โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ 5 รูป

Fri, 26 Jul 2024 13:44:22

วันนี้ (26 ก.ค.2567) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ โดยมีรายละเอียดว่า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ จำนวน 5 รูป ดังนี้

1. พระเทพวัชราจารย์ เป็น พระธรรมวชิรปัญญาจารย์ ไพศาลศาสนวรกิจ วิจิตรธรรมประกาศกตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นธรรม สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 6 รูป คือ พระครูปลัดพิศาลวัฒน์ 1 พระครูวินัยธร 1 พระครูธรรมธร 1 พระครูสังฆรักษ์ 1
พระครูสมุห์ 1 พระครูใบฎีกา 1

2. พระราชจริยาภรณ์ เป็น พระเทพวัชรสีลาภรณ์ คุณากรธรรมนิวิฐ พิพิธศาสนธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นเทพ สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 5 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูวินัยธร 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 พระครูใบฎีกา 1

3. พระราชรัตนสุนทร เป็น พระเทพวัชรานุสิฐ พัฒนวรกิจโกศล วิมลสมจริยากร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นเทพ สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 5 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูวินัยธร 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 พระครูใบฎีกา 1

4. พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ เป็น พระราชวัชรสิทธิคุณ อดุลธรรมวราภรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 พระครูใบฎีกา 1

5. พระมงคลวชิรากร เป็น พระราชปัญญาวชิรากร บวรธรรมโสภิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 พระครูใบฎีกา 1

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567
ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน


อัปเดต 2567 วงเงิน "ค่ารักษาพยาบาล" ที่ "ลูกจ้าง" ต้องรู้

Thu, 25 Jul 2024 12:43:00

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กองทุนเงินทดแทน ค่ารักษาพยาบาล เพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลเป็น 65,000 บาท จากเดิม 50,000 บาท หากบาดเจ็บรุนแรงหรือเรื้อรัง นายจ้างจ่ายเพิ่มขึ้นอีก แต่ไม่เกิน 100,000 บาท รวมจ่ายจริงไม่เกิน 165,000 บาท

*** เว้นแต่ ลูกจ้างเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่ เริ่มแรกจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาลหรือกรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุสมควรที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่เริ่มแรก แต่ภายหลังได้เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาล

อ่านข่าว : "ฟรีแลนซ์" รายได้ไม่แน่นอนแต่มีเงินออมเก็บเป็น "บำนาญ" ได้

ค่าทดแทนรายเดือน

ค่าทดแทน 70% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน (ค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท)

ค่าทำศพ

จ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพ 50,000 บาท (ตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง)

อ่านข่าว : เคล็ดวิธีรับมือ เมื่อมนุษย์เงินเดือน "ถูกเลิกจ้าง-ตกงาน" กะทันหัน

ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน

กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพ ในการทำงานภายหลังการประสบอันตรายสำหรับลูกจ้างที่จำเป็น ต้องได้รับการฟื้นฟู ได้รับตามอัตรา มีรายละเอียดดังนี้

อ่านข่าว : ต้องรู้! "ลูกจ้าง" มีสิทธิลาได้ 3 วันเพื่อกิจธุระอันจำเป็น

อ่านข่าว : "ละครทีวี" สุดหืด-สุดโหด การต่อสู้ท่ามกลางสมรภูมิ "สตรีมมิ่ง"

“ราคาทอง” ร่วงแรง 550 บาท “รูปพรรณ” ขายออก 39,916 บาท

"อุ๊งอิ๊ง" ดีด "เฉลิม" พ้นไลน์เพื่อไทย ไม่ยุ่งขอดีเบต "ทักษิณ"


"บอร์ด กยท." ซื้อ "ปลาหมอคางดำ" 1,000 ตัน ทำ "น้ำหมักชีวภาพ"

Wed, 24 Jul 2024 18:20:00

วันนี้ (24 ก.ค.2567) นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการ​การยางแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีการยางแห่งประเทศไทย​ (กยท.) จะเข้าไปรับซื้อ "ปลาหมอคางดำ" ไปทำน้ำหนักชีวภาพ​ โดยใช้งบ​ประมาณ 50 ล้านบาท​ โดยยืนยันว่า สามารถทำได้​และไม่ขัด​ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย​ ปี​ 2558 และขอให้เกษตรกรที่ยังมีความเห็นต่างเข้าใจถึงเหตุผล ซึ่งการทำน้ำหมักชีวภาพ​ โดยการนำปลาหมอคางดำมาทำน้ำหมักจะช่วยเกษตรกรลดต้นทุน จากการใช้ปุ๋ยเคมีลงร้อยละ​ 25 ขณะเดียวกันก็ช่วยกำจัดปลาหมอคางดำด้วย

ปลาหมอคางดำ

ปลาหมอคางดำ

เบื้องต้นประเมินว่าจะรับซื้อปลาหมอคางดำ ปริมาณ​ 1,000 ตัน​ มาผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพได้ประมาณ 160,000 ลิตร​ ส่วนกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่​ 200,000 ไร่​ ระยะเวลาดำเนินการ​ 2 เดือน​ คือ ส.ค.-ก.ย.​ คาดว่าเกษตรกรจะสามารถใช้น้ำหมักได้ในเดือน ก.ย.​ โดย กรมพัฒนาที่ดินจะเป็นผู้ทำการผลิต​

ปลาหมอคางดำ

ปลาหมอคางดำ

ทั้งนี้ หากพบว่า​ปริมาณปลาหมอคางดำมีมากกว่ากรอบวงเงินที่ตั้งไว้​ 50 ล้านบาท​ กยท.สามารถขยายวงเงินได้​ ซึ่งปัจจุบัน​ กยท.มีงบประมาณสำหรับการจัดซื้อปุ๋ย​ 300 ล้านบาท​ แต่ปริมาณปลาที่จับได้เชื่อว่าจะมีไม่มากจนเกินกรอบวงเงิน​ เนื่องจากขณะนี้มี บริษัท ซีพีเอฟ เข้ามาซื้อด้วย​ ทำให้ปริมาณปลาลดลง

อ่านข่าว : กระสุนยิงไม่เข้า! เฉือนเสื้อเกราะโชว์ไร้ไม้อัดพบเลขจัดซื้อ 8A154338

"ปฏิญญาเขาใหญ่" เมื่อเพื่อนต้องการมิตรแท้

น่าห่วง! 500 ธุรกิจสมุนไพรเสี่ยงปิดยังไม่ผ่าน GMP


"ศิริกัญญา" จี้รัฐบาลตอบให้ชัดแหล่งที่มาของเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"

Wed, 24 Jul 2024 16:07:00

วันนี้ (24 ก.ค.2567) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ได้ติดตามการแถลงข่าวแต่มองว่าประเด็นใหม่มีน้อยมาก เรื่องใหม่มีเพียงแค่เรื่องของ "วันลงทะเบียน" สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.- 15 ก.ย.2567 ส่วนผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เริ่มตั้งวันที่ 16 ก.ย.2567

อ่านข่าว : เช็ก! เงื่อนไข "ดิจิทัลวอลเล็ต" ขั้นตอนลงทะเบียน "ทางรัฐ"

สำหรับร้านค้าเลื่อนออกไปอีกจนถึงวันที่ 1 ต.ค.2567 นอกจากนั้นแล้วไม่มีอะไรใหม่ จึงไม่มีความชัดเจนใด ๆ แม้จะมีการทวงถามจากสื่อมวลชน พร้อมกันนี้มีข้อสังเกตเรื่องแรกที่อยากจะพูดถึงคือเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากมีพายุหมุนดิจิทัลวอลเล็ตแล้วเศรษฐกิจจะโตขึ้นแค่ไหน โดยทางกระทรวงการคลัง ระบุว่า ไม่สามารถประมาณการได้ เพราะเป็นโครงการที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกนี้ จึงไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้

แต่จากการที่ไปสังเกตการณ์ห้องกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารายจ่ายเพิ่มเติม และได้ฟังคำชี้แจงจากหน่วยงานต่าง ๆ สะท้อนว่า โครงการนี้ส่งผลกระตุ้นต่อเศรษฐกิจไม่มาก

ประเด็นที่ไม่ชัดเจนต่อมาคือเรื่อง ที่มาของเงินเพราะสุดท้ายแล้วมีการถามย้ำถึงการบริหารจัดการงบประมาณทั้งงบปี 2567 บและงบฯ 2568 แต่ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องของแหล่งที่มาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงเป็น 2 เรื่องหลักที่ขาดความชัดเจน

ในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอดยังมีความกังวลเรื่องของข้อกฎหมายด้วย โดยเฉพาะเรื่องการใช้งบประมาณข้ามปีว่าจะสามารถทำได้เหมือนกับโครงการทั่วไปได้หรือไม่ หรืออาจจะต้องจ่ายเป็นเงินสด เพื่อใช้งบประมาณให้เสร็จสิ้นภายในกรอบปีงบประมาณ และกรณีเรื่องรายจ่ายลงทุนที่มีการถกเถียงกันว่าเป็นรายจ่ายลงทุนได้หรือไม่ แต่จากที่ติดตามเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน เพราะหากเป็นไปได้น่าจะเป็นสัดส่วนการลงทุนเพียงแค่ร้อยละ 50

อ่านข่าว : ดีเดย์ 1 ส.ค.-15 ก.ย.67 ประชาชนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต

นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องของการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งยังขาดความชัดเจนว่าจะจัดทำระบบสร็จทันการใช้งานหรือไม่ โดยมีแนวโน้มว่าอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4 หากระบบการชำระเงินยังไม่เสร็จเรียบร้อยจะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายเช่นกันว่า โครงการนี้อาจไม่สามารถดำเนินการได้ทัน

รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชนเรื่องความปลอดภัยว่าจะเกิดปัญหาเงินตกหล่นระหว่างทางหรือไม่ ภาพรวมจึงไม่มีอะไรตื่นเต้น และเมื่อไม่ได้คาดหวังก็ไม่ผิดหวังจึงไม่ขอให้คะแนน เพราะคาดว่าจะแถลงออกมาในทำนองนี้อยู่แล้วคือยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่เมื่อพูดไปแล้วว่าจะแถลงรัฐบาลก็คงต้องแถลงตามข้อมูลที่มี

อ่านข่าว : เช้ามืด 25 ก.ค.67 ปรากฏการณ์ "ดวงจันทร์บังดาวเสาร์"

วิกฤต “ปลาหมอคางดำ” (Blackchin Tilapia) รุกราน-ระบาดทั่วโลก

ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาดคุณสมบัติ "เศรษฐา" ปมตั้งพิชิต 14 ส.ค.


