เพื่อไทย แจงปม "สจ.จอย" จ่อถอนตัวชิงอบจ.ปราจีนบุรี

Fri, 13 Dec 2024 18:51:06

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความชัดเจนในการส่งผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทยว่า ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือสจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิต ได้พา น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือสจ.จอย ติดต่อเข้ามาว่าสนใจที่จะลงในนามพรรคเพื่อไทย โดยมีการพูดคุยกับตน และผู้อำนวยการพรรค 

อ่านข่าว "ทักษิณ" รับส่งเมีย "สจ.โต้ง"ชิง อบจ.ปราจีนบุรี  

นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่านายสุนทร วิลาวัลย์ ยินยอมแล้วว่าจะส่ง สจ.จอย ลงสมัคร แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ ก็ต้องย้อนไปถามผู้สมัครว่ามีความประสงค์จะลงอีกหรือไม่ ส่วนพรรคถ้ามีความสนใจที่จะลง ก็พร้อมที่จะพิจารณา ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่ได้คุย

อ่านข่าว  “โกทร” บ้านใหญ่ปราจีนฯ ถึงคิวสู้คดีใหม่ “ฆ่า” สจ.โต้ง

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

ผู้สื่อข่าวถามว่า สจ.จอย อาจจะถอนตัวเนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย ทางพรรคเพื่อไทยจะมีผู้สมัครสำรองหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องของนายก อบจ.นั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งทุกจังหวัด ขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัครเองว่ามีความประสงค์อย่างไร

ครั้งแรกที่มีข่าวว่าจะลงกับพรรค เพราะตัวผู้สมัครเขามาหา ถ้าไม่มี ก็ไม่ได้ส่ง ตอนนี้รอทางผู้สมัครมาชัดเจนกับพรรค คงต้องจัดการเรื่องคดีความให้เสร็จก่อน ไม่แน่ใจว่า สจ.จอย จะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัคร

อ่านข่าว แจ้ง 2 ข้อหา "สุนทร-พวก" คดียิง สจ.โต้ง เตรียมฝากขัง-ค้านประกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิเคราะห์ว่าการมาสังกัดพรรคเพื่อไทยอาจเป็นชนวนเหตุครั้งนี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่จริง เพราะนายสุนทร ก็เคยอยู่พรรคเพื่อไทย ในพรรคไทยรักไทยมา

ในส่วนของพรรคการเมืองใน จ.ปราจีนบุรี ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรจนถึงขนาดนั้น ถึงขนาดที่จะต้องมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองแน่นอน 

พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นชนวนแน่นอน เพราะจริง ๆ แล้ว พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และไม่มีอะไรที่เป็นข้อขัดแย้งถึงอาจจะต้องฆ่าแกงกันแบบนี้
น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือสจ.จอย ภรรยาสจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิต

น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือสจ.จอย ภรรยาสจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิต

นายสรวงศ์ ยอมรับว่าตกใจว่าเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเกี่ยวข้องกับการเมืองไม่ควรมีอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ขอให้เป็นกระบวนการด้านกฎหมาย และไม่อยากให้เกิดขึ้นที่ไหนทั้งสิ้น

เมื่อถามถึงผู้สมัครนายกอบจ. เชียงใหม่ จะลงในนามพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่ถ้าจะลงในนามพรรค ต้องเป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะส่งในนามพรรค แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายจังหวัดที่ขอลงในนามสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นมติของพรรค แต่ขอเข้ามาใช้สัญลักษณ์ โลโก้ หรือเสื้อของพรรคก็มี ส่วน จ.เชียงใหม่ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร

ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร จะไปเชียงใหม่ช่วยหาเสียง นายสรวงศ์ กล่าวว่า เหมือนเดิม เป็นความปรารถนาของผู้สมัคร เป็นการเชิญโดยส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวกับทางพรรค

ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ตระกูลหวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีก็ยังอยู่กับพรรค และตัว สส.หลายท่านก็ยังอยู่ ไม่มีอะไร ตระกูลเดียวกันอยู่คนละพรรค ตระกูลเทียนทองก็เป็นเช่นนั้น ความเห็นทางการเมืองแตกต่างกันได้ไม่มีปัญหา

 


