนักในฝรั่งเศส และนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งคอยติดตามข่าวสารของทางการฝรั่งเศส

และคำเตือนของสถานเอกอัครราชทูตฯ ทาง Facebook ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ และเจ้าหน้าที่ทุกคนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติตลอดช่วงการแข่งขันโอลิมปิก และพาราลิมปิกดังกล่าว โดยหากท่านใดประสบเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 46 71 96 94

อ่านข่าว วุ่น! วางเพลิงเครือข่ายรถไฟฝรั่งเศส ก่อนเปิดโอลิมปิกปารีส

แอปฟรีควรมีไว้ใช้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอแนะนำแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เดินทางมารับชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Paris 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส

Paris 2024 Olympics สำหรับดูตารางการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ โดยสามารถใส่ filter เพื่อค้นหาเฉพาะประเภทกีฬาหรือทีมชาติไทยก็ได้ แอปจะบอกรายละเอียดทั้งหมด ทั้งข้อมูลการแข่ง สถานที่แข่ง ข้อมูลนักกีฬา

รวมถึงช่องทางการติดตามนักกีฬาทาง social media นอกจากนี้ ยังสามารถจองตั๋วฟรีไปดูกีฬาที่แข่งในสถานที่สาธารณะ เช่น มาราธอน ว่ายน้ำมาราธอน ไตรกีฬา ผ่านแอปนี้ได้ด้วย

Paris 2024 Tickets สำหรับใช้ซื้อและเก็บตั๋วเข้าชมการแข่งขันต่าง ๆ ไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วหน้างาน (เพื่อลดการใช้กระดาษ ตั๋วการแข่งขันทั้งหมดของ Paris 2024 จะเป็น QR Code ที่ใช้แสดงในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น) โดยแอปนี้ยังมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวไปดูการแข่งขัน การเดินทางไปยังสถานที่แข่งขัน ประตูทางเข้า ฯลฯ

Bonjour RATP เป็นแอปทางการของการโดยสารขนส่งสาธารณะในกรุงปารีสและปริมณฑล สามารถซื้อตั๋วรถไฟ/รถบัสได้ภายในแอป และมีข้อมูลอัพเดทแบบ real time เกี่ยวกับตารางเวลาเมโทรสายต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นมาก ๆ ในการเดินทางในกรุงปารีส

Google Translate แอปนี้คงไม่ต้องอธิบายสรรพคุณ ขอแนะนำให้ทุกท่านมีติดโทรศัพท์ไว้ยามจำเป็นต้องสื่อสารและอ่านป้ายประกาศ/ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งสามารถถ่ายรูปแล้วกดแปลจากภาษาฝรั่งเศส/อังกฤษเป็นภาษาไทยได้เลย
ทั้ง 4 แอปข้างต้นสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งใน App Store สำหรับระบบ ios และ Google Play สำหรับระบบ android

อ่านข่าว

โปรแกรมการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ของนักกีฬาไทย วันที่ 27-31 ก.ค.67

 

 

 


วุ่น! วางเพลิงเครือข่ายรถไฟฝรั่งเศส ก่อนเปิดโอลิมปิกปารีส

Fri, 26 Jul 2024 15:10:00

วันนี้ (26 ก.ค.2567) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศส ถูกโจมตีด้วยการกระทำที่ระบุว่าเป็นการกระทำอันชั่วร้าย รวมถึงการวางเพลิง จนทำให้ระบบขนส่งหยุดชะงัก โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปารีส

เช่นเดียวกับสื่อฝรั่งเศสที่รายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่บนเส้นทางสายตะวันตกที่มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งทางการอยู่ระหว่างสืบสวนหาสาเหตุ

ด้านบริษัท SNCF การรถไฟของฝรั่งเศส กล่าวว่า เส้นทางรถไฟทางตะวันตก ทางเหนือและตะวันออกของฝรั่งเศส ได้รับผลกระทบและต้องเปลี่ยนเส้นทาง รวมถึงยกเลิกการเดินรถอีกหลายเส้นทาง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกินเวลาตลอดทั้งสุดสัปดาห์นี้เพื่อดำเนินการแก้ไข

ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลประณามเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงกับการแข่งขันในขณะนี้ก็ตาม

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่กรุงปารีสจะมีพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิก 2024 โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 7,500 คนและมีผู้เข้าชมอีกราว 300,000 คน รวมถึงแขกวีไอพี

อ่านข่าว

พิธีเปิดโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ล่องเรือแม่น้ำแซน - "บิว-เอสที" ถือธงไทย

หลักฐานใหม่ DNA "ปลาหมอคางดำ" ระบาด "ไบโอไทย" อ้างมีแหล่งที่มาร่วมกัน


อิทธิพลไต้ฝุ่น "แคมี" ทำฝนถล่มญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ พัดขึ้นฝั่งไต้หวัน

Thu, 25 Jul 2024 08:34:00

วันนี้ (25 ก.ค.2567) พายุไต้ฝุ่น "แคมี" พัดขึ้นฝั่งไต้หวันเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาไต้หวันคาดว่าจะส่งผลให้ฝนตกหนักและลมทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พายุไต้ฝุ่นแคมี เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดถล่มไต้หวันในปี 2024 และคาดว่าจะเป็นพายุที่รุนแรงสุดที่พัดถล่มไต้หวันในรอบ 8 ปี ด้านเจ้าหน้าที่เตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตราย ซึ่งคาดว่าอิทธิพลของพายุจะส่งผลกระทบไปจนถึงวันที่ 26 ก.ค.นี้

ก่อนหน้านี้หลายพื้นที่ของไต้หวันมีฝนตกลงมาอย่างหนักและลมกระโชกแรงตลอดทั้งวัน ซึ่งสภาพอากาศเลวร้ายเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ในจำนวนนี้ 1 คนถูกต้นไม้โค่นทับ นอกจากนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คนและบ้านเรือนอีกมากกว่า 290,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้

ทางการกรุงไทเปสั่งปิดโรงเรียน สำนักงานและห้างร้านจำนวนมากเพื่อความปลอดภัยและเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่นแคมี นอกจากนี้อิทธิพลของพายุยังทำให้เที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศหลายร้อยเที่ยวบิน การบริการเรือข้ามฟากและกิจกรรมต่างๆ ต้องถูกยกเลิก ขณะที่เจ้าหน้าที่อพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทั่วไต้หวันแล้วมากกว่า 8,000 คน

ด้านหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของจีน ประกาศคำเตือนระดับสีแดงในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ให้ประชาชนเตรียมรับมือกับอิทธิพลของพายุ พร้อมทั้งสั่งระงับการบริการรถไฟทั้งหมด หลังคาดว่าพายุไต้ฝุ่นแคมีที่พัดถล่มขึ้นฝั่งไต้หวันแล้ว จะค่อยๆ เคลื่อนตัวมุ่งหน้ามายังมณฑลฝูเจี้ยนในวันนี้ (25 ก.ค.)

ฝนถล่ม "ญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์" จากอิทธิพลแคมี

ขณะที่วานนี้ (24 ก.ค.) เกาะอิชิงากิ จ.โอกินาวะ ของญี่ปุ่น เผชิญฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ซึ่งเป็นผลพวงจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นแคมีที่กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังไต้หวัน ซึ่งสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ให้อยู่แต่ในอาคาร พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม หลังคาดว่าจะมีฝนตกสะสมประมาณ 250 มิลลิเมตร

ส่วนที่ฟิลิปปินส์ แม่น้ำ Marikina ในกรุงมะนิลา เพิ่มระดับสูงขึ้นเอ่อล้นและไหลเชี่ยวกราก จนพัดตู้คอนเทนเนอร์ลอยไปตามน้ำ หลังอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นแคมีและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทำให้ฝนตกหนักในกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียง

ท้องถนนหลายสายแปรสภาพกลายเป็นแม่น้ำขนาดย่อม ทำให้ประชาชนต้องเร่งขนย้ายข้าวของออกจากบ้านเรือนกลางกระแสน้ำที่ไหลแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระดมกำลังเร่งช่วยอพยพผู้ตกค้างออกจากพื้นที่ประสบภัย

แม้พายุไต้ฝุ่นแคมีจะไม่ได้พัดขึ้นฝั่งฟิลิปินส์ แต่ทำให้ฝนมรสุมทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งสภาพอากาศเลวร้ายในฟิลิปปินส์ที่ตามมาด้วยเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 12 คนและอีกมากกว่า 600,000 คนไร้ที่อยู่

เวียดนามเผชิญพายุ "พระพิรุณ"

พื้นที่ทางตอนเหนือของเวียดนามเผชิญกับพายุ "พระพิรุณ" ที่พัดถล่มจนทำให้ฝนตกหนัก ตามมาด้วยเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม โดยเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในหลายจุด ขณะที่มีรายงานว่าพายุทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 5 คน สูญหาย 4 คนและบาดเจ็บอีก 1 คน

พื้นที่ทางตอนเหนือของเวียดนามมักเผชิญฝนตกหนักอยู่บ่อยครั้งและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ส่งผลให้เกิดเหตุดินถล่มครั้งใหญ่และน้ำท่วมฉับพลัน โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการชี้ว่าเมื่อปี 2023 อิทธิพลของสภาพอากาศสุดขั้วทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 166 คน

อ่านข่าว

26-29 ก.ค.ไทยเสี่ยงฝนตกหนักอีกรอบ "พระพิรุณ" ขึ้้นฝั่งเวียดนาม

เปิดภาพ "ดวงจันทร์บังดาวเสาร์" ครั้งแรกของปี

"เครื่องบินเนปาล" ตกขณะขึ้นบิน เสียชีวิต 18 คน


"เครื่องบินเนปาล" ตกขณะขึ้นบิน เสียชีวิต 18 คน

Wed, 24 Jul 2024 14:28:00

วันนี้ (24 ก.ค.2567) สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างข้อมูลสื่อท้องว่า เกิดเหตุเครื่องบินสายการบิน Saurya Airlines ประสบอุบัติเหตุตกขณะบินขึ้นจากสนามบินตริภูวัน ในกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบิน รวม 19 คน เป็นลูกเรือ 2 คน และช่างเทคนิค 17 คน ซึ่งจะเดินทางไปซ่อมเครื่องบินอีก 1 ลำ

เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 18 คน ส่วนนักบินได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยเครื่องบินเกิดไฟลุกไหม้และเสียหายทั้งลำ

ทั้งนี้ รายงานของ Flight Radar 24 ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2543 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ตกในประเทศแถบเทือกเขาหิมาลัยเกือบ 350 คน และก่อนหน้านี้เดือน ม.ค.2566 เกิดเหตุเครื่องบินตกและมีผู้เสียชีวิต 72 คน


"จีน" เล็งเพิ่มอายุเกษียณ รัดเข็มขัดระบบเงินบำนาญ

Wed, 24 Jul 2024 07:31:40

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2567 สำนักข่าว BBC รายงานว่า รัฐบาลจีนจะค่อยๆ ปรับเพิ่มอายุเกษียณตามกฎหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อพยายามรับมือกับประชากรสูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น และการต้องรัดเข็มขัดระบบเงินบำนาญ

ปัจจุบันอายุขัยของประชากรจีนเพิ่มขึ้นจาก 36 ปีเป็น 78 ปี ซึ่งสูงกว่าประชากรในสหรัฐฯ ขณะที่อายุเกษียณของจีนถือว่าต่ำที่สุดประเทศหนึ่งของโลก โดยสำหรับผู้ชายอยู่ที่ 60 ปี สำหรับผู้หญิงที่ทำงานออฟฟิสอยู่ที่ 55 ปี ส่วนผู้หญิงในชนชั้นแรงงานอยู่ที่ 50 ปี

แผนการเพิ่มอายุเกษียณนี้เป็นส่วนหนึ่งของมติที่ได้รับการอนุมัติในที่ประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือ Third Plenum เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมกลางระบุว่าจะผลักดันการปฏิรูปเพื่อเพิ่มอายุเกษียณอย่างค่อยเป็นค่อยไปในลักษณะที่รอบคอบและเป็นระเบียบ โดยจีนพิจารณาแผนการเพิ่มอายุเกษียณมาหลายปีแล้วท่ามกลางงบประมาณเงินบำนาญของจีนกำลังลดลง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมกลางพรรคไม่ได้ระบุว่าอายุเกษียณจะเพิ่มขึ้นเท่าใดและการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่รายงานของ China Pension Development Report หรือการพัฒนาเงินบำนาญของจีนที่เผยแพร่เมื่อปลายปี 2023 ชี้ว่าอาจอยู่ที่ 65 ปี

สถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน เปิดเผยเมื่อปี 2019 ว่า เงินกองทุนบำเหน็จบำนาญหลักของจีนจะหมดลงภายในปี 2035 ซึ่งเป็นการประมาณการก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันเมื่อปี 2023 จำนวนประชากรของจีนลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ท่ามกลางอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

แผนการปรับอายุเกษียณนี้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามบนโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง ผู้ใช้งาน Weibo คนหนึ่งระบุว่า คนที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดมักจะเป็นกลุ่มที่เหนื่อยล้าจากงานหนัก แต่คนที่ทำงานสบายและมีรายได้ดีจะไม่เลือกที่จะเกษียณ แล้วคนรุ่นใหม่จะลงเอยด้วยงานประเภทไหน ขณะที่บางคนระบุว่า การเกษียณอายุล่าช้าหมายถึงจะได้เงินบำนาญล่าช้าและไม่มีอะไรรับประกันว่าจะยังมีงานทำก่อนถึงอายุเกษียณตามกฎหมาย

อ่านข่าว

เปิดประวัติ "คามาลา แฮร์ริส" ตัวเต็งชิงเก้าอี้ ปธน.สหรัฐฯ

นายกฯ ส่ง 3 รมต.คลัง แถลงเงินดิจิทัลวอลเล็ต 24 ก.ค.

จับตำรวจรีดเงินคนจีน 700,000 เร่งตามจับอีก 4 รวมพลเรือน


เปิดประวัติ "คามาลา แฮร์ริส" ตัวเต็งชิงเก้าอี้ ปธน.สหรัฐฯ

Tue, 23 Jul 2024 10:44:01

"คามาลา แฮร์ริส" เกิดที่เมืองโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเป็นลูกสาวของนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจาไมกา และนักชีวการแพทย์อเมริกันเชื้อสายอินเดีย สำเร็จการศึกษาด้านศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และด้านนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย 

แฮร์ริส เริ่มต้นการทำงานที่สำนักอัยการเขตอลาเมดา เคาน์ตี และย้ายมาที่สำนักงานอัยการเขตซานฟรานซิสโก ในปี 2003 เธอได้รับให้ดำรงตำแหน่งอัยการซานฟรานซิสโก ต่อมาในปี 2010 สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นผู้หญิงคนแรก เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรก ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวอีกสมัยในปี 2014

เด็กหญิงคามาลา แฮร์ริส

เด็กหญิงคามาลา แฮร์ริส

อีก 2 ปีถัดมา แฮร์ริสเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งวุฒิสภารัฐแคลิฟอร์เนีย ถือเป็นผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสานแอฟริกันคนที่ 2 และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรก ที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในประวัติศาสตร์ 

เธอเคยเข้าร่วมการไต่สวนของคณะกรรมาธิการวุฒิสภาหลายวาระ และเป็นที่รู้จักอย่างมากจากรูปแบบการถามคำถามเชิงรุก ในการซักถาม เบรตต์ คาวานอห์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ในเวลานั้น ในดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุด จนกลายเป็นดาวเด่นพรรคเดโมแครต

ต้นปี 2019 แฮร์ริสลงแข่งขันในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครต เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคไปลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ก่อนที่จะถอนตัวจากการลงชิงตัวแทนพรรคเดโมแครต และหันมาเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของ โจ ไบเดน และ คู่หูชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดี

แฮร์ริสเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการคัดเลือกจากพรรคการเมืองใหญ่ในเข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีต่อจาก เจราลดีน เฟอร์ราโร ที่เคยได้รับเลือกจากพรรคเดโมแครตในปี 1984 และ ซาราห์ พาลิน ที่ได้รับเลือกจากพรรครีพับลิกันในปี 2008

การคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ทำให้แฮร์ริสสร้างประวัติศาสตร์หลายด้าน ทั้งการเป็นผู้หญิงคนแรก เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรก และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรก ที่ได้นั่งเก้าอี้รองประธานาธิบดี

แค่ 1 นาทีทำเนียบขาวรู้ก่อนโลก "ไบเดน" ถอนตัว

ความเคลื่อนไหวของ "โจ ไบเดน" ในการประกาศถอนตัวออกจากศึกเลือกตั้ง กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อการเมืองภายในของสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก

ภาพหน้าปกของนิตยสารไทม์ 2 เล่ม ตีพิมพ์ห่างกันประมาณ 1 เดือนช่วยสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในพรรคเดโมแครตได้ชัดเจน ฉบับตีพิมพ์ 28 มิ.ย. หลังไบเดนแพ้ในศึกประชันวิสัยทัศน์ ส่วนอีกฉบับตีพิมพ์ 21 ก.ค.แสดงให้เห็นแฮร์ริสเดินเข้ามาในฉาก

นิตยสารไทม์ ซ้ายเป็นฉบับตีพิมพ์  21 ก.ค. ขวาฉบับตีพิมพ์ 28 มิ.ย.

นิตยสารไทม์ ซ้ายเป็นฉบับตีพิมพ์ 21 ก.ค. ขวาฉบับตีพิมพ์ 28 มิ.ย.

ความเคลื่อนไหวของผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้ครองพื้นที่สื่อหลายสำนัก หลังจากไบเดน ลงนามแถลงการณ์ประกาศยุติการหาเสียงเลือกตั้ง การพิจารณาถอนตัวออกจากการสู้ศึกเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันเสาร์ ผู้นำสหรัฐฯ หารือกับคนใกล้ชิดที่บ้านพักตากอากาศในรัฐเดลาแวร์ อีก 1 วันถัดมาผู้นำสหรัฐฯ หารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงทำเนียบขาวและเผยแพร่แถลงการณ์ถอนตัวสู่สาธารณะในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น

ด้าน "คามาลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้พื้นที่บนโลกออนไลน์กล่าวขอบคุณการอุทิศตนทำงานเพื่อประเทศชาติของผู้นำสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีหลังจากไบเดนหันมาสนับสนุนแฮร์ริสชิงเก้าอี้ตัวแทนพรรคเดโมแครต

ไบเดน-แฮร์ริส

ไบเดน-แฮร์ริส

ไบเดนถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกในรอบหลายสิบปีในประวัติศาสตร์ ที่ตัดสินใจประกาศไม่ชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีก 1 สมัย หลังจากเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากบรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตนับตั้งแต่พ่ายแพ้ในศึกประชันวิสัยทัศน์เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน

ด้าน "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ชี้ว่า ไบเดนเป็นประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังระบุว่าการเอาชนะแฮร์ริสง่ายกว่าการเอาชนะไบเดนมาก

อ่านข่าวอื่น :

จับตา "มงคล-บิ๊กเกรียง" ตัวเต็งนั่งประธานวุฒิสภาคนใหม่

เข้มงวดความปลอดภัยโอลิมปิก กระทบธุรกิจริมแม่น้ำแซน


แรงสนับสนุน "แฮร์ริส" เพิ่ม หลัง "ไบเดน" ถอนตัว

Tue, 23 Jul 2024 08:22:00

"คามาลา แฮร์ริส" ได้รับการหนุนหลังจากคนใหญ่คนโตในพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะยังไม่ครบทั้งหมดก็ตาม แต่ดูเหมือนว่านักการเมืองดาวรุ่งหลายคนไม่ออกตัวลงแข่งกับแฮร์ริส และออกโรงสนับสนุนแทน ซึ่งล่าสุดทีมหาเสียงของเธอกวาดเงินบริจาคได้ร่วม 3,000 ล้านบาท ภายในวันเดียว