ไทยพีบีเอส คว้ารางวัลสื่อสารเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่

Wed, 24 Jul 2024 14:12:00

วันที่ 23 ก.ค.2567 รายการฟังเสียงประเทศไทย ทางไทยพีบีเอส ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลสื่อสารเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ประเภทสื่อมวลชน ซึ่งจัดขึ้นโดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

โครงการรางวัลสื่อสารเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ เป็นกิจกรรมสำคัญส่วนหนึ่งภายใต้โครงการพัฒนาระบบการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของงานวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ซึ่งมุ่งหวังส่งเสริมกำลังใจแก่บุคคล-องค์กร-คณะบุคคล ทุกภาคส่วนในการสื่อสารสาระความรู้ สาระประโยชน์ไปสู่การรับรู้ และการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่

เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่บุคคล องค์กร หรือคณะบุคคล ที่สื่อสารข้อมูลสาระความรู้ สาระประโยชน์ ผ่านช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ สู่การรับรู้ของสาธารณชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในคุณค่าความรู้ และกระตุ้นให้นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในพื้นที่

และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล องค์กร หรือคณะบุคคล กับ บพท.ในการเชื่อมโยงความร่วมมือกัน เผยแพร่ข้อมูลความรู้จากงานวิจัย นวัตกรรม เทคโนโลยีพร้อมใช้ ไปสู่การรับรู้ของสาธารณะ แล้วนำไปต่อยอด ขยายผลใช้ประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่

สำหรับโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลสื่อสารเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทประกอบด้วย

ประเภทที่ 1 นักวิจัย นวัตกร ได้แก่

1.รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
เรื่อง “ห่วงโซ่คุณค่าปูทะเล สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้”

2.รศ.ดร.สมัคร แก้วสุกแสง
รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
เรื่อง “ห่วงโซ่คุณค่ากระจูด แก้จน”

3.รศ.ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
เรื่อง “สมุทรสงครามอยู่ดี..ฟื้นความมีชีวิตชีวาสู่อัมพวา”

4.ผศ.ดร.สุพัชชา ชูเสียงแจ้ว
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
เรื่อง “นวัตกรรมการเลี้ยงหอยนางรมแบบคอนโด”

5.รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย
รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างโอกาสทางสังคม เพื่อยกระดับรายได้ขจัดความยากจน

6.มะเสาวดี ไสสากา
หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยะลา
เรื่อง การขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน สู่วิสาหกิจเพื่อสังคม

ประเภทที่ 2 หน่วยราชการ ได้แก่

1.มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
โครงการคนกาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Kalasin Happiness Model-KHM)
สานพลังภาคี แก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จแม่นยำ 

ประเภทที่ 3 สื่อมวลชน ได้แก่

1.สำนักข่าวไทยพับลิก้า

2.สำนักข่าวสาลิกา

3.รายการฟังเสียงประเทศไทย (ไทยพีบีเอส)

4.นายเพาซี ยะซิง
ประธานกลุ่ม MOJO ชายแดนใต้

5.นางสาวพัชรา ยิ่งดำนุ่น
สถานีวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

6.นายวีรชน ไชยชะอุ่ม
อสมท.กาฬสินธุ์

7.นายสุปัน รักเชื้อ
นักข่าว-นักจัดรายการวิทยุ 

ประเภทที่ 4 ประชาสังคม ได้แก่

1. เพจ Forestbook

2. เครือข่ายสื่อสาธารณะท้องถิ่น(ภาคอีสาน)

3. นายมูฮำมัดอายุบ ปาทาน
ที่ปรึกษาสภาประชาสังคมชายแดนใต้

อ่านเพิ่ม :

โมเดลแก้จน เติมความรู้-สร้างอาชีพ ลดรุนแรงชายแดนใต้

เด็กไทยสร้างชื่อ คว้า 3 เหรียญเงิน 1 ทองแดง บนเวทีคณิตศาสตร์โอลิมปิก


ผลถอดรหัสพันธุกรรม เชื้อก่อโรคโควิด-19 ในไทย รอบ 6 เดือน

Wed, 24 Jul 2024 13:05:00

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึง สถานการณ์สายพันธุ์โควิด 19 ทั่วโลกจากฐานข้อมูลกลางจีเสด (GISAID) ณ ปัจจุบัน พบสายพันธุ์ JN.1* มากที่สุดในสัดส่วน 47.1% มีอัตราการพบที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ KP.2* และ KP.3* พบสัดส่วน 22.7%

และ 22.4% ตามลำดับ ซึ่งมีอัตราการพบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทั้งสองสายพันธุ์นี้ เป็นสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นกลุ่มที่ต้องจับตามอง ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา

ส่วนประเทศไทย สายพันธุ์ JN.1* มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาด ณ ปัจจุบัน สายพันธุ์ JN.1* เป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์ BA.2.86 ซึ่งกลายพันธุ์เพิ่มเติมบนโปรตีนส่วนหนามตำแหน่ง L455S และ F456L ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั่วโลกมีรายงานพบสายพันธุ์ JN.1* จำนวน 181,628 ราย จาก 115 ประเทศ (อ้างอิงข้อมูล CoV-spectrum ณ วันที่ 1 ก.ค.2567)

ในขณะที่ไทยพบสายพันธุ์ JN.1* จำนวนทั้งหมด 716 ราย คิดเป็นสัดส่วนสะสม 41.10% ของสายพันธุ์ทั้งหมดที่พบในประเทศ นับตั้งแต่การพบครั้งแรก เมื่อ ต.ค.2566 ถึง ปัจจุบัน (อ้างอิงจากฐานข้อมูล GISAID)

นพ.ยงยศ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอย่างต่อเนื่อง โดยขอความร่วมมือจากทุกโรงพยาบาล ให้เก็บและส่งตัวอย่างผู้มารับบริการที่ผลตรวจเบื้องต้นเป็นผลบวก จำนวน 5-10 ตัวอย่างต่อสัปดาห์ โดยส่วนกลางนำส่งที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข และส่วนภูมิภาคนำส่งผ่านศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้การดำเนินงานเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 สามารถแสดงสัดส่วนสายพันธุ์กลายพันธุ์ระดับประเทศ และตรวจจับสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่อระบบสาธารณสุขได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด 19 จากห้องปฏิบัติการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ในรอบ 30 วัน ระหว่างวันที่ 24 พ.ค. - 26 มิ.ย.2567 จำนวน 182 ราย

นอกจากนี้ ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการในรอบ 6 เดือน (เดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567) แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์ JN.1* เป็นสายพันธุ์หลัก โดยสายพันธุ์ KP* (KP.1*, KP.2*, KP.3*, KP.4* และ KP.5*) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์ JN.1 ที่ต้องจับตามอง พบในสัดส่วนน้อยกว่า 10%

สำหรับสายพันธุ์ EG.5* ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1.9.2* พบสัดส่วนลดลง อย่างต่อเนื่อง กระทั่งเดือน พ.ค. ถึงปัจจุบัน ไม่พบสายพันธุ์ EG.5*

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ยังคงเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยการรวบรวมตัวอย่างผลบวกเชื้อก่อโรคโควิด 19 จากการทดสอบ ATK หรือ Real time RT-PCR จากทั่วประเทศ ทดสอบด้วยเทคนิค Real-time RT-PCR เพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อก่อโรคโควิด 19 (เฉพาะกรณีที่ยังไม่มีผลการทดสอบ Real-time RT-PCR)

รวมทั้งถอดรหัสจีโนมทั้งตัว และเผยแพร่ผ่านฐานข้อมูลสากล GISAID อย่างสม่ำเสมอ การฝ้าระวังติดตามสายพันธุ์ ที่ระบาดในประเทศอย่างเป็นปัจจุบัน ช่วยส่งเสริมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการรับมือกับการระบาดในอนาคต

อ่านข่าว : เปิดจำหน่าย แลก-จองเหรียญกษาปณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 10

ผีน้อยเกาหลีเลือกเสี่ยงหรือถูกบีบจากระบบ สแกนเส้นทางส่งแรงงานไปเกาหลีใต้

ปัด จนท.เอี่ยวป้ายขายสัญชาติ-พาสปอร์ต เอาผิดหลายข้อหา


ผีน้อยเกาหลีเลือกเสี่ยงหรือถูกบีบจากระบบ สแกนเส้นทางส่งแรงงานไปเกาหลีใต้

Tue, 23 Jul 2024 18:25:00

28,881 คน คือ คนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมาย น้อยกว่า คนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้เกินกำหนด หรือ โอเวอร์สเตย์ ถึง 5 เท่า