"ทักษิณ" แนะ 2 วิธีแก้หนี้สาธารณะ หวัง "ดันGDP โต - ลดขาดดุล"

Fri, 13 Dec 2024 18:00:00

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้กล่าวบนเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทยช่วงหนึ่งว่า วันนี้เป็นห่วงมากที่สุดคือ หลังจากที่นายโดนัลล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งก่อนการหาเสียงก็มีคณะทำงานของทรัมป์ได้วิดิโอคอลกับตนว่าประเทศไทยระวัง เนื่องจากเราได้เปรียบดุลการค้าอเมริกา เพราะอเมริกาจะจัดการกับประเทศที่เสียดุลการค้าด้วยการเพิ่มภาษีหรือให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาเพื่อไปให้เกิดการจ้างงานในอเมริกา

ขณะเดียวกันเราเพิ่งไปเจรจา FTA กับประเทศออสเตรเลีย ทำให้สินค้า Daily Product เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่เสียภาษี แต่อเมริกากระทบ 50% แม้เราอาจจะมองว่าอาจจะไม่กระทบอะไรกับคนไทย แต่ต้องศึกษาเอาไว้ เป็นสิ่งที่เราต้องรู้เขา และเขาต้องรู้เรา

นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนที่ ทรัมป์ ประกาศว่าจะใช้หนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ด้วยบิตคอยน์และเพื่อนตนก็เตือนให้ระวัง "บิตคอยน์" จะขึ้นไปถึงเหรียญละ 850,000 บ. ซึ่งวันนี้อยู่ที่เหรียญละ 100,000 บ.ที่พูดแบบนี้เพราะมีแนวโน้มที่หลายประเทศจะนำบิตคอยน์ บางส่วนมาใช้จ่ายในประเทศ

ขณะเดียวกันผู้ว่าการแบงค์ชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า บิตคอยน์ แต่แข่งกับทองคำ แสดงให้เห็นว่า เงินดิจิทัลสามารถสร้างมูลค่าได้ และขณะนี้บิตคอยน์ ออกมาแล้วกว่า 19 ล้านเหรียญ จาก 21 ล้านเหรียญ ขณะที่ทองคำออกมาได้ไม่จำกัด ซึ่งหลายคนบอกด้วยว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าประเทศในโลกนี้ หมายความว่า 1 ประเทศมีมากกว่า 1 สกุล ดังนั้นวันนี้ไทยต้องเตรียมและต้องรู้เท่าทันให้ได้

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้มอบให้นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง และ ก.คลัง ไปศึกษา ว่าเราจะรับบิตคอยน์ได้หรือไม่ สิ่งที่น่าติดตามคือ สเตเบิลคอยน์ ที่จะเพิ่มเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจแทนการออกพันธบัตร ซึ่งขาดทุนทุกปี โดยสามารถออกเป็นคอยซ์ โดยมีบอร์ดของรัฐบาลค้ำประกัน ทำให้มีเงินก็จะไหลเวียนในเศรษฐกิจทำให้เศรษฐกิจโตแน่นอน

นายทักษิณ กล่าวว่า GDP ปีหน้าโต 3.5 % ไม่น่ามีปัญหา ปี 69 โต 4% ซึ่งวันนี้เราไม่พอใจเพราะหาก GDP ไม่ถึง 5 % ประเทศไทย จะด้อยกว่าประเทศอื่นในอาเซียน เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเราถูกดูดออกหมด เพราะว่า ธนาคารพาณิชย์อยากปล่อยกู้ธุรกิจที่ยังไม่มั่นคง จึงต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจ โดยที่ไม่เป็นภาระกับประเทศ

หนี้สาธารณะเราเยอะมาก 68% มีเพดานหนี้สาธารณะอยู่ 70% วันนี้มีวิธีลดหนี้สาธารณะอยู่ 2 อย่างคือ 1.ทำ GDP ให้โต 2.ลดการขาดดุลหรือจัดเก็บภาษีให้เพียงพอ ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากทั้งคู่ ซึ่งไม่เหนือบ่ากว่าแรง เพราะพรรคเพื่อไทยเราเกิดมาด้วยความสามารถทางเศรษฐกิจ

 

อ่านข่าว : เช็กเงื่อนไขขั้นตอนลงทะเบียน "คุณสู้ เราช่วย" 