เสียงปรบมือและโห่ร้องต้อนรับดังขึ้นทันทีที่ คามาลา แฮร์ริส รอง ปธน.สหรัฐฯ ปรากฏตัวที่สำนักงานใหญ่ของทีมหาเสียงในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ที่เคยเป็นศูนย์กลางแคมเปญของ ไบเดน-แฮร์ริส แต่เวลานี้ถ้าสังเกตป้ายที่แปะไว้ตามเสาต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นชื่อของแฮร์ริสเรียบร้อยแล้ว

ทีมหาเสียงของแฮร์ริสเปิดเผยว่าในรอบ 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่เธอกลายเป็นว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับเงินสนับสนุนแล้วถึง 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะเดินทางไปยังเดลาแวร์ รอง ปธน.สหรัฐฯ ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกหลังจาก "โจ ไบเดน" ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวจากการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยและหันมาหนุนหลังเธอเต็มที่

แม้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้นำสหรัฐฯ แต่เวลานี้แฮร์ริสยังไม่ถือว่าเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ จนกว่าจะผ่านพ้นการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตในเดือนหน้า และหลายฝ่ายกำลังจับตามองว่าจะมีใครในพรรคลุกขึ้นมาลงสนามแข่งขันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคกับเธอหรือไม่

อ่านข่าว : "ไบเดน" ประกาศถอนตัว หนุน "แฮร์ริส" ชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ

แกนนำเดโมแครตตบเท้าหนุนหลัง "แฮร์ริส"

แต่เบื้องต้น รอง ปธน.สหรัฐฯ ได้รับเสียงสนับสนุนจากบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในพรรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ออกมาแสดงความมั่นใจว่าแฮร์ริสจะนำพรรคคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ หลังจากก่อนหน้านี้หลายฝ่ายจับตามองท่าทีจากคนสำคัญในพรรคเดโมแครตที่ดูเหมือนจะยังไม่ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนแฮร์ริสอย่างเต็มกำลัง ทั้งที่พยายามกดดันไบเดนทั้งหน้าฉากและหลังฉากให้ถอนตัวจากการลงเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้

ขณะที่ ฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แกนนำอีกคนของเดโมแครต ระบุว่าเตรียมจะพบหารือกับแฮร์ริสเร็ว ๆ นี้

ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาหลังจากไบเดนประกาศถอนตัว ปรากฏว่านักการเมืองดาวรุ่งหลายคนที่คาดว่าอาจจะกระโดดลงมาชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคกับแฮร์ริสก็ประกาศหนุนหลังเธอแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ เกรทเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน และ ผู้ว่าการจากอีกหลายรัฐ นับจากนี้สิ่งที่ต้องจับตามอง น่าจะเป็นตัวเลือกคู่หูชิงรองประธานาธิบดีของแฮร์ริส ที่อาจเป็นผู้ว่าการรัฐคนดังหลายๆ คน

กวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย

กวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย

ตำรวจลับยอมรับบกพร่องเหตุลอบยิง "ทรัมป์"

ส่วนความคืบหน้าในคดีพยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ และตัวแทนพรรครีพับลิกัน เอไลจา เครน สส.รีพับลิกันจากรัฐแอริโซนา ซึ่งเคยเป็นพลแม่นปืนในหน่วยซีล เผยแพร่วิดีโอของตัวเองที่ปืนขึ้นไปสำรวจบริเวณหลังคาอาคารที่ โธมัส แมทธิว ครูกส์ ผู้ก่อเหตุยิงทรัมป์ใช้เป็นจุดปฏิบัติการ ระหว่างทรัมป์ปราศรัยเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย

เครนระบุว่า ในฐานะพลแม่นปืน เขามองว่ามาตรการด้านควาดปลอดภัยวันเกิดเหตุบกพร่องหลายจุด ทำให้ทรัมป์ตกเป็นเป้าการโจมตีได้โดยง่าย

ขณะที่ คิมเบอร์ลี เชเทิล ผู้อำนวยการหน่วยตำรวจลับที่ทำหน้าที่อารักขาผู้นำและอดีตผู้นำสหรัฐฯ ให้การต่อคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรส ยอมรับว่าหน่วยตำรวจลับล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า ตนขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งเหตุพยายามลอบสังหารทรัมป์ ถือเป็นปฏิบัติการที่ล้มเหลวครั้งสำคัญที่สุดในรอบหลายสิบปีของหน่วยตำรวจลับ

คิมเบอร์ลี เชเทิล ผู้อำนวยการหน่วยตำรวจลับ

คิมเบอร์ลี เชเทิล ผู้อำนวยการหน่วยตำรวจลับ

อ่านข่าวอื่น :

หามือยิง "เลียงผา" ตกเขาสูงที่หล่มสัก ผ่าซากพบกระสุน 7 นัด

ใครวางแผนไปเที่ยวลาว เตรียมพกเงินหลายสกุล

 

 


สะเทือนขวัญ "โครเอเชีย" กราดยิงบ้านพักคนชราดับ 6 คน

Tue, 23 Jul 2024 06:48:07

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2567 เกิดเหตุมือปืนบุกเข้าไปกราดยิงผู้สูงวัยและเจ้าหน้าที่ภายในบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในเมือง Daruvar ทางตะวันออกของประเทศโครเอเชีย เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหลบหนีไป

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโครเอเชีย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านพักคนชรา พร้อมอาวุธปืนที่ครอบครองอย่างผิดกฎหมาย

เหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงวัย 5 คนและเจ้าหน้าที่ประจำบ้านพักคนชรา 1 คน นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บอีก 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้อาการสาหัส 4 คน โดยขณะเกิดเหตุมีผู้อยู่ภายในบ้านพักชราแห่งนี้ประมาณ 20 คน

นอกจากนี้ ตำรวจยังไม่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารผ่านศึกตามที่สื่อท้องถิ่นรายงานหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ยืนยันว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต มีแม่ของผู้ต้องสงสัยซึ่งพักอยู่ที่บ้านพักคนชราแห่งนี้มา 10 ปีรวมอยู่ด้วย โดยขณะนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุและเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนหา อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยเป็นที่รู้จักของตำรวจ โดยมีประวัติเคยก่อเหตุวุ่นวายและใช้ความรุนแรงในครอบครัว

ด้านประธานาธิบดีโครเอเชีย ระบุว่า รู้สึกตกใจกับเหตุกราดยิงที่โหดร้ายและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานยกระดับมาตรการเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงในสังคม รวมทั้งยกระดับข้อกฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น

ขณะที่นายกรัฐมนตรีโครเอเชียประณามการก่ออาชญากรรมในครั้งนี้ และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งระบุว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 90 กว่าปี

เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนขวัญให้กับประชาชนจำนวนมาก เพราะเมืองนี้ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 7,000 คน เป็นเมืองที่เงียบสงบและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในการไปใช้บริการสปา เนื่องจากมีบ่อน้ำพุร้อนหลายจุด

สำหรับโครเอเชีย เหตุยิงกันเป็นเรื่องแปลกและไม่ค่อยเกิดขึ้น ซึ่งเหตุกราดยิงที่บ้านพักคนชราในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย นับตั้งแต่ประกาศอิสรภาพในปี 1991

อ่านข่าว

อดีตสามีบุกยิง ผอ.โรงเรียน-ญาติ 4 ศพ ก่อนปลิดชีพตัวเองหนีผิด

"สเปน" ประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยวล้น ทำที่พักราคาแพง


"สเปน" ประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยวล้น ทำที่พักราคาแพง

Mon, 22 Jul 2024 15:04:08

วันนี้ (22 ก.ค.2567) ประชาชนนับหมื่นคนรวมตัวเดินขบวนไปตามถนนในเมืองปัลมา เด มายอร์กา บนเกาะมายอร์กา ทางตะวันออกของสเปน เพื่อคัดค้านการหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวยังจุดหมายปลายทางหลายแห่งในสเปน โดยผู้ประท้วงหลายคนถือโมเดลเครื่องบินส่วนตัวและเรือสำราญ พร้อมป้ายข้อความขับไล่นักท่องเที่ยว

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วในสเปน โดยเกิดการประท้วงขึ้นต่อเนื่องในหลายเมือง หลังจากคนในพื้นที่ส่วนหนึ่งมองว่าบรรดานักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตามเมืองใหญ่และเมืองตากอากาศ ส่งผลให้ราคาที่พักอาศัยเพิ่มสูงขึ้น จนคนท้องถิ่นจำนวนมากไม่สามารถอาศัยอยู่ในย่านใจกลางเมืองได้อีกต่อไป

ผู้ประท้วงถือป้ายประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยว เดินขบวนไปตามถนนในเมืองปัลมา เด มายอร์กา บนเกาะมายอร์กา ทางตะวันออกของสเปน

ผู้ประท้วงถือป้ายประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยว เดินขบวนไปตามถนนในเมืองปัลมา เด มายอร์กา บนเกาะมายอร์กา ทางตะวันออกของสเปน

เกาะมายอร์กา เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2 รองจากกาตาลุนญา โดยสถาบันสถิติแห่งชาติสเปน ระบุว่า ปี 2023 มายอร์การองรับนักท่องเที่ยวมากถึง 14.4 ล้านคน และรายได้จากภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 45 ของจีดีพีของเกาะ

ขณะที่ปี 2024 สเปนรองรับนักท่องเที่ยวมากถึง 16.1 ล้านคนภายในระยะเวลาครึ่งแรกของปี เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 18 ซึ่งปี 2023 การท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้สเปนมากถึง 1.09 แสนล้านยูโร หรือราว 4.3 ล้านล้านบาท