ในจำนวนคนไทยที่โอเวอร์สเตย์ในเกาหลีใต้กว่า  150,000 คน หนึ่งในนั้น อาจนับรวมอดีตผีน้อยวัย 42 ปี ที่เพิ่งถูกทางการเกาหลีใต้จับและส่งกลับไทยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

เสี่ยงเดินทางไปกับทัวร์ เพราะรอไม่ได้

ตอนนั้นช่องทางไหนที่มันไปได้เร็ว ไปได้เลย เราก็ยอม เป็นผีเราก็ยอม ค่าใช้จ่ายมันจี้เราอยู่ เราจะอยู่นิ่งไม่ได้

นี่คือเหตุผลที่หญิงวัย 42 ปี ตัดสินใจเดินทางไปทำงานแบบผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้เมื่อ 4 ปีก่อน

อดีตผีน้อยเกาหลีใต้

อดีตผีน้อยเกาหลีใต้

 

แม้ทราบดีว่าการไปทำงานผ่านกรมการจัดหางานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ที่ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ไล่ตั้งแต่สอบวัดความรู้ทางด้านภาษาเกาหลี หากผ่านแล้วต้องรอขึ้นทะเบียนอยู่ในลิสต์ระบบ EPS โดยที่ไม่รู้ว่าจะมีนายจ้างเกาหลีใต้มาสุ่มเลือกหรือไม่ เป็นเหตุผลที่เธอไม่เลือกช่องทางที่ถูกกฎหมาย

4 ปี ระหว่างลักลอบทำงานที่เกาหลีใต้ ความเป็นอยู่ไม่ได้สะดวกสบาย ไม่มีสวัสดิการใดๆ แต่ด้วยค่าจ้างที่ได้เดือนละ 40,000-50,000 บาท บางเดือนอาจได้สูงถึงหลักแสน ทำให้เธอมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยง จนกระทั่งถูกจับได้ที่บริเวณหอพักเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

เธอยอมรับว่าถ้าวันนั้นไม่ถูกจับคงยังเป็น “ผีน้อย” อยู่เกาหลีใต้อีกหลายปี

วันนั้นกลับจากทำสวนมันหอม สภาพค่อนข้างมอม ตม. มาในชุดนอกเครื่องแบบ เขามองก็รู้แล้วว่าเราไม่ใช่คนเกาหลี เขามีเครื่องสแกนหน้า เหมือนโทรศัพท์นี่แหละ ยกขึ้นสแกนหน้าเรา มันเด้งเลยว่าคนนี้เข้าเกาหลีวันไหน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธ เค้าจับได้เลย
สวนที่หญิงวัย 42 ปี ทำงานในประเทศเกาหลีใต้

สวนที่หญิงวัย 42 ปี ทำงานในประเทศเกาหลีใต้

 

เธอมาทำงานที่เกาหลีใต้ครั้งแรก ตอนอายุ 38 ปี ยังอยู่ในช่วงวัยที่สมัครทำงานแบบถูกกฎหมายด้วยระบบ EPS ได้ แต่ปัญหาเรื่องระยะเวลาที่อาจต้องรอนานกว่า 2 ปี และไม่มีการรับประกันว่าจะถูกนายจ้างเลือก ทำให้เธอรอไม่ไหว

พี่มีภาระค่อนข้างเยอะ เราจะรอตรงนั้นไม่ได้ ตรงไหนเข้ามาเร็วเราก็ยอมไป ต้องหารายได้ก่อน ถ้าคนที่ยังพออยู่ได้ ถ้าไปถูกต้องตามกฎหมายก็จะดี ทำงานปลอดภัย กรมแรงงานเค้าก็ดูแล แต่ว่าชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เรารอไม่ได้

สแกนระบบ EPS ส่งแรงงานไปเกาหลีใต้

สาธารณรัฐเกาหลีนำระบบอนุญาตจ้างงานสำหรับแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreign Workers หรือ EPS) มาใช้ครั้งแรกในปี 2547 ปัจจุบันมีประเทศที่ได้รับสิทธิในการจัดส่งแรงงานไปทำงานตามระบบนี้ 16 ประเทศ ไทยเป็นหนึ่งในนั้น

เงื่อนไขของผู้สมัครผ่านระบบนี้ ก็คือ ต้องมีอายุตั้งแต่ 18-39 ปี ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา สุขภาพแข็งแรง ไม่มีประวัติอาชญากรรม และไม่ใช่บุคคลต้องห้ามเดินทางออกนอกประเทศหรือห้ามเข้าประเทศเกาหลีใต้

แต่ละปีเกาหลีใต้จะแจ้งจำนวนโควตาแรงงานที่ต้องการมายังกรมการจัดหางาน โดยในปี 2567 ไทยได้โควตารวมกว่า 8,881 อัตรา แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม 5,500 อัตรา และภาคบริการ 3,381 อัตรา

จากนั้นกรมฯ เปิดรับสมัครแรงงานเข้ารับการอบรม เพื่อสอบวัดความรู้ภาษาเกาหลี รายชื่อผู้ที่สอบผ่านจะถูกบันทึกเข้าระบบ EPS เพื่อให้นายจ้างเกาหลีใต้เข้ามาสุ่มเลือก คะแนนสอบแต่ละครั้งจะใช้ได้ 2 ปี หากไม่ได้รับเลือก แรงงานต้องสมัครสอบใหม่

เท่ากับว่าแม้ผ่านการทดสอบจนมีรายชื่อในบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือก ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้งานทำ ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 พบว่า ตัวเลขรายชื่อที่อยู่ใน wait list ของสำนักบริการพัฒนาบุคลากรแห่งเกาหลี ศูนย์ EPS ประจำประเทศไทย ยังมีแรงงานไทยรอให้นายจ้างเลือกอีกกว่า 7,700 คน

นายสุรศักดิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน ยอมรับว่า ข้อจำกัดของระบบ EPS เป็นส่วนหนึ่งที่บีบให้แรงงานไทยเลือกไปทำงานนอกระบบ

ที่ผ่านมาทางกรมฯ เคยพยายามแก้ปัญหาด้วยการเจรจากับรัฐบาลเกาหลี ถึงการพิจารณาคุณสมบัติ และทบทวนกฎเกณฑ์ของระบบ EPS

ทางกรมฯ กับทาง HRD เกาหลีประจำประเทศไทย ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอด เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติในการสอบ หลักเกณฑ์ในการสอบ ว่าทำยังไงที่จะให้คนไทยเข้าไปทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมายให้ได้มากที่สุด อาจจะลดคะแนนลง หรือหลักสูตรในการสอบอาจจะไม่ต้องถึงกับยากเกินไป
นายสุรศักดิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน

นายสุรศักดิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน

 

ขณะที่ นายไพบูลย์ ปีตะเสน ประธานศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า หากมีการปรับเปลี่ยนระบบนี้ให้ข้อสอบมีความยากง่ายตามแต่ประเภทงาน รวมถึงให้แรงงานได้รับเลือกเข้าทำงานตามลำดับ หรือ first come first served อาจช่วยให้จำนวนแรงงานที่ถูกบีบออกจากระบบลดลงได้

หลังจากที่สอบผ่านแล้วไม่ควรให้เขารอนานนัก ควรใช้กระบวนการ first come first served หมายความว่า สอบได้ ต้องให้ไปก่อน ไม่อยากให้นายจ้างลงมามีสิทธิ์เลือกอะไรเยอะ นายจ้างบางทีกำหนดเงื่อนไขเอาไว้เยอะเกิน แล้วบางทีรัฐบาลก็ยอมเยอะเกินไป
นายไพบูลย์ ปีตะเสน ประธานศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นายไพบูลย์ ปีตะเสน ประธานศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ปี 2567 คนไทยโอเวอร์สเตย์กว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นคน

ข้อมูลจากสถิติสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สาธารณรัฐเกาหลี ณ วันที่ 31 พ.ค. 2567 พบว่า มีคนไทยในเกาหลีใต้ทั้งหมด 190,117 คน แบ่งเป็นพำนักถูกกฎหมาย 43,307 คน ผิดกฎหมาย 145,810 คน

ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เก็บข้อมูลจำนวนคนไทยที่ทำงานแบบถูกกฎหมายพบว่ามีทั้งหมด 28,887 คน แบ่งเป็น เพศชาย 23,565 คน และเพศหญิง 5,322 คน

 

 


ปัดจนท.เอี่ยวป้ายขายสัญชาติ-พาสปอร์ต เอาผิดหลายข้อหา

Tue, 23 Jul 2024 12:19:00

วันนี้ (23 ก.ค.2567) นายไพฑูรย์ งามมุข ผอ.สำนักงานเขตห้วยขวางเดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่มีการติดตั้งป้ายซื้อขายพาสปอร์ต และสัญชาติที่บริ เวณแยกห้วยขวาง ซึ่งขณะนี้มีการนำป้ายดังกล่าวออกแล้ว เป็นสีขาว 

จากการตรวจสอบ พบว่าป้ายเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฉบับที่ 55 พ.ศ.2553 มาตรา 66 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 10  11 และ 12 ต้องแสดงข้อความ และภาพที่ไม่ขัดความเรียบร้อยของบ้านเมืองและวัฒนธรรม

ขณะนี้สำนักงานเขตห้วยขวางได้ส่งผู้เชี่ยวชาญภาษาจีน เข้ามาดำเนินการแปลข้อความ เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีเอาผิด
ป้ายโฆษณาขายสัญชาติ-ขายพาสปอร์ต