เช็กผลงาน 90 วัน "รัฐบาลแพทองธาร" ทำอะไรแล้วบ้าง  

นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล  

 

 

 

 

 


เช็กเงื่อนไขขั้นตอนลงทะเบียน "คุณสู้ เราช่วย"

Fri, 13 Dec 2024 15:49:00

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากกระทรวงการคลัง กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" เพื่อแก้หนี้ จำนวน 2.1 ล้านบัญชี เป็นลูกหนี้ 1.9 ล้านคน และมียอดหนี้รวมประมาณ 890,000 แสนล้านบาท

โดยเปิดใหลงทะเบียนวันแรกเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว จะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้ลดลงมากว่า 10%

ขณะนี้มีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" จำนวนมาก อาจทำให้การเข้าใช้บริการสายด่วน 1213 ธปท.และระบบลงทะเบียนมีความล่าช้า แต่ประชาชนเข้าลงทะเบียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

อ่านข่าว เปิดลงทะเบียนแก้หนี้ 12 ธ.ค. ช่วยลูกหนี้ 1.9 ล้านราย ยอดหนี้ 8.9 แสนล้าน

เช็กขั้นตอนการลงทะเบียน "คุณสู้ เราช่วย"

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถจัดการภาระหนี้ได้อย่างยั่งยืน โดยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 28 ก.พ.2568

ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนทุกคน ที่ลงทะเบียนในระยะเวลาดังกล่าว และมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขจะได้รับสิทธิ์เท่ากันทุกคน โดยสถาบันการเงินจะเริ่มติดต่อกลับตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2568 และสามารถตรวจสอบสถานะคำร้องผ่าน เว็บไซต์ www.bot.or.th/khunsoo หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสายด่วนธนาคารแห่งประเทศไทยที่เบอร์ 1213 สำหรับเงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการแก้หนี้มีดังนี้

มาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์

เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็กที่มีวงเงินหนี้ไม่สูงมาก ให้สามารถรักษาทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันทั้งบ้าน รถ และสถานประกอบการไว้ได้ โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้แบบลดค่างวดและลดภาระดอกเบี้ย โดยค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดเงินต้น รูปแบบการให้ความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถชำระมากกว่าค่างวดขั้นต่ำที่กำหนดไว้ได้ เพื่อตัดเงินต้นเพิ่มและปิดจบหนี้ได้ไวขึ้น โดยคุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ มีวงเงินสินเชื่อรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกินที่กำหนด โดยพิจารณาแยกวงเงินตามประเภทสินเชื่อต่อสถาบันการเงิน ดังนี้

ส่วนกรณีสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต หากมีหนี้บ้านหรือรถที่เข้าเงื่อนไขข้างต้น สามารถพิจารณาเข้ามาตรการรวมหนี้ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่สถาบันการเงินรับได้ โดยวงเงินเมื่อรวมแล้วไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนด

มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ”

รูปแบบการช่วยเหลือ ปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนและชำระหนี้ปิดบัญชีได้เร็วขึ้น หนี้ที่เข้าร่วมได้ : สินเชื่อทุกประเภท (ทั้งมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน) 

ลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการได้ : ลูกหนี้บุคคลที่มียอดหนี้ (รวมดอกเบี้ย) ไม่เกิน 5,000 บาทต่อบัญชี มีสถานะบัญชี ณ วันที่ 31 ต.ค.67 ค้างชำระเกิน 90 วันโดยคุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการ

ในระยะต่อไป ผู้ประกอบธุรกิจกลุ่ม Non-Bank อื่น ๆ จะมีความช่วยเหลือออกมาเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างไป ลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการศึกษารายละเอียดของมาตรการ www.bot.or.th  ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2567 ถึงวันที่ 28 ก.พ.2568 

อ่านข่าวอื่นๆ

เช็กจุดเสี่ยง-วิธีเอาตัวรอดช้างป่าภูกระดึงตกมัน

"ภรรยา สจ.โต้ง" ยื่นกองปราบขอโอนคดี-คุ้มครองพยาน

 


ทักษิณท้ารบ “ภูมิใจไทย” ปมสังหาร “สจ.โต้ง” ล้างอิทธิพล “โกทร”