อ่านข่าว

"ไบเดน" ประกาศถอนตัว หนุน "แฮร์ริส" ชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ

ปลดป้าย "ซื้อขายพาสปอร์ต" กลางแยกห้วยขวาง

จับตา "เลือกตั้งสหรัฐฯ" ไทยเตรียมมือสงครามการค้ารอบใหม่


"ไบเดน" ประกาศถอนตัว หนุน "แฮร์ริส" ชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ

Mon, 22 Jul 2024 07:02:28

วันนี้ (22 ก.ค.2567) โจ ไบเดน ประกาศสละสิทธิ์การเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใจความตอนหนึ่งระบุว่า ถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้ทำหน้าที่ประธานาธิบดีของประชาชน แม้ว่าเขามีความตั้งใจที่จะลงเลือกตั้งอีกสมัย แต่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคเดโมแครตและประเทศที่จะให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีให้สำเร็จตลอดวาระที่เหลืออยู่

ในสัปดาห์นี้เขาจะแถลงต่อประชาชนทั่วประเทศถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินใจ พร้อมกล่าวขอบคุณ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมในการปฏิบัติภารกิจทั้งหมด และแสดงความซาบซึ้งต่อชาวอเมริกันทุกคนสำหรับความหวังและความไว้ใจที่ทุกคนมีให้กับเขา

หลังจากเผยแพร่จดหมาย ไบเดน ได้โพสต์ข้อความใน "X" ประกาศสนับสนุนให้แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในเดือน พ.ย.นี้ โดยระบุว่า การตัดสินใจเลือกแฮร์ริส เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2020 เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา วันนี้เขาต้องการให้การสนับสนุนแฮร์ริส เป็นตัวแทนของพรรค ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่เดโมแครตจะต้องร่วมมือกันและเอาชนะทรัมป์

คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ สมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนต่างพากันเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว ซึ่งคนในพรรคต่างชื่นชมไบเดนว่ากล้าหาญและเป็นผู้รักชาติที่แท้จริง เพราะการตัดสินใจยอมถอยโดยเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ไม่ใช่เรื่องง่าย

ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า ไบเดนไม่เพียงแต่เป็นประธานาธิบดีที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง การตัดสินใจของเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขายกให้ประเทศ พรรคและอนาคตของเราเป็นอันดับแรก วันนี้ไบเดนแสดงให้เราเห็นว่าเขาคือผู้รักชาติและชาวอเมริกันที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี พร้อมด้วยฮิลลารี่ ภรรยา ออกแถลงการณ์ร่วมชื่นชมไบเดน พร้อมระบุว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่จะร่วมกับไบเดนให้การสนับสนุนแฮร์ริสเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อสนับสนุนเธอ เพราะไม่มีอะไรทำให้ทั้งคู่กังวลมากไปกว่าภัยคุกคามจากทรัมป์ หากว่าเขาได้เป็นผู้นำประเทศสมัยที่ 2

รวมถึงบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีซึ่งเคยขอให้ไบเดนถอนตัว ระบุว่า การกระทำของไบเดนเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือผู้นำที่รักประเทศ แต่ขณะเดียวกันโอบามาเตือนถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งพรรคเดโมแครตกำลังจะนำไปสู่เส้นทางที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เขามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าผู้นำพรรคของเราจะสามารถสร้างกระบวนการคัดสรรผู้แทนของพรรคที่มีความโดดเด่นได้

นอกจากคนในพรรคแล้ว ผู้นำหลายประเทศต่างโพสต์ข้อความชื่นชมและเคารพการตัดสินใจของไบเดน ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนี, นายกฯ โปแลนด์ รวมถึงนายกฯ อังกฤษ ส่วนท่าทีของพรรครีพับลิกันยังคงซ้ำเติมไบเดน โดยระบุว่าไบเดนไม่สามารถทำหน้าที่ประธานาธิบดีได้แล้วและควรลาออกตั้งแต่ตอนนี้

อ่านข่าว

ปราศรัยคู่! ทรัมป์-แวนซ์ ขึ้นเวทีถาม "เดโมแครต" ใครตัวแทนพรรค ?

"บังกลาเทศ" ประกาศเคอร์ฟิวคุมเหตุประท้วงโควตาตำแหน่งงานรัฐ


ปราศรัยคู่! ทรัมป์-แวนซ์ ขึ้นเวทีถาม "เดโมแครต" ใครตัวแทนพรรค ?

Sun, 21 Jul 2024 14:02:00

วันนี้ (21 ก.ค.2567) กลุ่มผู้สนับสนุนส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" อดีต ปธน.สหรัฐฯ และ ตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ระบุว่าเขาเพิ่งจะรับกระสุนเพื่อประชาธิปไตยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตอบโต้นักวิจารณ์ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย

ทรัมป์ซึ่งยังคงติดผ้าปิดแผลที่หูข้างขวาจูงมือ เจ.ดี.แวนซ์ คู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ขึ้นเวทีหาเสียงที่เมืองแกรนด์ แรบพิดส์ รัฐมิชิแกน ซึ่งถือเป็นการหาเสียงร่วมกันครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่งตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ และนับเป็นครั้งแรกหลังทรัมป์รอดชีวิตจากเหตุพยายามลอบสังหารด้วย ท่ามกลางผู้เข้าฟังการปราศัยประมาณ 12,000 คน

ทรัมป์ใช้โอกาสนี้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์ 2025 ซึ่งเป็นแนวร่างนโยบายที่สถาบันคลังสมองอนุรักษ์นิยมเขียนขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลที่มาจากพรรครีพับลิกันได้ใช้ พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่ใช่พวกหัวรุนแรง นอกจากนี้ทรัมป์ยังล้อเลียนสถานการณ์ภายในพรรคเดโมแครตว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะส่งใครลงสมัคร

กลุ่มหนุนเดโมแครตวอน "ไบเดน" ถอนตัวศึกเลือกตั้ง

ขณะที่นักเคลื่อนไหวและกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตจำนวนหนึ่งออกมารวมตัวหน้าทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเรียกร้องให้ "โจ ไบเดน" ปธน.สหรัฐฯ วัย 81 ปี ถอนตัวออกจากการลงชิงตำแหน่งผู้นำประเทศต่ออีกหนึ่งสมัย ท่ามกลางเสียงรียกร้องจากสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ทยอยออกมากดดันให้ไบเดนถอนตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันไบเดนอยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังตรวจพบเชื้อโควิด-19 ขณะที่แพทย์ประจำตัว เปิดเผยว่า ไบเดน ได้รับยาต้านไวรัสครบโดสแล้ว เมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (20 ก.ค.2567) แต่ยังคงมีอาการไอแห้งและมีเสียงแหบ ซึ่งถือว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ

อ่านข่าวอื่น :

เร่งค้นปม "ชายหัวร้อน" ยิง ตร.ตาย ก่อนพบเป็นศพในบ้านย่านพระราม 2

เพื่อนบ้านเผยชายยิง ตร. อยู่ตัวคนเดียว ลูกเมียหนีเพราะอารมณ์ร้าย


"บังกลาเทศ" ประกาศเคอร์ฟิวคุมเหตุประท้วงโควตาตำแหน่งงานรัฐ

Sun, 21 Jul 2024 13:20:42

วันนี้ (21 ก.ค.2567) รัฐบาลบังกลาเทศบังคับใช้คำสั่งห้ามการชุมนุมและห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว และสั่งระดมกำลังทหารตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยและตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์และสกัดการประท้วงที่ทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงทั่วประเทศอยู่ที่อย่างน้อย 133 คน

การประท้วงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มนักศึกษาไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลกำหนดระบบโควตาตำแหน่งงานในภาครัฐที่จำกัดให้เฉพาะคนบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงการสงวนตำแหน่งงานมากถึงร้อยละ 30 ไว้สำหรับลูกหลานของผู้ที่เข้าร่วมในการรบกับปากีสถานในปี 1971 ที่ทำให้บังกลาเทศได้รับเอกราช

ผู้ประท้วงต่อต้านโควตาตำแหน่งงานรัฐ ปะทะกับตำรวจในกรุงธากาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2567

ผู้ประท้วงต่อต้านโควตาตำแหน่งงานรัฐ ปะทะกับตำรวจในกรุงธากาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2567

ผู้ประท้วงมองว่าระบบดังกล่าวเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล และถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งในวันนี้ (21 ก.ค.) ศาลสูงบังกลาเทศมีกำหนดจะหารือเพื่อตัดสินว่าจะยกเลิกระบบโควตาตำแหน่งงานในภาครัฐที่ก่อให้เกิดความไม่สงบไปทั่วประเทศหรือไม่

อ่านข่าว : เตือนคนไทยในกรุงธากา เลี่ยงเดินทางใกล้เหตุประท้วง

ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปบังกลาเทศ พร้อมทั้งระบุว่าจะทยอยอพยพนักการทูตและครอบครัวออกจากบังกลาเทศ สืบเนื่องจากเหตุไม่สงบที่เกิดขึ้น

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไทย ระบุว่า ยังไม่มีรายงานคนไเคอร์ฟิวทยหรือนักศึกษาไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วง แต่ร้องขอให้คนไทยในกรุงธากาหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพิจารณางดการเดินทางออกนอกที่พำนักโดยไม่จำเป็นในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังขอให้คนไทยที่มีแผนจะเดินทางไปบังกลาเทศพิจารณาเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะสงบ

อ่านข่าว

รู้จักเกาะ "ตาฮิติ" สถานที่แข่งโต้คลื่น โอลิมปิก 2024

ทั่วโลกทยอยกลับสู่ภาวะปกติ หลังระบบไอที ขัดข้องครั้งใหญ่

"กัมพูชา" เตรียมขุดคลองฟูนัน เตโช ใช้งบฯ 1,700 ล้านดอลลาร์


เตือนคนไทยในกรุงธากา เลี่ยงเดินทางใกล้เหตุประท้วง

Sat, 20 Jul 2024 17:01:00

วันนี้ (20 ก.ค.2567) กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า ในกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 18 ก.ค.2567 โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกัน มีการทำลายอาคารสถานที่ในที่สาธารณะ การปิดเส้นทางเดินรถและขนส่งมวลชน รวมถึงการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวนมาก และมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,000 คน

ต่อมา รัฐบาลบังกลาเทศได้ประกาศระงับการให้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตรวมถึงยกระดับการรักษาความมั่นคงในกรุงธากา

กต. เตือนคนไทยในกรุงธากา บังกลาเทศ หลีกเลี่ยงเดินทางใกล้จุดที่มีเหตุการณ์ประท้วง และ งดเดินทางออกนอกที่พำนักโดยไม่จำเป็น

กต. เตือนคนไทยในกรุงธากา บังกลาเทศ หลีกเลี่ยงเดินทางใกล้จุดที่มีเหตุการณ์ประท้วง และ งดเดินทางออกนอกที่พำนักโดยไม่จำเป็น

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ว่ายังไม่มีรายงานคนไทยหรือนักศึกษาไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ขอเตือนให้คนไทยในกรุงธากาโปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางไปใกล้บริเวณที่มีเหตุการณ์ประท้วง และพิจารณางดการเดินทางออกนอกที่พำนักโดยไม่จำเป็นในช่วงนี้ ทั้งนี้ ขอให้คนไทยติดตามข่าว คำเตือน และคำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจากรัฐบาลท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

กต. เตือนคนไทยในกรุงธากา บังกลาเทศ หลีกเลี่ยงเดินทางใกล้จุดที่มีเหตุการณ์ประท้วง และ งดเดินทางออกนอกที่พำนักโดยไม่จำเป็น

กต. เตือนคนไทยในกรุงธากา บังกลาเทศ หลีกเลี่ยงเดินทางใกล้จุดที่มีเหตุการณ์ประท้วง และ งดเดินทางออกนอกที่พำนักโดยไม่จำเป็น

สำหรับคนไทยที่มีแผนจะเดินทางไปบังกลาเทศ ขอให้พิจารณาเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะสงบ และสำหรับคนไทยในบังกลาเทศ สามารถติดต่อ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ (+880 17) 0964 0808 ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าว : ไฟไหม้ตึกในบังกลาเทศ เสียชีวิต 43 คน 

อากาศสุดขั้ว! เวียดนาม บังกลาเทศคนหลบร้อน-อัฟกานิสถานหิมะตก 

"ริมาล" ถล่มอินเดีย-บังกลาเทศกระทบนับล้านตายอย่างน้อย 16 คน

 

 

 

 


ทั่วโลกทยอยกลับสู่ภาวะปกติ หลังระบบไอที ขัดข้องครั้งใหญ่

Sat, 20 Jul 2024 13:22:00

ความคืบหน้ากรณีระบบไอทีล่มจนส่งผลกระทบต่อสายการบิน สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ธนาคาร ทั่วโลก

ล่าสุด วันนี้ (20 ก.ค.2567) ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก เริ่มทยอยกลับมาให้บริการได้ตามปกติ หลังจากเกิดเหตุระบบไอทีขัดข้องอย่างรุนแรง จากการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่มีข้อบกพร่องของคราวด์สไตรค์ บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ จนส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการวินโดว์ส

จากข้อมูล ชี้ว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.2567) มีเที่ยวบินมากกว่า 4,000 เที่ยวต้องถูกยกเลิกหรือราวร้อยละ 3.9 ของเที่ยวบินทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าล่า สุดสายการบินหลายแห่งจะเริ่มกลับมาให้บริการได้แล้ว แต่คาดว่า อาจยังมีเหตุล่าช้าและการยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนต่อเนื่องไปตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้

สนามบินหลายแห่งกลับมาให้บริการได้ตามปกติ แต่หลายประเทศยังเกิดปัญหาล่าช้า และเที่ยวบินยกเลิกตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังเกิดเหตุระบบไอทีขัดข้องทั่วโลก

สนามบินหลายแห่งกลับมาให้บริการได้ตามปกติ แต่หลายประเทศยังเกิดปัญหาล่าช้า และเที่ยวบินยกเลิกตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังเกิดเหตุระบบไอทีขัดข้องทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ CEO ของคราวด์สไตรค์ แสดงความเสียใจต่อเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยธุรกิจห้างร้าน สื่อ ธนาคาร โรงพยาบาล และสายการบิน จัดเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ด้านบริษัทไมโครซอฟต์ ระบุว่า ผู้ใช้งานอาจต้องรีบูธระบบใหม่หลายครั้งกว่าจะใช้งานได้ตามปกติ โดยได้รับรายงานว่า ผู้ใช้บางรายต้องรีบูธถึง 15 ครั้ง เหตุขัดข้องของซอฟต์แวร์เพียงตัวเดียวส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และทำให้ราคาหุ้นของคราวด์สไตรค์ ปรับตัวลดลงถึงราวร้อยละ 12 เมื่อวานนี้ 

ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก เริ่มทยอยกลับมาให้บริการได้ตามปกติ หลังจากเกิดเหตุระบบไอทีขัดข้องอย่างรุนแรง จากการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่มีข้อบกพร่องของคราวด์สไตรค์ บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จนส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการวินโดว์ส

ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก เริ่มทยอยกลับมาให้บริการได้ตามปกติ หลังจากเกิดเหตุระบบไอทีขัดข้องอย่างรุนแรง จากการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่มีข้อบกพร่องของคราวด์สไตรค์ บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จนส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการวินโดว์ส

ขณะที่ สนามบินดอนเมือง บรรยากาศที่สนามบินดอนเมือง ขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากมาใช้บริการเข้าเช็กอินเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบินเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

ทีมข่าวสอบถามผู้ที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่ ต่างก็ไม่ทราบถึงระบบขัดข้องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และไม่ใช่กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันกับทีมข่าวว่า เดินทางเข้ามาใช้บริการตามปกติ โดยเช็กอินก่อนเวลาขึ้นเครื่องล่วงหน้าประมาณ 1 ชม.

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัดมหาชน เปิดเผยว่า จากเหตุระบบที่เรียกว่า นาวิแทร์ (Navitaire) ซึ่งเป็นระบบการเช็กอินของแต่ละสายการบิน เกิดปัญหาการขัดข้องขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้สายการบินแอร์เอเชีย แอร์เอเชียเอ็กซ์ สกูต และ jetstar airlines ไม่สามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ชั่วคราว ตั้งแต่ เมื่อช่วง 16.00 น.เมื่อวานนี้ แต่ระบบก็สามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้งในช่วงเวลา 19.00 น

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัดมหาชน

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัดมหาชน

จนกระทั่งเมื่อ 04.00 น.ที่ผ่านมา ก็ได้เกิดเหตุขัดข้องขึ้นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้ระบบแมนนวล เนื่องจากไม่สามารถเช็กอินออนไลน์ได้จำเป็นต้องให้ประชาชนมาเช็กอินที่หน้าเคาน์เตอร์ ทำให้ทางบริษัทท่าอากาศยานไทย ต้องประกาศให้ประชาชนเดินทางมาเช็กอินล่วงหน้า 3 ชม.เพื่อเลี่ยงปัญหาติดขัดในการเดินทางที่ล่าช้า

จนกระทั่งระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติเมื่อช่วง 09.00 น. ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้สถานการณ์เป็นปกติแล้ว ไม่มีประชาชนตกค้าง แต่สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากถึงกว่า 200 เที่ยวบิน ที่มีผู้โดยสารประมาณ 40,000 คน ที่ต้องออกเดินทางช้ากว่าเวลาปกติ

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางวันนี้ และต้องเช็กอินที่เคานต์เตอร์พร้อมโหลดสัมภาระ ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 3 ชม. ก่อนกำหนดการเดินทาง

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางวันนี้ และต้องเช็กอินที่เคานต์เตอร์พร้อมโหลดสัมภาระ ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 3 ชม. ก่อนกำหนดการเดินทาง

นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินยกเลิก 1 เที่ยวบิน คือเที่ยวบินจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังเมืองโอซากะประเทศญี่ปุ่น สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ที่กำหนดเดินทาง 10.00 น วันนี้ โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดทางสายการบินได้คืนเงินค่าบริการเต็มจำนวน โดยทางบริษัทท่าอากาศยานไทยได้อำนวยความสะดวกกับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงจุดพักคอย

สายการบินแอร์เอเชีย มีการประชาสัมพันธ์ถึงผู้โดยสารที่เช็กอินออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง

สายการบินแอร์เอเชีย มีการประชาสัมพันธ์ถึงผู้โดยสารที่เช็กอินออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง

ขณะที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย มีการประชาสัมพันธ์ถึงผู้โดยสารที่เช็กอินออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง โดยให้ผู้โดยสารที่ไม่มีสัมภาระใต้ท้องเครื่อง หรือและมีบัตรที่นั่งบอร์ดดิงพาส สามารถเข้าไปภายในบริเวณโถงรอเรียกขึ้นเครื่อง โดยไม่ต้องผ่านจุดเช็กอิน เพื่อเลี่ยงความหนาแน่นบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางวันนี้ และต้องเช็กอินที่เคานต์เตอร์พร้อมโหลดสัมภาระ ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 3 ชม. ก่อนกำหนดการเดินทาง

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางวันนี้ และต้องเช็กอินที่เคานต์เตอร์พร้อมโหลดสัมภาระ ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 3 ชม. ก่อนกำหนดการเดินทาง

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางวันนี้ และต้องเช็กอินที่เคานต์เตอร์พร้อมโหลดสัมภาระ ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 3 ชม. ก่อนกำหนดการเดินทาง

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย ยืนยันว่าทั้ง 6 ท่าอากาศยานที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ก็ได้รับการแก้ไขในลักษณะเดียวกันและกลับเข้าสู่สภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า พร้อมดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

อ่านข่าว : วุ่นทั่วโลก! Microsoft ระบบล่ม ทำสนามบิน-ธนาคาร-หุ้น ปั่นป่วน 

ยังแก้ไม่ได้! Microsoft ไทยแจงระบบล่มเหตุอัปเดตซอฟต์แวร์ 

“แอร์เอเชีย” เปิดใช้บริการตามปกติ เตือนเผื่อเวลาเดินทาง 3 ชม.