ป้ายโฆษณาขายสัญชาติ-ขายพาสปอร์ต

พบลอบติดตั้งป้าย-ไม่เสียภาษี

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเสียภาษีป้าย ทางเขตสามารถดำเนินการเรียกเก็บภาษี โดยจะคำนวณภาษีจากขนาดของป้าย 50 บาท ต่อตร.ซม.เป็นเงิน 160,000 ต่อปี แต่กรณีเรียกเก็บภาษีได้ครึ่งหนึ่ง คือ 84,000 บาท เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเพิ่งมีการดำเนินการติดตั้งเพียง 2 วัน

หลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบสภาพอาคาร รวมถึงโครงสร้างของป้ายดังกล่าวว่ามีความสมบูรณ์แข็งแรงมากน้อยเพียงใด หากไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สามารถที่จะติดตั้งโฆษณาได้ 

เบื้องต้นพบว่าอาคารแห่งนี้เป็นการลักลอบติดตั้งป้าย เพราะหลังจากได้รับแจ้งข้อมูลทางเขตก็เร่งดำเนินการทันทีหลังจากนี้จะเข้มงวด ตรวจสอบป้ายลักษณะนี้ในพื้นที่ ซึ่งมีอยู่ 153 ป้ายว่าเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่

ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่สังกัดของสำนักงานเขตห้วยขวางเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือมีการทุจริตอย่างแน่นอน
นายไพฑูรย์ งามมุข ผอ.สำนักงานเขตห้วยขวาง

นายไพฑูรย์ งามมุข ผอ.สำนักงานเขตห้วยขวาง

และการดำเนินการเรียกเก็บภาษีทุกอย่างเป็นไป เพื่อประโยชน์ของรัฐ ซึ่งทางเขตได้เงินจากภาษีป้าย เป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้ทางเขตได้เรียกเจ้าของอาคารมาดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ในความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฉบับที่ 55 พ.ศ.2553 มาตรา 66

ส่วนเจ้าของป้ายพบว่าเป็นบริษัทที่มีเจ้าของเป็นคนไทย จะต้องมาเสียภาษีภายใน 15 วันหลังจากนี้

อ่านข่าว ซื้อ-ขายพาสปอร์ต "นายกฯ" ย้ำต้องตรวจสอบรอบคอบ

สำหรับประเด็นการโฆษณาซื้อขายสัญชาติ หรือพาสปอร์ตนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการพิสูจน์ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใดบ้าง เบื้องต้นพบข้อมูลในป้ายไม่ได้มีการประกาศซื้อขายสัญชาติไทย

โดยพบว่าบริษัทที่ว่าจ้างนั้นมีเจ้าของเป็นชาวสิงคโปร์ แต่ยังไม่สามารถดำเนินคดีตามกฏหมายได้เพราะต้องรอตำรวจตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

สืบตม.เชิญตัว หญิงชาวจีน ผู้ว่าจ้างให้ขึ้นป้ายโฆษณา ชักชวนซื้อขายพาสปอร์ตย้ายประเทศ ที่บริเวณแยกห้วยขวาง มาสอบปากคำ เจ้าตัวอ้าง เป็นแค่ผู้ประสานงาน

อ่านข่าว ปลดป้าย "ซื้อขายพาสปอร์ต" กลางแยกห้วยขวาง

หญิงชาวจีนเข้าให้ปากคำตม.ปมรับจ้างติดป้ายขายสัญชาติ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม

หญิงชาวจีนเข้าให้ปากคำตม.ปมรับจ้างติดป้ายขายสัญชาติ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม

หญิงชาวจีนให้ปากคำปมรับทำป้าย

ขณะที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมเชิญตัวน.ส.นาซู หญิงชาวจีน จากคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง มาสอบปากคำที่ศูนย์สืบสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลังพบว่าเป็นผู้ว่าจ้างให้ขึ้นป้ายโฆษณาซื้อขายสัญชาติ และพาสปอร์ต ย้ายประเทศที่บริเวณห้วยขวาง

หลังจากเชิญตัวมาสอบปากคำนานกว่า 2 ชม.น.ส.นาซู ให้การว่าตัวเองรับงานมาจากบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยได้ค่าจ้างเป็นตัวประสานป้ายละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าดำเนินการปลดป้ายอีก 100 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนบริษัทที่ว่าจ้างนั้น ตัวเองไม่ทราบชื่อมีเพียงไลน์ที่ใช้ในการติดต่อ ซึ่งเป็นไลน์ของคนที่มีรูปปรากฎบนป้าย โดยได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบทำงานในราชอาณาจักร

อ่านข่าว  "อนุทิน" จี้สอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต ยันผิดกฎหมาย

 


เด็กไทยสร้างชื่อ คว้า 3 เหรียญเงิน 1 ทองแดง บนเวทีคณิตศาสตร์โอลิมปิก

Mon, 22 Jul 2024 17:14:00

วันนี้ (22 ก.ค.2567) รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่าตามที่ได้คัดเลือกและจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 11 - 22 กค. 2567 ณ เมืองบาธ สหราชอาณาจักร ผลปรากฎว่านักเรียนไทยสามารถทำได้ 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง 2 เกียรติคุณประกาศ ดังนี้นายสิรภพ ขาวพลัด โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เหรียญเงิน

  1. นายกฤติธี นวลขาว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เหรียญเงิน
  2. นายพัฒนแสง พินิจพิชิตกุล โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เหรียญเงิน
  3. นายเอกกวิน วิศิษฎ์เกียรติชัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เหรียญทองแดง
  4. นายเกียรติภูมิ สิเจริญ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ เกียรติคุณประกาศ
  5. นายสิรวิทย เฮงสุวนิช โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เกียรติคุณประกาศ

โดย การแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 609 คน จาก 108 ประเทศ โดยคณะอาจารย์ผู้ควบคุมทีมไทยประกอบด้วย ดร.นิธิ รุ่งธนาภิรมย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีม ผศ.ดร.ธีระเดช กิตติภัสสร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองหัวหน้าทีม ดร.สริตา บุญย์ศุภา บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด ผู้ช่วยหัวหน้าทีม ผศ.ดร. ลี ศาสนพิทักษ์ มหาวิทยาลัยบูรพา ผู้ช่วยหัวหน้าทีม (ตัวแทนจากมูลนิธิ สอวน.) นายกฤษฏ์ บุญศิริเศรษฐ นักศึกษาปริญญาโท MIT ผู้ช่วยหัวหน้าทีม นายจเร ปานเมือง สสวท.ผู้จัดการทีม

ทั้งนี้ คณะผู้แทนคณิตศาสตร์โอลิมปิกจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยวันอังคารที่ 23 ก.ค. 2567 เที่ยวบิน TG 917 เวลา 15.00 น. สสวท.จะมีพิธีแสดงความยินดีเวลา 16.00 น. ณ โถงผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 ด้านใน ประตู 1 สนามบินสุวรรณภูมิ

อ่านข่าว:

ม.ขอนแก่น ไล่ออก 3 อาจารย์ซื้อขายงานวิจัย-ดำเนินคดีอาญา

"ประกันสังคม" แจงสิทธิประโยชน์ "กรณีเสียชีวิต" ผู้ประกันตน ม.33, 39, 40

เปิดจำหน่าย แลก-จองเหรียญกษาปณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 10


ซื้อ-ขายพาสปอร์ต "นายกฯ" ย้ำต้องตรวจสอบรอบคอบ

Mon, 22 Jul 2024 16:46:17

วันนี้ (22 ก.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายังสน.ห้วยขวาง เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณี มีการติดป้ายโฆษณาภาษาจีนซื้อ-ขายพาสปอร์ตและสัญชาติขนาดใหญ่อยู่กลางแยกห้วยขวาง ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าในประเทศไทยสามารถซื้อขายกันได้จริง และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่

นายกเศรษฐา ได้เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศ เพียงแต่ว่าวันนี้เดินทางมาตรวจเยี่ยมเพื่อมากำชับในเรื่องการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการติดแผ่นป้ายโฆษณา ควรตรวจสอบอย่างรอบคอบและทุกอย่างทำตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ ซึ่งส่วนไหนถูกก็ให้ว่าไปตามถูก แต่หากส่วนไหนผิดก็ให้ว่าไปตามผิด ยืนยันต้องให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย

ส่วนจะกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่นั้น ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้มงวด ในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเขตห้วยขวางมีการเข้ามาลงทุนของชาวจีนจำนวนมาก จึงอยากให้มีการเข้มงวดตรวจสอบ ซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดเรื่องของยาเสพติดและเรื่องหนี้นอกระบบในพื้นที่ ที่รับผิดชอบด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ตัวเองได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยในวันพรุ่งนี้เวลา 09.30 น. จะลงพื้นที่ตรวจสอบตึกที่ติดแผ่นป้ายโฆษณาที่อยู่ตรงแยกห้วยขวาง โดยมีอยู่ 3 ประเด็นที่จะต้องตรวจสอบ คือ 1.เรื่องการขออนุญาตติดแผ่นป้ายโฆษณา 2.เรื่องการเสียภาษีการโฆษณา และ 3.เรื่องการซื้อขายสัญชาติและพาสปอร์ต

ในข้อนี้จะต้องปรึกษาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่าการโฆษณาชักชวนให้มีการซื้อขายสัญชาติและพาสปอร์ต ในประเทศไทยสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งจากที่ทราบมี 8 ประเทศที่สามารถซื้อขายสัญชาติ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศที่มีประชากรน้อย และเชิญชวนชาวต่างชาติไปทำธุรกิจในประเทศเหล่านั้น โดยจะมีการประชุมหารือกันในวันพรุ่งนี้