Fri, 13 Dec 2024 14:33:00

ในที่สุดปมปลิดชีพ “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ชื่อเดิม “เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช” บุตรบุญธรรมของ “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็เริ่มคลี่คลายว่า เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับการเมืองในท้องถิ่น และระดับประเทศ แน่นอน

หากแกะรอยจากคลิปเสียงของ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ ช่วงหนึ่งที่ระบุว่า “...ครั้งนี้ พอผมมีโอกาสที่จะทำอย่างนี้ ผมทำเพื่อใคร โกก็โทรไปเรียก พวกนายกฯ ทุกคน ก็ไม่เป็นไร แข่งได้เลย ทุกคนแข่งได้หมด”

หรือคำสัมภาษณ์ของ สจ.จอย น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ภรรยาของ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ ระบุว่า ปกติแล้วสามีไม่ได้ไปบ้านโกทรนานแล้ว แค่ครั้งนี้อยากวนรถกลับเพื่อเคลียร์ใจให้รู้เรื่อง

“..สามีตั้งใจให้สมัครนายก อบจ. พอรู้ เราก็เตรียมตัวแล้วเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่สามีสนับสนุน เขารักทางด้านนี้อยู่แล้ว แต่ยังมีหลายปัจจัยที่ยังลงไม่ได้จึงอยากให้เราลงแทน”

หรือถ้อยทำนองตัดพ้อ “..พี่เลี้ยงหมา กล้าฆ่าหมาตายไหมล่ะ? พี่เลี้ยงหมาอยู่ตัวนึงพี่กล้าเอายาเบื่อหมาที่พี่รักให้มันกินไหม พี่ทำได้ไหม นอกจากว่า พี่ไม่รักกันแล้ว”

ส่วนเส้นทางการเมืองหลังจากนี้ สจ.จอย บอกว่า คงไม่แล้ว เพราะคนที่อยากให้เป็น อยากให้ทำ ไม่อยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไปทำไม แต่ยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป

หากประมวลเหตุการณ์คร่าวๆ พอจะเห็นได้ว่า สจ.โต้ง “ชัยเมศร์” ได้เตรียมการให้ สจ.จอย “ณภาภัช” ภรรยา เพื่อเตรียมการลงเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี หลังจาก “โกทร” สุนทร ครบกำหนดวาระ โดยมีการส่งภาพ สจ.จอยที่ถ่ายรูปคู่กับ “ทักษิณ ชินวัตร” บิ๊กบอส พรรคเพื่อไทย ให้กับทีมงานเพื่อนำไปหาในการเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ที่กำลังมาถึง

แต่การเมืองภายใต้ระบบบอุปถัมป์ ในระดับท้องถิ่น ไม่ง่ายเช่นนั้น มีข้อมูลจากพื้นที่ระบุว่า “บ้านใหญ่” ตระกูลวิลาวัลย์ ไม่ได้ระแคะระคายมาก่อนว่า บุตรบุญธรรมจะแปรพักตร์

จากเดิมหมายมั่นจะส่ง สจ.โต้ง ชัยเมศร์ ลงชิงชัย เพื่อรอคนให้คนในตระกูลเติบโตและมีวุฒิภาวะพร้อม โดยให้เติบโตภายใต้เงาบ้านใหญ่ ที่มีพรรคภูมิใจไทยคอยอุ้มชู แต่การณ์กลับตรงกันข้าม ในขณะที่หลายๆ ซุ้มการเมือง ก็เกิดปฏิกิริยาต่อต้านในหลายพื้นที่ จึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า “โกก็โทรไปเรียก พวกนายกฯ ทุกคน ก็ไม่เป็นไร แข่งได้เลย ทุกคนแข่งได้หมด

ตอกย้ำด้วย “กนกวรรณ วิลาวัลย์” อดีต รมช.ศึกษาธิการ ตอบคำถามนักข่าว หลังเข้าเยี่ยมโกทร “สุนทร” บิดา ว่า ส่วนตัว สนับสนุน สจ.โต้ง ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งมาโดยตลอด อีกทั้งบิดาก็สนับสนุน สจ.โต้ง คนเดียวเช่นกัน เพราะพ่อรักเหมือนลูก อยู่ด้วยกันมานาน และรัก สจ.โต้ง เหมือนน้องชาย