 

 

 


ยังแก้ไม่ได้! Microsoft ไทยแจงระบบล่มเหตุอัปเดตซอฟต์แวร์

Fri, 19 Jul 2024 18:10:00

กรณีระบบระบบปฏิบัติการ Microsoft เกิดปัญหาล่มทั่วโลกทำให้กระทบต่อสายการบิน สถานีวิทยุโทรทัศน์ ธนาคารทั่วโลกต้องหยุดให้บริการของ Microsoft อย่างกะทันหัน  

วันนี้ (19 ก.ค.2567) เมื่อเวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไมโครซอฟต์ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เบื้องต้น ระบุว่า จากกรณีปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows ในขณะนี้ไมโครซอฟต์ ขอชี้แจงอย่างเป็นทางการดังนี้

ไมโครซอฟต์ ได้รับทราบถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีเหตุมาจากการอัปเดตแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการรายหนึ่ง และคาดว่าจะมีแนวทางการแก้ไขออกมาเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ นายทรอย ฮันท์ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค ของไมโครซอฟต์ โพสต์ข้อความในแอปพลิเคชัน X ถึงกรณีเกิดปัญหาในระบบคลาวด์ของไมโครซอฟต์ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยระบุว่า ไมโครซอฟต์กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เช่นเดียวกับองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ระบุว่า สายการบินสัญชาติอเมริกันหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงอเมริกัน แอร์ไลน์ เดลตา แอร์ไลน์ และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ต้องสั่งระงับเที่ยวบิน เนื่องจากปัญหาด้านการสื่อสาร

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ระบุว่า เหตุขัดข้องที่เกิดขึ้น จะส่งผลระดับโลกอย่างใหญ่หลวง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสันนิษฐานว่า สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ โดยอาจเป็นความขัดข้องเชิงระบบ หรืออาจเกิดจากการถูกเจาะระบบก็เป็นได้ 

อ่านข่าว วุ่นทั่วโลก! Microsoft ระบบล่ม ทำสนามบิน-ธนาคาร-หุ้น ปั่นป่วน

ผู้โดยสารในสนามบินต่างประเทศรอการเดินทาง

ผู้โดยสารในสนามบินต่างประเทศรอการเดินทาง

ขณะที่โลกออนไลน์ ต่างแชร์ความโกลาหลที่เกิดขึ้น เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ และระบบปฏิบัติการในสนามบิน กลายเป็นจอฟ้า พร้อมกับแฮชแท็ก #Microsoft ที่ขึ้นติดเทรนด์ X ในเวลารวดเร็ว

AFP รายงานว่า ผู้โดยสารจำนวนมากี่ต้องเช็กอินที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เนื่องจากสายการบินบางแห่งใช้การเช็กอินด้วยตนเอง หลังจากเนื่องจากการขัดข้องของ Microsoft ทั่วโลก

อ่านข่าว ทอท.แจ้งผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง หลังระบบ "เช็กอิน" มีปัญหา

เช็กสารการบิน กระทบจากจอฟ้า 

สำหรับประเทศไทย พบว่าที่สนามบินดอนเมืองค่อนข้างโกลาหล โดยบริเวณอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ผู้โดยสารไม่สามารถโหลดสัมภาระได้ เนื่องจากระบบไอทีขัดข้องขณะนี้หลายสารการบินได้รับผลกระทบดังนี้ และแนะนำเผื่อเวลาเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง 

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

บรรยากาศสนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารรอโหลดสัมภาระขึ้นเครื่องหลังระบบ Microsoft ล่ม

บรรยากาศสนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารรอโหลดสัมภาระขึ้นเครื่องหลังระบบ Microsoft ล่ม

ท่าอากาศยานดอนเมือง

ท่าอากาศยานเชียงใหม่

ท่าอากาศยานภูเก็ต

ทอท.แจงกระทบ 14 สายการบินดีเลย์ คาด 23.00 น.เริ่มคลี่คลาย

ทอท.แจงกระทบ 14 สายการบินดีเลย์ คาด 23.00 น.เริ่มคลี่คลาย

การบินไทยยังไม่กระทบไมโครซอฟต์ล่ม 

ต่อมาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ ระบุว่าที่ระบบปฏิบัติการ Windows ของไมโครซอฟต์ ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจาก CrowdStrike Agent ซึ่งใช้สำหรับป้องกัน Malware ที่หลายบริษัทและองค์กร ในประเทศไทยและทั่วโลก ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้ใช้งานทั่วโลก รวมทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ ที่สนามบินนั้น ณ ขณะนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้ผลกระทบใด ๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่มีผลต่อการทำการบินตามตารางบินปกติ

อ่านข่าวอื่นๆ ดีเดย์ปล่อยปลากะพงล็อตแรก 9 หมื่นตัวปราบ "หมอคางดำ"

ทอท.แจงกระทบ 14 สายการบินคาด 5 ทุ่มคลี่คลาย

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ระบบล่มไม่ได้เป็นของระบบของไมโครซอฟต์โดยตรง แต่เป็นระบบที่เรียกว่า นาวิแทร์ (Navitaire) ซึ่งเป็นระบบการเช็กอินของสายการบิน ซึ่งมีสายการบิน 14 แห่งใช้บริการ ดังนี้  Thai AirAsia (FD)  รวมทั้ง Scoot Tiger (TR) และสายการบินที่อาจได้รับผลกระทบได้แก่

14 สายการบินดีเลย์ แต่ไม่ยกเลิกเที่ยวบิน

ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินดังกล่าวจะไม่สามารถเช็กอินได้ สายการบิน จึงใช้วิธีการตรวจสอบเอกสาร เขียนบัตรโดยสาร หรือบอร์ดดิงพาสด้วยมือ จึงใช้เวลานาน ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้า

แต่ยืนยันว่าไม่มีการยกเลิก เที่ยวบิน คาดว่า สถานการณ์จะกลับเข้าภาวะปกติ ภายใน 23.00 น.

เครื่องบินยังขึ้นลงได้ตามปกติ มีแค่ 14 สายการบินที่ดีเลย์ เพราะเจ้าหน้าที่ ต้องเขียน บอร์ดดิงพาส แทน การออกตั๋วจากระบบ ที่ขัดข้อง คาดว่า ใช้เวลาอีก2-3 ชั่วโมง สายการบิน น่าจะแก้ไขระบบสำรองได้

ทั้งนี้ผู้โดยสาร ที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับการเยียวยาได้ ทั้งขอคืนเงิน เลื่อนเปลี่ยนตั๋วได้ ขณะเดียวกัน ทอท.ได้จัดเพิ่มเก้าอี้ น้ำดื่ม เพื่อบรรเทาผลความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นแล้ว

อ่านข่าว

ร้องครูทำโทษให้วิ่งรอบสนาม เด็กชาย ป.1 เสียชีวิต

จบดรามา ทัพกีฬาไทยใส่ "แทร็คสูทลายบ้านเชียง" ลุยปารีสเกมส์

 


วุ่นทั่วโลก! Microsoft ระบบล่ม ทำสนามบิน-ธนาคาร-หุ้น ปั่นป่วน

Fri, 19 Jul 2024 15:01:00

วันนี้ (19 ก.ค.2567) สำนักข่าว BBC รายงานความโกลาหลที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ เมื่อระบบปฏิบัติการ Microsoft ของอภิมหาเศรษฐี บิล เกตต์ "ล่ม" 

ความเสียหายเกิดขึ้นกับธนาคาร สื่อสิ่งพิมพ์ และ สายการบินทั่วโลก ต่างกำลังประสบปัญหาเมื่อระบบไอทีขัดข้องอย่างหนัก เที่ยวบินที่สนามบินซิดนีย์ถูกระงับการบิน สายการบิน United Airlines หยุดบิน และแพลตฟอร์มของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนประสบปัญหาขัดข้อง 

"รถไฟ" ในอังกฤษ

บริษัทรถไฟ Govia Thameslink Railway ของอังกฤษได้เตือนผู้โดยสารให้เตรียมรับมือกับความขัดข้องที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทกำลังประสบปัญหาด้านไอที โดยแจ้งถึงขบวนรถไฟทั้งหมด 4 สายที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ Southern, Thameslink, Gatwick Express และ Great Northern ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการยกเลิกการเดินทางในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ 

สนามบินปั่นป่วนทั่วโลก

สนามบินและสายการบินหลายแห่งทั่วโลก ได้รับผลกระทบไปพร้อม ๆ กันอย่างเป็นวงกว้าง โดยมีการรายงานปัญหาเกี่ยวกับระบบไอที

ทอท.ขอเผื่อเวลาเดินทาง 

นอกจากนี้ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ชี้แจงกับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่า สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ระบบล่มนั้น ไม่ได้เป็นของระบบของไมโครซอฟต์โดยตรง แต่เป็นระบบที่เรียกว่า นาวิแทร์ (Navitaire) ซึ่งเป็นระบบการเช็กอินของแต่ละสายการบิน โดยแต่ละสายการบินก็จะมีระบบ การเช็กอินแยกจากกัน ตอนนี้ระบบ Navitaire นี้ใช้โดยแอร์เอเชีย ซึ่งเมื่อมีปัญหาทั่วโลกก็เลยเกิดเป็นปัญหาว่าที่ไทยก็เช็กอินไม่ได้เลย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ล่าสุด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทอท.เข้าไปช่วยเหลือแล้ว โดยในเบื้องต้นให้ดำเนินการเช็กอินแบบ Manual ไปก่อน หรือถ้าผู้โดยสารได้ทำการเช็กอินมาก่อนหน้านี้แล้วก็ไม่มีสัมภาระ สามารถใช้ระบบ Biomatrcs ผ่านเข้าสู่จุดตรวจค้นได้เลย