พ.ต.อ.ประสพโชค ยังกล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรี บังเอิญผ่านมาพอดีและจะไปทำธุระอีกที่หนึ่ง จึงห่วงใยและแวะมาสอบถามข้อมูล จึงได้ให้ข้อมูล ซึ่งข้อกำชับของนายกรัฐมนตรีคือให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมตรวจสอบให้รอบด้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้กังวลเรื่องใดเพียงแต่มาให้กำลังใจและให้แนวทางการทำงาน

อ่านข่าว:

“นายก” ร่วมพิธีศพ "รองหรั่ง" รองผกก.ท่าข้าม ที่วัดยางสุธาราม

ปลดป้าย "ซื้อขายพาสปอร์ต" กลางแยกห้วยขวาง

จับตา "เลือกตั้งสหรัฐฯ" ไทยเตรียมมือสงครามการค้ารอบใหม่

 


ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบที่มาป้ายรับทำพาสปอร์ตแยกห้วยขวาง

Mon, 22 Jul 2024 14:34:36

ความคืบหน้า กรณีการพบป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆบริเวณสี่แยกห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และมีการเผยแพร่ลงในโลกสื่อออนไลน์ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ล่าสุด วันนี้ (22 ก.ค.2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยด่วน ถึงที่มาของป้ายโฆษณาดังกล่าว ผู้ใดเป็นเจ้าของ และมีความผิดตามกฎหมายในเรื่องใดบ้าง และติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกมิติโดยเร็ว โดยล่าสุดตรวจสอบพบว่าได้มีการปลดป้ายดังกล่าวลงมาแล้ว

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ตลอดจนกำชับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้ตรวจสอบคัดกรองคนต่างชาติที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยให้เป็นไปตามกฎหมายคนเข้าเมือง รองรับและสอดคล้อง สร้างสมดุลด้านการท่องเที่ยวกับความมั่นคง

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเตือนว่า การเข้าเมืองจะต้องมีหลักเกณฑ์ เงื่อนไขหรือเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งมีโทษทางอาญา ผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ต้องได้รับโทษตามกฎหมายทุกกรณี 

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ขณะที่ กรมการปกครองได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทางและรับจ้างดำเนินการแปลงสัญชาติ(สัญชาติที่สอง)ได้ใน30วัน โดยมีภาพตัวอย่างหนังสือเดินทางของประเทศอินโดนีเซีย วานูอาตู กัมพูชา และตุรกี (ไม่กล่าวถึง/หรือมีภาพ ของประเทศไทยแต่อย่างใด)

กรมการปกครองได้ตรวจสอบแล้วการขึ้นป้ายโฆษณาลักษณะดังกล่าวอาจจะเป็น ความผิดตามกฎหมายในการรับจ้างปลอมแปลงเอกสาร หรือ อาจเป็นการหลอกลวงของแก๊งคอลเซนเตอร์เพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินของผู้ที่ประสงค์จะดำเนินการฯ จึงได้สอบถามไปยัง เจ้าของ/ผู้รับจ้าง ติดป้ายดังกล่าว ซึ่งแจ้งว่าได้รับการว่าจ้างให้ติดป้าย โฆษณาดังกล่าวจากชาวจีน โดยได้ติดตั้งเสร็จเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2567 แต่ภายหลังได้ทราบข่าวทางสื่อโซเชียลถึงความไม่เหมาะสมจึงได้ดำเนินการรื้อถอนเสร็จแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ค.2567

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ผบ.ตร.สั่ง บช.น.ตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทางและสัญชาติต่าง ๆ

ทั้งนี้ กรมการปกครองได้ประสานงานกับผู้ดำเนินการรับจ้างติดตั้งป้ายดังกล่าวและกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ เพื่อให้ทราบถึงผู้ที่มาว่าจ้างติดตั้งป้ายฯเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อไป

อ่านข่าว : ปลดป้าย "ซื้อขายพาสปอร์ต" กลางแยกห้วยขวาง  

 "กองสรรพาวุธ" ยืนยันไม่เคยจัดซื้อ "เกราะไม้อัดกันกระสุน"  

พี่สาวรับศพ “รองหรั่ง” เปิดใจน้องชายทำเต็มที่ ไม่โกรธทุกฝ่ายสูญเสีย  

 


ปลดป้าย "ซื้อขายพาสปอร์ต" กลางแยกห้วยขวาง

Mon, 22 Jul 2024 12:49:00

จากกรณีพบป้ายโฆษณาภาษาจีนขนาดใหญ่บริเวณแยกห้วยขวาง กรุงเทพฯ ล่าสุด ทีมข่าวไทยพีบีเอสตรวจสอบไปยังผู้ให้บริการเช่าป้ายโฆษณา โดยระบุว่า ป้ายโฆษณาดังกล่าวติดได้เพียง 1 วันเท่านั้น และหลังทราบข่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ มีเดียว่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จึงแจ้งกับผู้เช่าเพื่อปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวออกทันที

พร้อมระบุว่า ผู้ที่เช่าป้ายโฆษณาดังกล่าวเป็นบริษัทจากสิงคโปร์ ได้ติดต่อเข้ามาโดยแจ้งเพียงว่า จะลงโฆษณาเกี่ยวกับการเข้าเมือง ด้วยข้อความที่เป็นภาษาจีน และทางบริษัทผู้เช่ามีเอกสารและหนังสือรับรองบริษัทแนบการทำสัญญาเช่าป้าย ซึ่งพิจารณาแล้วมีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่งจึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าข้อความที่จะลงในป้ายโฆษณา มีเนื้อหาอย่างไร อาจจะมีความสุ่มเสี่ยงหรือไม่

ตม.สั่งตรวจสอบกรณีมีการโฆษณา ซื้อขาย - สัญชาติ ภาษาจีน โดยติดป้ายขนาดใหญ่กลางแยกห้วยขวาง ด้านผู้ให้เช่าป้ายโฆษณาสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว

ตม.สั่งตรวจสอบกรณีมีการโฆษณา ซื้อขาย - สัญชาติ ภาษาจีน โดยติดป้ายขนาดใหญ่กลางแยกห้วยขวาง ด้านผู้ให้เช่าป้ายโฆษณาสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว

พร้อมยอมรับว่า ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของทางบริษัท ที่นอกจากจะต้องคำนึงถึงภาษีป้ายแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับภาษาที่จะสื่อสารลงไปในป้ายด้วย ทั้งนี้ ทางผู้ให้เช่า ขอโทษสังคมที่อาจทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันออกไปอย่างกว้างขวาง

ขณะที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง เปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นว่า ทางเทศกิจได้แจ้งว่าได้มีการติดตั้งป้ายโฆษณาดังกล่าวมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาจึงติดต่อไปยังเจ้าของป้ายและหมายเลขที่ระบุบนป้าย แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ตม.สั่งตรวจสอบกรณีมีการโฆษณา ซื้อขาย - สัญชาติ ภาษาจีน โดยติดป้ายขนาดใหญ่กลางแยกห้วยขวาง ด้านผู้ให้เช่าป้ายโฆษณาสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว

ตม.สั่งตรวจสอบกรณีมีการโฆษณา ซื้อขาย - สัญชาติ ภาษาจีน โดยติดป้ายขนาดใหญ่กลางแยกห้วยขวาง ด้านผู้ให้เช่าป้ายโฆษณาสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลที่มาการติดตั้งป้ายดังกล่าวว่า ได้ขออนุญาตติดตั้งถูกต้องหรือไม่ และติดตั้งได้อย่างไร พร้อมประสาน สน.ในพื้นที่ให้ตรวจสอบป้ายดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับบุคคลต่างด้าว และคนเข้าเมือง รวมถึงเรื่องพาสปอร์ต ยืนยันดำเนินการอย่างเร่งด่วน เมื่อรวบรวมข้อมูลครบถ้วนจะแถลงข่าวต่อไป  

ตม.สั่งตรวจสอบกรณีมีการโฆษณา ซื้อขาย - สัญชาติ ภาษาจีน โดยติดป้ายขนาดใหญ่กลางแยกห้วยขวาง ด้านผู้ให้เช่าป้ายโฆษณาสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว

ตม.สั่งตรวจสอบกรณีมีการโฆษณา ซื้อขาย - สัญชาติ ภาษาจีน โดยติดป้ายขนาดใหญ่กลางแยกห้วยขวาง ด้านผู้ให้เช่าป้ายโฆษณาสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว

เหตุดังกล่าว มาจากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพป้ายโฆษณาที่ถ่ายจากสี่แยกห้วยขวาง ในป้ายมีภาษาจีนตัวใหญ่และมีรูปคนสูงอายุมีภูมิฐาน ด้วยความสงสัยว่าเป็นโฆษณาให้บริการด้ายใด จึงใช้แอปพลิเคชัน ในการช่วยแปลจนพอสรุปได้ว่า

ป้ายโฆษณาเป็นการขายหนังสือเดินทางตรวจคนเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแปลงสัญชาติถูกกฎหมาย 100% โดยมีให้เลือกสัญชาติคือ อินโดนีเซีย ราคา 30,000 , วานูอาตู 70,000 , กัมพูชา 100,000 และตุรกี 150,000 โดยไม่ได้ระบุค่าเงินที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ในป้ายโฆษณายังระบุอีกว่า ทำหนังสือเดินทางได้ภายใน 30 วัน , ปลอดภ้ย , เป็นความลับ , ทำเสร็จค่อยจ่ายเงิน , รับสมัครตัวแทนทั่วโลก เป็นกลุ่มบริษัทเชี่ยวชาญด้านการย้ายประเทศ ก่อตั้งมากว่า 13 ปี และได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า ในประเทศไทยสามารถซื้อขายสัญชาติได้หรือไม่

 