“ข่าวที่ว่าพี่จะส่งลูกชายลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ปราจีนบุรี ไม่เป็นความจริง เพราะลูกชายเกิดปี 2538 ซึ่งอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะลงสมัครได้”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การกลับเข้ามาของ “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย เพื่อกู้คืนศักดิ์ศรี หลังพ่ายพรรคภูมิใจไทยเต็มรูปในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(สว.) จนได้ สว.สายสีน้ำเงินเกินกว่าครึ่งสภา ทำให้ “ทักษิณ” แพ้ไม่ได้ ภาพการเดินสายลงพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ในสังกัดพรรคเพื่อไทย หลาย ๆ จังหวัด ได้ส่งผลสะเทือนการเมืองท้องถิ่น อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก

และการส่งพวงหรีดแสดงความอาลัย สจ.โต้ “ชัยเมศร์” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” คือ สัญลักษณ์การแสดงออกทางการเมืองชัดเจน

ผนวกกับการให้สัมภาษณ์อย่างดุเดือด ของอดีตนายก “ทักษิณ” ว่า จ.ปราจีนบุรี เป็นเขตอิทธิพลของ “โกทร” มานานมากแล้ว การเมืองมีทั้งการฮั้ว เมื่อฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน เป็นสิ่งที่เลวร้าย และยอมรับว่า สจ.โต้ง อยากให้ภรรยาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และได้แจ้งโกทร ให้ทราบแล้ว

“มีการพูดคุยกันว่า สส.ทุกคนของพรรคเพื่อไทยในเขต จ.ปราจีนบุรี พร้อมสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง เป็นข้อยุติแล้ว ส่วนการที่เขาถอนตัว คงยังไม่กล้าลง เพราะอิทธิพลยังไม่จบ ..เป็นหน้าที่ตำรวจที่ต้องกวาดล้างอิทธิพลใน จ.ปราจีนบุรี ให้เกลี้ยง” ทักษิณ ระบุ

และย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ปราจีนบุรี “เดี๋ยวก็เกลี้ยงแน่” .. “เห็นท่านนายกฯ กำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งทีมเฉพาะกิจที่นายกฯ คุมเอง” และบางทีต้องเอาสักหน่อย เพราะมันปล่อยไว้นาน 

อ่านข่าว

ปลิดชีพ “สจ.โต้ง” วงจรการเมือง “ในรัก มีชัง” ใต้เงาบ้านใหญ่

"ภรรยา สจ.โต้ง" ยื่นกองปราบรับโอนคดี-คุ้มครองพยาน


"แสวง" ยันคดียิง "สจ.โต้ง" เสียชีวิต ไม่กระทบจัดเลือกตั้งท้องถิ่น

Fri, 13 Dec 2024 12:17:56

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ภายในบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี ว่า น่าจะเป็นเรื่องการเมืองในพื้นที่ และเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่ง กกต.ไม่ได้กังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง

ส่วนจะเกี่ยวเนื่องไปถึงความกังวลใจของประชาชน จนส่งผลต่อการออกมาใช้สิทธิหรือไม่นั้น นายแสวง มองว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะเหตุดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ก่อเหตุและเสียชีวิต ขณะนี้ทางผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้รายงานว่า เกิดอะไรขึ้น ประกอบกับตนเองติดตามข่าวว่าจะส่งผลอะไรหรือไม่

ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการเลือกตั้ง และการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

นายแสวง กล่าวว่า การออกไปใช้สิทธิของประชาชนเป็นโจทย์ของ กกต. ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใด ก็ต้องการให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิออกเสียงในวันที่ 1 ก.พ.2568 ให้มากที่สุด รวมทั้งปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เกิดเหตุ

กกต.มีหน้าที่บริหารจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนปัญหาเรื่องความรุนแรงก็มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดูแลอยู่แล้ว

อ่านข่าว : กกต.เผย 1 ก.พ.เลือกตั้ง ส.อบจ. 76 จังหวัด นายก อบจ. 47 จังหวัด 

แจ้ง 2 ข้อหา "สุนทร-พวก" คดียิง สจ.โต้ง เตรียมฝากขัง-ค้านประกัน 

เปิดคลิปเสียงคล้าย "สจ.โต้ง" โต้เถียงปมลงแข่งการเมืองท้องถิ่น 

 