นอกจากนี้ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการโดยความสะดวกในเรื่องของการดูแล ทั้งในเรื่องของการเข้าไปช่วยสายการบิน ในเรื่องการเช็กอิน Manual และอำนวยความสะดวกผู้โfยสารในการตรวจสอบ ซึ่งได้ประสานงานกับทางสายการบิน แอร์เอเชียอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทั้งนี้ยอมรับว่า ทั้ง 6 ท่าอากาศยานของ ทอท.ได้รับผลกระทบทั้งหมด นอกจากนี้ ยังขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง เนื่องจากอาจจะต้องใช้เวลาเช็คอินนานกว่าปกติ ยืนยันว่า พร้อมดูแลผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารไปแล้ว ทอท.พร้อมอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้โดยสาร

ด้าน เพจ Blogone เพจเกี่ยวกับความรู้ด้านไอที รายงานว่าผู้ใช้งาน Windows ทั่วโลกที่ลง CrowdStrike Sensor ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ป้องกันด้านความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ และดูแลความปลอดภัยของ Microsoft ด้วยนั้น น่าจะเป็นต้นตอของปัญหาระบบปฏิบัติการที่รวนไปทั่วโลกในขณะนี้  

นอกจากนี้ยังมีรายงานความเสียหายทางธุรกิจเกิดขึ้นอีก ตลาดหุ้นในสหราชอาณาจักรต้องหยุดทำการซื้อขายชั่วคราว, ร้านอาหารไม่สามารถให้บริการการชำระเงินออนไลน์ได้, เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐอลาสก้าของสหรัฐฯ ต้องรับสายฉุกเฉินจำนวนมาก ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุอาชญากรรม หรือการต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจเลย 

อ่านข่าวอื่น :

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งปิดท่องเที่ยว "น้ำตกป่าละอู"

เทียนเล่มเล็กมัดรวมเป็นต้น จนก้าวสู่ "ประเพณี" แห่เทียนพรรษา

 

 

 


จับตา "ทรัมป์" เตรียมกล่าวสุนทรพจน์ประชุมใหญ่ "รีพับลิกัน"

Fri, 19 Jul 2024 07:10:00

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2567 ช่วงค่ำตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือสาย ๆ วันนี้เวลาประเทศไทย (19 ก.ค.2567) "โดนัลด์ ทรัมป์" อดีต ปธน.สหรัฐฯ จะขึ้นเวทีประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน เพื่อกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

สุนทรพจน์ครั้งนี้เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด โดยจะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกหลังรอดชีวิตหวุดหวิดจากความพยายามลอบสังหาร และน่าสนใจอย่างยิ่งเพราะอดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวไว้ว่าต้องรื้อบทพูดใหม่ทั้งหมดหลังเหตุดังกล่าว โดยหลายฝ่ายจับตาว่าสารในสุนทรพจน์จะเน้นเรื่องความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากน้อยแค่ไหน

ก่อนหน้านี้ ลาร่า ทรัมป์ ภรรยาของ เอริก ทรัมป์ ลูกคนที่ 3 ของทรัมป์ เปิดเผยว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านประสบการณ์เฉียดตายซึ่งทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับเขา ซึ่งจะได้เห็นในการกล่าวสุนทรพจน์

ลาร่า ทรัมป์ ลูกสะใภ้ โดนัลด์ ทรัมป์

ลาร่า ทรัมป์ ลูกสะใภ้ โดนัลด์ ทรัมป์

ล่าสุดมีรายงานว่าโดนัลด์ ทรัมป์ พูดถึงเหตุพยายามลอบสังหารแบบลงรายละเอียดมากกว่าที่เคย ระหว่างการปรากฏตัวในอีเวนต์ที่มิลวอกี นอกงานประชุมใหญ่พรรค โดยพูดถึงการหาเสียงในรอบนี้ว่าเป็นปีแห่งการหาเสียงที่ดี แต่ดันถูกยิง ซึ่งท้ายที่สุดพระเจ้ายังสถิตย์อยู่กับเขา เขาเข้าใจถึงคำว่าเฉียดตาย แถมยังปล่อยมุขตลกว่าเขาไม่ได้รอดจากเหตุการณ์นี้เสียทีเดียว แต่เหตุที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาไป

เผยเจ้าหน้าที่หมายหัวผู้ก่อเหตุก่อนยิง "ทรัมป์" 

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดีความพยายามลอบสังหาร เวลานี้เริ่มเห็นลำดับเหตุการณ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยสมาชิกสภาคองเกรส ที่ได้รับจากหน่วยงานรักษากฎหมาย ระบุว่า ตำรวจท้องที่ สังเกตเห็นชายต้องสงสัย มีพฤติกรรมแปลก ๆ อยู่ในงาน มีเป้ แต่ยังไม่เห็นอาวุธ ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก่อนเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นความผิดปกติแล้ว กำลังติดตามความเคลื่อนไหว แต่พลาดเป้าไปเพราะเขาหายไปในฝูงชน กระทั่งอีกสักพัก หน่วยแม่นปืนจึงเห็นผู้ก่อเหตุ คือ โทมัส แมทธิว ครูกส์ ใช้เครื่องวัดระยะ ยืนเล็งตามจุดต่าง ๆ ราว 20 นาทีก่อนเกิดเหตุ จึงวิทยุแจ้งหน่วยต่าง ๆ

ขณะที่ข้อมูลอีกด้าน เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ แจ้งต่อสมาชิกสภาคองเกรสว่า ครูกส์ใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่น ๆ ค้นหารูปภาพของทรัมป์และ ปธน.โจ ไบเดน รวมถึงบุคคลสาธารณะอื่น ๆ อีกหลายคน นอกจากนี้ยังมีประวัติการค้นหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจของเขาเองด้วย

ขณะที่อดีตเพื่อนร่วมชั้นหลายคน ระบุว่า ไม่เคยได้ยินมือปืนแสดงอุดมการณ์ทางการเมืองใดเป็นพิเศษ แต่อดีตเพื่อนร่วมชั้นที่เรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายกับมือปืน ให้สัมภาษณ์ว่า ครูกส์แสดงความรังเกียจนักการเมืองทั้ง 2 พรรค และเขาไม่เห็นด้วยกับคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่ว่าครูกส์เคยถูกรังแกหรือเป็นคนเก็บตัว แต่เป็นคนฉลาดและมีกลุ่มเพื่อนเล็ก ๆ ของตัวเอง

"ไบเดน" กักตัวรักษาโควิด-19

ขณะที่วานนี้ (18 ก.ค.) ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ของ โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ โดยระบุว่า ไบเดนมีอาการทางเดินหายใจส่วนบน น้ำมูกไหลและไอแห้ง พร้อมกับความรู้สึกไม่สบายทั่ว ๆ ไป ประธานาธิบดีได้รับยา Paxlovid โดสแรกแล้ว เขาจะกักตัวเองที่บ้าน

อาการป่วยนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ไบเดนรณรงค์หาเสียงใน ลาส เวกัส และทำให้ต้องยกเลิกกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ไป ซึ่งประชาชนบางส่วนออกมาแสดงความผิดหวัง และยิ่งตอกย้ำเสียงเรียกร้องจากผู้สนับสนุน รวมถึงสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ต้องการให้ไบเดนสละตำแหน่งว่าที่ตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดี

อาการป่วยของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากสมาชิกพรรคเดโมแครตที่เรียกร้องให้เขาหลีกทางจากการเป็นตัวแทนพรรคหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีรายงานว่าคนใหญ่คนโตในพรรคเริ่มพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจเรียกได้ว่า เวลานี้ไบเดนทั้งโดดเดี่ยวในการต้องกักตัว แถมอาจจะยังโดดเดี่ยวในทางการเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

โจ ไบเดน

โจ ไบเดน

"ปิดหูขวา" เทรนด์ใหม่แหวกแนวหนุน "ทรัมป์"

ผู้สนับสนุน "โดนัลด์ ทรัมป์" อดีต ปธน.สหรัฐอเมริกา ที่การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน พากันแปะผ้ากอซที่หูข้างขวาเป็นไอเดียการแสดงออกซึ่งการสนับสนุนและให้กำลังใจทรัมป์ที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาหมาด ๆ

หลังจากทรัมป์รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากเหตุการณ์ลอบสังหารระหว่างขึ้นเวทีหาเสียงเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนียและเข้ารักษาอาการบาดเจ็บแล้ว ก็ปรากฏตัวด้วยสภาพที่มีผ้ากอซอยู่ที่หูขวา ผู้สนับสนุนก็พากันแปะผ้ากอซตามด้วย เพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างทรัมป์ นี่กลายเป็นแฟชั่นใหม่ล่าสุดในหมู่ผู้สนับสนุนไปโดยปริยาย

ผู้สนับสนุนทรัมป์

ผู้สนับสนุนทรัมป์

นอกจากบาดแผลที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพทรัมป์ชูกำปั้นขวาขึ้นเหนือศีรษะพร้อมเงยหน้าขึ้นหลังรอดชีวิตในวินาทีสุดระทึก กลายเป็นภาพจำจากเหตุการณ์ และเป็นภาพที่ต้องตาต้องใจผู้สนับสนุนเป็นอย่างมาก เพราะผู้สนับสนุนมองว่า แสดงถึงความไม่เกรงกลัวและคุณสมบัติผู้นำของทรัมป์