อ่านข่าว : "กองสรรพาวุธ" ยืนยันไม่เคยจัดซื้อ "เกราะไม้อัดกันกระสุน" 

พี่สาวรับศพ “รองหรั่ง” เปิดใจน้องชายทำเต็มที่ ไม่โกรธทุกฝ่ายสูญเสีย 

"ไบเดน" ประกาศถอนตัว หนุน "แฮร์ริส" ชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ 

 

 


รวมคำบูชา - คำถวาย พิธีทางพระ วันอาสาฬหบูชา - เข้าพรรษา 2567

Sat, 20 Jul 2024 11:32:00

คำถวายดอกไม้บูชาพระรัตนตรัย

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ

คำกล่าวบูชาพระรัตนตรัย (ใช้ทั่วไป)

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา,
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ ๑ ครั้ง)
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ ๑ ครั้ง)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สังฆัง นะมามิ (กราบ ๑ ครั้ง)

คำอาราธนาศีล ๕

มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ, ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ,ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ, ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต,วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ,ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

หมายเหตุ.- ถ้าคนเดียวทั้งอาราธนาศีลและรับศีลให้เปลี่ยน มะยัง เป็น อะหัง, เปลี่ยน ยาจามะ เป็น ยาจามิ นอกนั้นเหมือนกันหมด

คำนมัสการ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

คำปฏิญาณตนถึงไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ต่อจากนี้พระท่านจะกล่าวว่า ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง ผู้รับศีลพึงรับพร้อม ๆ กันว่า
"อามะ ภันเต"แล้วตั้งใจสมาทานศีล(รับศีล)ตามที่พระท่านนำกล่าวสมาทานต่อไปว่า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ต่อจากนี้พระท่านจะกล่าว ผู้รับศีลไม่ต้องว่าตาม)

อิมานิ ปัญจะสิกขาปะทานิ,
สีเลนะ สุคะติง ยันติ, สีเลนะ โภคะสัมปะทา,
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ, ตัสฺมา สีลัง วิโสธะเย

ผู้รับศีลพึงรับพร้อม ๆ กันว่า "สาธุ ภันเต" เสร็จแล้วไหว้ หรือ กราบตามสมควรแก่กรณี

คำอธิษฐานก่อนตักบาตร

สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ อะนาคะเต กาเล

คำแปล ข้าวของข้าพเจ้า ขาวดังดอกบัว ยกขึ้นเหนือหัว ขอถวายพระพุทธ ขอบูชาพระธรรม น้อมนำถวายแด่พระสงฆ์ ด้วยจิตจำนง มุ่งตรงต่อพระนิพพาน ขอให้พบเมืองแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ ฯ

คำถวายดอกไม้ธูปเทียน

อิมานิ มะยัง ภันเต ทีปะธูปะปุปผะวะรานิ ระตะนัตตะยัสเสวะ
อะภิปูเชมะ อัมหากง ระตะนัตตะยัสสะ ปูชา ทีฆะรัตตัง หิตะสุขาวะหา
โหตุ อาสะวักขะยัปปัตติยา
อะหัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อิเมหิ สักกาเรหิ สักกัจจัง อะภิปูชะยามิ

คำแปล ข้าแต่พระคุณเจ้าทั้งหลายผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอบูชาธูปเทียน และดอกไม้อันประเสริฐเหล่านี้ แก่พระรัตนตรัย กิริยาที่บูชาแก่พระรัตนตรัยนี้ จงเป็นผลนำมาซึ่งประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนาน จงเป็นไปเพื่อให้ถึงซึ่งพระนิพพาน เป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะกิเลส เทอญ ฯ

คำถวายสังฆทาน (แบบสามัญ)

อิมานิ มะยัง ภันเต,ภัตตานิ สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ

คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวาย, ภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้, แก่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, ภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ตลอดกาลนาน เทอญฯ (ผู้กล่าวคำถวายไม่ต้องกล่าวว่า "สาธุ")

คำถวายสังฆทาน (แบบอุทิศ)

อิมานิ มะยัง ภันเต, มะตะกะภัตตานิ สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ มะตะกะภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัญเจวะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ญาตะกานัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ

คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวาย, มะตะกะภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้, แก่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, มะตะกะภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย และแก่ญาติทั้งหลายมีมารดาบิดาเป็นต้น, ตลอดกาลนาน เทอญฯ (ผู้กล่าวคำถวายไม่ต้องกล่าวว่า "สาธุ")

คำถวายสังฆทาน (เพื่อถวายพระราชกุศล)

อิมานิ มะยัง ภันเต, ภัตตานิ สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ

คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวาย, ภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้, แก่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, ภัตตาหารกับทั้งบริวารเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ของพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จงทรงพระเกษมสำราญ มีพระสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ตลอดกาลนาน เทอญฯ (ผู้กล่าวคำถวายไม่ต้องกล่าวว่า "สาธุ")

คำกรวดน้ำอุทิศให้ญาติ

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

คำแปล ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

คำกรวดน้ำปรารถนาผลส่วนตัว

อิทัง เม กะตัง ปุญญัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ อะนาคะเต กาเล

คำแปล ขอบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ จงเป็นปัจจัยให้บรรลุพระนิพพาน ในอนาคตกาล ด้วยเทอญ”

บทสวดขอขมาพระรัตนตรัย

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง
พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ

คำแปล ด้วยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเดียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้า ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยัง
ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม

คำแปล ด้วยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเดียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระธรรม ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระธรรมในกาลต่อไป

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา
สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง
สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ

คำแปล ด้วยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเดียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระสงฆ์ ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป

บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

อะหัง นิททุกโข โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์

อะหัง อะเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร

อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอันตรายทั้งปวง

สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ

บทแผ่ส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

คําสวดลาของไหว้

ตั้งนะโม 3 จบ เสสัง มังคะลายาจานิ

คำแปล ลูกขอส่วนที่เหลืออันเป็นมงคล เพื่อยังประโยชน์เพื่อความสุขความเจริญแก่ลูกด้วยเถิด

บทสวดสรงน้ำพระพุทธรูป

อุกาสะ ภันเต ภะคะวา อะยัง กาโล คิมหันตะอุตุ กาละสัมปัตโต อิจฉามะ ภะคะวันตัง อะภิสิญจิตุงสักกัจจัง อาราธะนัง กะโรมะ

คำกล่าว ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ดิฉัน…..ชื่อสกุล…..และครอบครัวขอประทานพระวโรกาส เวลานี้เป็นหน้าร้อน ผองข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ปรารถนาอาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าลงสรงน้ำด้วยความเคารพยิ่ง เพื่อความผาสุกของข้าพเจ้าทั้งหลาย

จากนั้นก่อนเริ่มสรงน้ำให้ตั้งนะโม 3 จบและกล่าวคำอธิษฐานสรงน้ำพระ

อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัททะโว นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง

คำแปล ขอเดชะ ข้าสรงน้ำ พระชุ่มฉ่ำตลอดกาล ทุกข์โศกโรคภัยพาล อันตรธาน เป็นสุข เทอญ

แล้วเริ่มสรงน้ำพระ

คำถวายเทียนพรรษา

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)
ยัคเฆ ภันเต, สังโฆ ปะฏิชานาตุ, มะยัง ภันเต, เอตัง ปะทีปะยุคัง, สะปะริวารัง, เตมาสัง, พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ, อิมัสสะหมิงอะโปสะถาคาเร
นิยยาเทมะ, สาธุ โน ภันเต, อะยัง เตมาสัง, พุทธัสสะ, ปูชะนัตถายะ, ปะทีปะยุคัสสะ, ทานัสสะ
อานิสังโส, อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ปิยะชะนานัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ

คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์โปรดรับทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอมอบถวายเทียนคู่นี้ พร้อมกับของบริวาร ไว้ ณ อุโบสถนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษา ขออานิสงส์แห่งการถวายคู่ เทียน เพื่อเป็นพุทธบูชา ตลอดพรรษนี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่ปิยชนทั้งหลายมีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย ตลอดกาลนานเทอญ

คำถวายผ้าอาบน้ำฝน

อิมานิ มะยัง ภันเต วัสสิกะสาฏิกานิ ภิกขุสังฆัสสะ
โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ
สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย ผ้าอาบน้ำฝน กับทั้งบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ผ้าอาบน้ำฝน กับทั้งบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนาน เทอญ ฯ

อ่านข่าว 

วันอาสาฬหบูชา - วันเข้าพรรษา 2567 ไม่ได้ไปวัดก็ทำบุญได้ ด้วย “บุญกิริยาวัตถุ 10”

วันเข้าพรรษา 2567 พร้อมบทสวด "ถวายเทียนพรรษา" ผู้ถวายย่อมได้รับอานิสงส์ 8 อย่าง

รู้ความสำคัญ "วันอาสาฬหบูชา - วันเข้าพรรษา" ที่เรียกว่า "วันพระใหญ่"


เปิดจำหน่าย แลก-จองเหรียญกษาปณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 10

Fri, 19 Jul 2024 18:04:00

วันนี้ (19 ก.ค. 2567) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 ก.ค. 2567 กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวขึ้น

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรให้มีความร่มเย็นเป็นสุข เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรและความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดิน และเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณให้แผ่ไพศาลทั้งภายในประเทศและนานาประเทศทั่วโลก

สำหรับการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ครั้งนี้ ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 5 ชนิด ได้แก่ เหรียญทองคำขัดเงา

ชนิดราคา 20,000 บาท จำหน่ายราคาเหรียญละ 50,000 บาท , เหรียญเงินขัดเงา ชนิดราคา 1,000 บาท จำหน่ายราคาเหรียญละ 3,000 บาท , เหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 50 บาท จ่ายแลกราคาเหรียญละ 50 บาท , เหรียญโลหะสีขาวขัดเงา (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท จำหน่ายราคาเหรียญละ 200 บาท ,เหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท จ่ายแลกราคาเหรียญละ 20 บาท

โดยเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ทั้ง 5 ชนิด มีลวดลาย ดังนี้ ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า “20,000” บาท” “1,000 บาท” “50บาท” และ “20บาท” ตามลำดับ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗” เบื้องล่างมีข้อความว่า “ประเทศไทย” โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่างข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้าง



เหรียญที่ระลึก 3 ประเภท ได้แก่ เหรียญทองคำ ราคาเหรียญละ 60,000 บาท มีลวดลาย ดังนี้ ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗”

เหรียญเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ ราคาเหรียญละ 10,000 บาท มีลวดลาย ดังนี้ ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า

ด้านข้างพระบรมรูปทั้งสองข้างมีโต๊ะเคียงทอดเครื่องราชูปโภค โต๊ะเคียงด้านขวาทอดพานพระขันหมาก โต๊ะเคียงด้านซ้ายทอดพระมณฑปรัตนกรัณฑ์ เบื้องล่างด้านซ้ายทอดพระสุพรรณราช เบื้องหลังพระบรมรูปมีพระที่นั่งภัทรบิฐ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ” เบื้องล่างมีข้อความว่า “๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗”

เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ราคาเหรียญละ 3,000 บาท มีลวดลายเช่นเดียวกับลวดลายของเหรียญที่ระลึกชนิดเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ เหรียญเฉลิมพระเกียรติ (เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ) เหรียญเงิน ชนิดบุรุษและชนิดสตรี จำหน่ายราคาเหรียญละ 1,600 บาท โดยมีลวดลาย ดังนี้

ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗”

ขอบนอกเหรียญ ด้านหน้าเบื้องบนมี เลข ๑๐ ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องหลังประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เบื้องล่างด้านขวามีเลข “๗” ด้านซ้ายมีเลข “๒” หมายถึง พระชนมพรรษา 72 พรรษา ด้านหลังขอบนอกเหรียญมีห่วงสำหรับบุรุษใช้ห้อยกับแพรแถบ กว้าง 32 มิลลิเมตร สำหรับสตรีใช้ห้อยกับแพรแถบดังกล่าว ผูกเป็นรูปแมลงปอ

ความหมายของแพรแถบ แพรแถบกว้าง 32 มิลลิเมตร พื้นของแพรแถบเป็นสีขาวนวล หมายถึง น้ำพระราชหฤทัยอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ประกอบไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาที่เปี่ยมล้นที่พระองค์มอบสู่ประชาชนของพระองค์ ทั้งสองข้างมีริ้วสีเหลืองข้างละ 2 ริ้ว สีเหลือง เป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ และเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และมีริ้วสีม่วงข้างละ 1 ริ้ว สีม่วง เป็นสีประจำวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ทรงเคียงคู่บุญบารมีในพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์กำหนดเปิดจำหน่ายจ่ายแลก และรับจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ (เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ) ณ สถานที่ดังต่อไปนี้ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เริ่มจำหน่าย จ่ายแลก วันที่ 24 ก.ค. 2567

ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดให้ลูกค้าและประชาชนแลก ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ชนิดราคา 100 บาท ได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ ในวันและเวลาเปิดทำการ ตั้งแต่วันอังคารที่ 23 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป

สำหรับ ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยได้รับการออกแบบเป็นแนวตั้ง เพื่อให้พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีความโดดเด่น งดงาม จัดพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง บนวัสดุพอลิเมอร์ เพื่อให้มีความทนทาน รวมทั้งมีลักษณะต่อต้านการปลอมแปลง และสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกับธนบัตรหมุนเวียนปกติทุกประการ

 อ่านข่าว:

19 ก.ค.เปิดเดินรถไฟกรุงเทพ-เวียงจันทน์ เที่ยวแรก 21.25 น.

"บวร 10" นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ "ในหลวง" 72 พรรษา

ราชกิจจาฯ ประกาศ 90 ประเทศ ยกเว้นวีซา อยู่ไทย 60 วัน


19 ก.ค.เปิดเดินรถไฟกรุงเทพ-เวียงจันทน์ เที่ยวแรก 21.25 น.

Fri, 19 Jul 2024 10:04:00

วันนี้ (19 ก.ค.2567) เป็นวันแรกของการเปิดให้บริการรถไฟสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปยังสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ประเทศลาว

โดยเที่ยวปฐมฤกษ์วันนี้จะเปิดหวูดเดินรถ ขบวนที่ 133 เส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. ถึงหนองคาย เวลา 07.55 น.ของวันที่ 20 ก.ค.จากนั้นก็ขึ้นรถเดินทางต่อ ในเวลา 08.35 น. โดยจะไปถึงที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในเวลา 09.05 น. โดยการตรวจหนังสือเดินทางจะต้องทำ 2 จุด คือ สถานีรถไฟหนองคาย และสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด)

ส่วนราคาตั๋วโดยสาร แบ่งเป็น รถนั่งชั้น 3 คนละ 281 บาท, รถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ราคา 574 บาท และยังมีรถนอนชั้น 2 ปรับอากาศให้บริการด้วย หากเป็นเตียงบนราคา 784 บาท และเตียงล่าง 874 บาท

ขณะที่ จ.หนองคาย เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและสถานที่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางมากับรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์

นายวีระ เจริญร่าง นายสถานีรถไฟหนองคาย เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่และสถานที่ไว้คอยบริการประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะขั้นตอนการผ่านแดนซึ่งผู้โดยสารจะต้องมีหนังสือเดินทางมาด้วยทุกครั้ง 

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางอุดรธานี-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-อุดรธานี ไป-กลับอีก 2 ขบวน รวมเป็น 4 ขบวนต่อวัน ราคาตั๋วอุดรธานี-เวียงจันทน์ รถพัดลม 100 บาท/ รถแอร์ 200 บาท, อุดรธานี-หนองคาย รถพัดลม 30 บาท/รถแอร์ 80 บาท, หนองคาย-เวียงจันทน์ รถพัดลม 70 บาท/ รถแอร์ 120 บาท

สำหรับประชาชนที่สนใจเดินทางขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศกรุงเทพ-เวียงจันทน์ สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้าสูงสุด 180 วัน ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ

อ่านข่าว :

รฟท.เปิดเดินรถไฟ "กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์" 19 ก.ค.นี้

ทดสอบรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ เริ่มบริการ 19 ก.ค.นี้


"บวร 10" นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ "ในหลวง" 72 พรรษา

Thu, 18 Jul 2024 20:14:00

วันนี้ (18 ก.ค.2567) เนื่องในวโรกาสมหามงคล 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ชมรมพุทธศิลป์ศิมาลัยทรงธรรม วัดศิมาลัยทรงธรรม กลุ่มศิลปาศรี ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม จัดแสดง นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ ใต้ร่มพระบารมีองค์จักรีมหาวชิราลงกรณ (Under the Gracious of HM.King Maha Vajiralongkorn) “บวร 10” 

ภายในงานได้จัดแสดงผลงานศิลปะเฉลิมพระเกียรติสืบสานงานศิลป์ 2 แผ่นดิน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เป็นการรวมผลงานที่ทรงคุณค่าของศิลปินแห่งชาติ 28 ศิลปินร่วมสมัยชั้นนำ

 

และ 99 ผลงานของผู้ชนะการแข่งขัน จิตรกรรมนักเรียนบนพัดจีบกล้า 9 ยั่งยืน จาก 10 สถาบันระดับมัธยมศึกษาชั้นนำ ในรูปแบบประติมากรรมและจิตรกรรมสุดงดงามอลังการ รวมถึงการนำผลงานแอนิเมชัน 3 มิติ Digital Transform มานำเสนอเรื่องราวพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ สร้างการรับรู้แก่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า

พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปตอกลาย “บวร 10” อนุรักษ์ สืบสานศิลปะการตอกหนังไทย เฉพาะวันที่ 20-21 ก.ค.นี้

ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วย รมว.วัฒนธรรม ประธานเปิดงาน กล่าวว่า เป็นปรากฏการณ์ที่มีการรวมผลงานอันทรงคุณค่า เป็นความตั้งใจสร้างสรรค์งานศิลป์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ศิลปกรรมคืองานที่ศิลปินสร้างอย่างมีศิลปะ ความรู้ จินตนาการ ประสบการณ์ ซึ่งการจัดการครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมศิลปินให้สร้างงานศิลปะร่วมสมัยอันงดงามและทรงคุณค่า ทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนสนใจในงานศิลปะในแขนงต่างๆ

นายนิวัต มหาบุณย์ รองประธานชมรมพุทธศิลป์ศิมาลัยทรงธรรมและประธานกลุ่มศิลปาศรี กล่าวว่า ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อองค์กรศาสนาพุทธและศิลปินทุกหมู่เหล่า ชมรมพุทธศิลป์ศิมาลัยทรงธรรม วัดศิมาลัยทรงธรรม กลุ่มศิลปาศรี และกระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ รวมถึงพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ให้ปรากฏ และเป็นที่รับรู้แก่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า

โดยนิทรรศการนี้ได้นำเสนอผลงานศิลปะแห่งแรงบันดาลใจอันล้ำค่าจากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชั้นเยี่ยมสาขาจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ที่ได้สร้างชื่อเสียงในระดับชาติและระดับสากล โดยมีผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่าของศิลปินแห่งชาติ เช่น ศ.วิชัย สิทธิรัตน์, ศ.ปรีชา เถาทอง, อ.ช่วง มูลพินิจ เป็นต้น รวมถึงศิลปินชั้นนำ อาทิ อ.ชลิต นาคพะวัน เป็นต้น