ทำให้ภายในไม่ถึง 3 วันหลังเกิดเหตุ ผู้สนับสนุนพากันนำภาพมาออกแบบ ใส่ข้อความต่าง ๆ ทำเป็นเสื้อยืดสนับสนุนทรัมป์ลายใหม่ล่าสุดไปเรียบร้อยแล้ว และวางขายเรียงรายบนแผงร่วมกับสินค้าอื่น ๆ ที่การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน อย่างเสื้อตัวนี้เขียนว่า "Fearless" ไม่เกรงกลัว ไม่หวาดหวั่น

เสื้อลายทรัมป์

เสื้อลายทรัมป์

การแข่งขันชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกานับวันยิ่งเข้มข้นขึ้น บรรดาผู้สนับสนุนตัวแทนชิงประธานาธิบดีเองต่างก็คล้าย ๆ จะแข่งกันแสดงออกถึงการเชียร์คนที่รัก นาทีนี้คิดว่า ใครที่เชียร์ทรัมป์ แล้วมีแค่หมวก "Make America Great Again" ใบสีแดงเพียงอย่างเดียว อาจจะกำลังตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ล่าสุดนี้ไม่ทันแล้ว

อ่านข่าวอื่น : 

ล้อม 6 ชม.จับหนุ่มชิงทองซุกเพดานห้อง รับเครียดติดหนี้พนันหลายล้าน

สภาพอากาศวันนี้ เตือน 15 จว.ตะวันออก-อีสาน รับมือฝนตกหนัก

 


"กัมพูชา" เตรียมขุดคลองฟูนัน เตโช ใช้งบฯ 1,700 ล้านดอลลาร์

Fri, 19 Jul 2024 07:05:22

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2567 สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพมุมสูง ซึ่งเผยให้เห็นคนงานกัมพูชาใช้เครื่องจักรกลหนักเดินหน้าขุดร่องน้ำและเคลียร์พื้นที่ในเพระ ตาแก้ว (Prek Takeo) เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการขุดคลองฟูนัน เตโช ระยะทาง 180 กิโลเมตร ที่กัมพูชาจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มโครงการในวันที่ 5 ส.ค.นี้

โครงการขุดคลองฟูนัน-เตโช เกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัทจีนกับกัมพูชา มีงบประมาณในการก่อสร้าง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 61,000 ล้านบาท โดยหากสร้างเสร็จ คลองสายนี้จะกลายเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำสายแรกของกัมพูชา ที่เชื่อมจากท่าเรือในกรุงพนมเปญไปจังหวัดแกบ ก่อนออกสู่อ่าวไทย โดยไม่ต้องผ่านแม่น้ำโขงเข้าเวียดนามเหมือนในปัจจุบัน

คลองสายนี้เป็นแบบ 2 เลน กว้าง 100 เมตร ลึก 5.4 เมตร โดยมีร่องน้ำสำหรับการเดินเรือลึก 4.7 เมตรและสามารถรับน้ำหนักเรือได้สูงสุด 3,000 ตัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มเส้นทางเดินเรือสินค้าให้กัมพูชา ลดการพึ่งพิงเส้นทางออกสู่ทะเลของเวียดนามลง

นอกจากนี้ยังจะช่วยให้กัมพูชามีรายได้จากการเก็บค่าผ่านทาง รวมไปถึงสร้างงานและรายได้ให้ชาวบ้านที่อาศัยริมคลอง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมของประเทศ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาวางแผนจะกำหนดพื้นที่ 2 ฝั่งคลองให้เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญด้วย

ขณะเดียวกันชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนพื้นที่ใกล้โครงการดังกล่าวพากันวิตกกังวล เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการชดเชยของรัฐบาล

Dem Mech เจ้าของร้านอาหารริมทาง วัย 57 ปี ซึ่งกำลังจะถูกเวนคืนบ้าน ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเงินชดเชยอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล มีแต่ข้อมูลที่เขียนกันในสื่อสังคมออนไลน์ แต่เมื่อถึงเวลาคงทำได้เพียงร้องไห้หากได้เงินชดเชยไม่คุ้ม ขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนซึ่งอยู่พื้นที่นี้มาตั้งแต่เกิด มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเมื่อถูกสั่งให้ย้ายก็คงต้องย้าย เพราะชาวบ้านไม่สามารถขัดคำสั่งรัฐบาลได้

ขณะเดียวกันยังมีความกังวลว่าโครงการขุดคลองนี้อาจกระทบต่อการไหลของแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่และมีปริมาณการจับปลานับเป็น 1 ใน 4 ของปริมาณการจับปลาน้ำจืดทั่วโลก และโครงการคลองฟูนัน-เตโชยังสร้างความไม่พอใจให้กับเวียดนาม เพราะนอกจากเวียดนามจะต้องสูญเสียรายได้จากเรือสินค้าของกัมพูชาที่เคยผ่านคลองของเวียดนามแล้ว คาดกันว่าคลองสายนี้อาจส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำโขงซึ่งหล่อเลี้ยงพื้นที่ปลูกข้าวของเวียดนาม

นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการที่จีนเข้ามาช่วยลงทุนขุดคลอง อาจทำให้เรือรบและกองทัพจีนมาปรากฏในพื้นที่มากขึ้น คาดว่าโครงการขุดคลองสายนี้จะใช้เวลาดำเนินการ 4 ปีและน่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2028

อ่านข่าว

ฟูมิโอะ "ขอโทษ" ผู้ถูกบังคับทำหมันผลจาก กม.ควบคุมประชากร

ล้อม 6 ชม.จับหนุ่มชิงทองพร้อมปืน รับเครียดติดหนี้พนันหลายล้าน

สภาพอากาศวันนี้ เตือน 15 จว.ตะวันออก-อีสาน รับมือฝนตกหนัก


ฟูมิโอะ "ขอโทษ" ผู้ถูกบังคับทำหมันผลจาก กม.ควบคุมประชากร

Thu, 18 Jul 2024 16:07:00

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2567 สำนักข่าว CNN รายงานว่า นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกฯ ญี่ปุ่น ได้ออกมากล่าวคำขอโทษกับโจทก์ที่เป็นผู้สูงอายุและเคยถูกบังคับทำหมันภายใต้การบังคับใช้กฎหมายยูจินิสก์ หลังจากที่พวกเขาได้รณรงค์เรียกร้องความยุติธรรมมาอย่างยาวนาน

นายกฯ ญี่ปุ่นกล่าวต่อหน้าผู้ร่วมประชุมว่า เขาตัดสินใจมาแสดงความสำนึกผิดและขอโทษ สำหรับความทุกข์ทรมานด้านร่างกายและจิตใจ ที่ผู้คนจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานจากกฎหมายยูจินิกส์ฉบับก่อน และเห็นพ้องว่ากฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญและละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของบุคคล ขณะนี้ได้สั่งให้ทางการจัดเตรียม การเยียวยาให้กับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว

กฎหมายยูจินิสก์ คืออะไร ?

กฎหมายยูจินิสก์ (Eugenics Protection Law) คือ กฎหมายที่ประกาศใช้ในปี 2491-2539 บังคับให้ผู้ป่วยทางจิต ผู้พิการ ต้องถูกบังคับทำหมัน เพราะรัฐบาลในขณะนั้นมีความเชื่อไม่ต้องการให้ยีนด้อยส่งต่อสู่ลูกหลาน นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถทำหมันอย่างถูกกฎหมายได้ หากแม่ที่ตั้งครรภ์มีความผิดปกติด้านจิตใจ หรือ พิการ

ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงทั่วประเทศและเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม รัฐบาลจึงใช้มาตรการควบคุมจำนวนประชากร เพื่อลดความต้องการใช้ทรัพยากรประเทศที่ขาดแคลนในขณะนั้น ตามกฎหมายระบุว่า

กฎหมายนี้ถือว่าเป็นการปรับปรุงพันธุ์ ป้องกันการเกิดของลูกหลานจากยีนด้อย และเพื่อปกป้องชีวิต สุขภาพของแม่ หากพบว่ามีอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติทางจิตใจอย่างเด่นชัด 

ทำให้มีประชากรกว่า 25,000 คนถูกบังคับทำหมันตามกฎหมาย และขณะนี้ผู้ได้รับความเดือดร้อนเหลืออยู่ราว 130 คนทั่วประเทศ ต่อมาพวกเขาได้รวมตัวกันฟ้องรัฐบาลเรียกร้องเงินเยียวยา และรัฐบาลได้มีคำสั่งชดเชยให้คนละ 3.2 ล้านเยนหรือประมาณ 735,000 บาท แต่โจทก์เห็นว่าราคาที่ให้มานั้นไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงฟ้องร้องต่อศาล จนในที่สุดศาลฎีกาญี่ปุ่น มีคำสั่งให้จ่ายเงินเพิ่มเป็น 16.5 ล้านเยน หรือ 3,800,000 บาท และคู่สมรสจำนวน 2.2 ล้านเยน หรือ 505,000 บาท 

โจทก์รายหนึ่งเล่าว่า เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่ออายุได้ 19 ปี เพื่อทำหมัน เพียงเพราะถูกตั้งฉายาว่า "โรคจิตเภท" จากบุคคลอื่น ขณะที่โจทก์อีกหลายคนกล่าวว่า พวกเขาต้องเผชิญกับการถูกเลือกปฏิบัติ ไม่สามารถกลับไปทำงานที่เดิม ๆ ในสภาพแวดล้อมแบบเดิม ๆ ได้ นอกจากคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากนายกรัฐมนตรีแล้ว โจทก์ยังเรียกร้องให้มีการชดเชยต่อผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงผู้ที่ถูกบังคับทำหมันแต่ไม่ได้ยื่นฟ้อง

อ่านข่าวอื่น :

 ยังวุ่น "ตัดป่าทับลาน" รอมติบอร์ดอุทยาน โจทย์หินคัดกรองคน

ด่วน! บุกเดี่ยวชิงทอง 40 บาทกลางห้าง แกะรอยเส้นทางหนี