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมนิทรรศการอันทรงคุณค่า ชื่นชมความงดงามของพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะหลอมรวมความรักและศรัทธาของคนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียวใน นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ ใต้ร่มพระบารมีองค์จักรีมหาวชิราลงกรณ (Under the Gracious of HM.King Maha Vajiralongkorn) “บวร 10” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ระหว่างวันที่ 18 – 24 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.00 - 20.00 น. ณ โถงชั้น 1 อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก กรุงเทพฯ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.silapasri.com

อ่านข่าว : 

ประมวลภาพ อัญเชิญ "เรือพระที่นั่ง" ลงน้ำ เตรียมการจัดขบวนพยุหยาตราชลมารค

กองทัพเรือ อัญเชิญ "เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์" ลงน้ำ


ม.แม่โจ้ ยืนยัน "เกศกมล" กำลังศึกษา ป.เอก แต่ยังไม่จบ

Thu, 18 Jul 2024 15:22:00

ความคืบหน้ากรณีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายวุฒิปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง

วันนี้ (18 ก.ค.2567) ดร.กอบลาภ อารีศรีสม ประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการจัดการและพัฒนาทรัพยากร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย เป็นนักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตจริง แต่อยู่ระหว่างศึกษาปี 2 สาขาการจัดการและพัฒนาทรัพยากร คณะผลิตกรรมการเกษตร โดยในภาคการศึกษานี้ อยู่ในขั้นตอนสอบวัดคุณสมบัติปริญญาเอก

จากนั้นจะแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษา ภายในปี 2567, สอบโครงร่าง เสนอโครงร่างภายในปี 2568, สอบประมวลความรู้ ภายในปี 2568, สอบดุษฎีนิพนธ์ และเผยแพร่บทความวิชาการ ภายในปี 2571 ถึงจะจบหลักสูตรได้

ดร.กอบลาภ กล่าวว่า การสอบในวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น น.ส.เกศกมล ไม่ได้เข้าร่วมสอบ คาดว่าติดภารกิจอื่น โดยสามารถยื่นคำร้องขอเข้าสอบได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกิจกรรมทางวิชาการโดยตลอด ยืนยันว่าไม่มีการซื้อวุฒิ เพราะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบหลายขั้นตอน

ปัจจุบันคุณหมอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ซึ่งระดับปริญญาเอกใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี

อ่านข่าว : "เกศกมล" ใช้ "ศาสตราจารย์" ไม่ได้ ขีดเส้นส.ค.จบสอบ "วุฒิปลอม 

"ศุภมาส" สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี ม.เอกชน ซื้อขายวุฒิปริญญา 

หนีสื่อ "หมอเกศ" ย่องยื่นเอกสาร สว.เพิ่ม 


กองการกีฬา กทม.แจงค่าล้างแอร์ไม่ถึงตัวละ 7,000 บาท

Thu, 18 Jul 2024 07:38:35

กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลฯ เรื่องค่าล้างแอร์ของหน่วยงานในสังกัด กทม.ราคาต่อเครื่อง 7,000 บาท จนมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ล่าสุด นายดำรงค์ รื่นสุข ผู้อำนวยการกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม. ชี้แจงเรื่องนี้ผ่านเพจ "กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว" ยืนยันว่าไม่มีค่าล้างแอร์ 7,000 บาท แต่เป็นราคารวมค่าอะไหล่ ค่าซ่อมแซมและค่าวัสดุอื่น ๆ ที่เปลี่ยนแล้ว พร้อมแนบลิงก์เพื่อให้ตรวจสอบรายละเอียดโครงการที่ระบบเผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง กทม.

เมื่อเปิดข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการจ้างเหมาล้างและซ่อมเครื่องปรับอากาศ จำนวน 62 เครื่อง เป็นโครงการที่ 6705945237 มีการประกาศราคากลา ที่ระบุรายละเอียดราคาทั้งหมดของแอร์ 62 เครื่อง โดยราคาล้างแอร์แตกต่างตามบีทียู เช่น แอร์ขนาด 12,000 บีทียู ค่าแรงอยู่ที่ราคา 800 บาท, ขนาดบีทียูตั้งแต่ 44,000-60,000 ค่าแรงแพงสุด 2,000 บาท

นอกจากนี้ยังระบุงบประมาณโครงการ 455,060.30 บาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีคเณแอร์ อินฟินิตี้ เซอร์วิส เป็นผู้ประมูลได้ โดยทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.2567

อ่านข่าว

มติสภารับหลักการงบเพิ่ม 1.22 แสนล้าน แจกดิจิทัลวอลเล็ต

"เชฟแนท" ส่งไส้อั่ว-น้ำพริกหนุ่ม คว้าแชมป์ MasterChef Australia 2024

ขับรถพุ่งชนคาเฟ่ในปารีส เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัสหลายคน


"ประกันสังคม" แจงสิทธิประโยชน์ "กรณีเสียชีวิต" ผู้ประกันตน ม.33, 39, 40

Tue, 16 Jul 2024 17:03:00

วันนี้(16 ก.ค.2567) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีตายของผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 ในระบบกองทุนประกันสังคม โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกันตนจะต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าทำศพให้แก่ผู้จัดการศพจำนวน 50,000 บาท

นอกจากนี้ ทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตาย ในกรณีที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินสงเคราะห์ไว้ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้กับบุคคลที่มีชื่อระบุในหนังสือ สำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนไม่ได้ทำหนังสือระบุไว้ ว่าให้ใครเป็นผู้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย คือ บิดามารดา สามีหรือภรรยา และบุตร โดยหารเฉลี่ยในอัตราคนละเท่า ๆ กัน ดังนี้

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงสิทธิกรณีตายผู้ประกันตนตาม ม. 40 ทางเลือกที่ 1 และทางเลือก 2 สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าทำศพ 25,000 บาท และหากกรณีส่งเงินสมทบมาแล้ว 60 เดือน ก่อนเดือนที่ตายจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตายเพิ่มอีก 8,000 บาท

สำหรับทางเลือกที่ 3 กรณีตาย จะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขการเกิดสิทธิ คือ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 ใน 12 เดือน ยกเว้น กรณีอุบัติเหตุมีการจ่ายเงินสมทบ 1 ใน 6 เดือน ก่อนเดือนที่ตาย จะมีสิทธิได้รับเงินค่าทำศพด้วย

ทายาทผู้มีสิทธิสามารถขอรับประโยชน์ทดแทนได้ภายใน 2 ปี โดยผู้มีสิทธิสามารถนำหลักฐาน คือ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม สปส.2-01 และ สปส.2-01/ม.40 บัตรประชาชนของผู้จัดการศพ หลักฐานจากฌาปณสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ สำเนาใบมรณบัตร สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้จัดการศพ (กรณีรับเงินทางธนาคาร)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขาที่สะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 

อ่านข่าว : ส่งสำนวนฟ้อง "ศรีสุวรรณ-เจ๋ง" คนละ 6 ข้อกล่าวหาคดีเรียกทรัพย์

เสียงสะท้อนจาก “แหลมริ่ว” เอา-ไม่เอา “ท่าเรือแลนด์บริดจ์”

ครม.เดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ลงนามสัญญาวันที่ 18 ก.ค.นี้


ม.ขอนแก่น ไล่ออก 3 อาจารย์ซื้อขายงานวิจัย-ดำเนินคดีอาญา

Tue, 16 Jul 2024 15:51:04

วันนี้ (16 ก.ค.2567) นายศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า สำนักงานปลัดกระทรวง อว.ได้รับแจ้งผลการสอบวินัยร้ายแรงกรณีการซื้อขายผลงานวิจัยของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่า ขณะนี้ ม.ขอนแก่น ได้สอบสวนและพิจารณาโทษทางวินัยอาจารย์ 3 คนที่กระทำผิดจริงเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีคำสั่งลงโทษ “ไล่ออก” ทั้ง 3 คน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างแจ้งความดำเนินคดีอาญากับทั้ง 3 คนด้วย

รองปลัดกระทรวง อว. กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีข่าวการซื้อขายงานวิจัยเมื่อต้นปี 2566 สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านักวิจัย 109 คนจาก 33 สถาบัน เข้าข่ายผลงานวิจัยผิดปกติ จึงส่งข้อมูลให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบข้อเท็จจริง ปัจจุบันตรวจสอบเกือบครบถ้วนแล้วและมี 14 คนที่พบความผิดปกติจริง และบางคนได้ตั้งกรรมการลงโทษทางวินัย เป็นผลให้ปัจจุบันมีการไล่ออกแล้ว 6 คน ได้แก่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 1 คน, ม.เชียงใหม่ 2 คนและล่าสุด ม.ขอนแก่น 3 คน

การซื้อผลงานวิจัยที่ไม่ใช่ของตนเอง เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในแวดวงวิชาการ ขอบคุณมหาวิทยาลัยที่มีมาตรการตรวจสอบและนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำความผิด

อ่านข่าว

ม.พิษณุโลก เลิกจ้างอาจารย์ 1 คน เอี่ยวซื้อขายวุฒิปลอม 2 แสน

"เกศกมล" ใช้ "ศาสตราจารย์" ไม่ได้ ขีดเส้นส.ค.จบสอบ "วุฒิปลอม

ไฟเขียว "หวยเกษียณ" ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท/เดือน