กกต.เผย 1 ก.พ.เลือกตั้ง ส.อบจ. 76 จังหวัด นายก อบจ. 47 จังหวัด

Fri, 13 Dec 2024 11:55:00

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ศ.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ การเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ จะเป็นวันครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามกรอบกฎหมายจะต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน หรือตามแผน 1 ก.พ.2568 โดยย้ำว่า กกต.เตรียมพร้อม เรื่องการรับสมัครการวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร และดำเนินตามแผนที่ได้ประกาศ

สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง

สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งกล่าวว่าหลังจากการเลือกตั้ง อบจ.จะมีการเลือกตั้งเทศบาลในระดับถัดไป ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความแปลกประหลาดเนื่องจากเป็นเหตุผลทางกฎหมายมากกว่าเหตุผลทางการเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ให้พรรคการเมืองระดับชาติส่งผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งได้ จากกรณี นายก อบจ. 29 คน ลาออก หมายความว่าในจังหวัดดังกล่าวมีการเลือกตั้ง 2 ครั้ง ประกาศผลไปแล้ว 20 จังหวัดและเตรียมที่จะประกาศผลอีก 5 จังหวัดและจะมีอีก 4 จังหวัดที่เตรียมเลือกตั้งใน 2 สัปดาห์นี้

การเลือกตั้ง 2 ครั้งใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเพราะเป็นการเลือกทั้งจังหวัด 2 ครั้ง บางครั้งกระทบกับการบริหารของ อบจ. โดยเฉพาะ 4 จังหวัดที่กำลังจะเลือกตั้งจะกระทบต่อการบริหารเนื่องจากการเลือก นายก อบจ. เสร็จสิ้น สภา อบจ.ครบวาระไปแล้ว และนายก อบจ.ไม่สามารถที่จะมีการแถลงนโยบายเข้าทำหน้าที่ได้ มีแน่นอน 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ตาก

และจะเหลือให้เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน 76 จังหวัดและการเลือกตั้ง นายก อบจ.47 จังหวัด และในช่วงนี้ที่มีการลาออกของนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. ก็จะไปเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 1 ก.พ.2568 โดยได้ออกแบบบัตรเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งหมด 8 สี ภูมิภาค 2 สี อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์เพื่อป้องกันการทุจริต

กกต.คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะออกไปใช้สิทธิ์น้อยแต่เชื่อว่าจะออกไปมากกว่าร้อยละ 50 หรือวางเป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 65-70 จึงหวังที่จะได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในความตั้งใจของ กกต. คือการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งที่ผ่านมา 29 จังหวัดก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งมีน้อยมาก 

พร้อมกันนี้ชี้แจงว่าการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชนเป็นความชอบธรรม ที่จะได้บุคคลที่มีเสียงข้างมากจากประชาชนในพื้นที่เข้าไปบริหาร 

อ่านข่าว : 

ผู้สมัคร "นายก อบจ.ตาก" เร่งหาเสียงขอคะแนนโค้งสุดท้าย

กกต.รับรองผลเลือกตั้ง นายก อบจ. 5 จังหวัด 16 ธ.ค.นี้

"ทักษิณ" ลุยอุบลฯ ช่วย "กานต์" หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.


"ทักษิณ" รับส่งเมีย "สจ.โต้ง"ชิง อบจ.ปราจีนบุรี

Fri, 13 Dec 2024 10:42:00

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) นายทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยถึงกรณีการเลือกตั้งนายกอบจ.ปราจีนบุรี ที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นอีกครั้งว่า ไม่มีอะไร พื้นที่ จ.ปราจีนบุรีเป็นเขตอิทธิพลของนายสุนทร วิลาวัลย์ มานานแล้ว การเมืองมีทั้งฮั้ว

ถ้าฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจก็จัดการได้เร็วมาก ล้อมบ้านและจับกุมได้ทั้งหมด ยอมรับว่าตำรวจจับกุมได้เร็วมาก

ส่วนที่มีการเปิดแชต สจ.โต้ง กับคนสนิทของนายทักษิณ ยอมรับว่า ใช่ อยากให้ภรรยาลงในนามพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าได้มีการคุยกับนายสุนทรแล้ว แต่ถูกเรียกไปอีกครั้งหนึ่ง ก็อาจจะเรียกไปต่อรองกันหรือไม่ก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่รู้ รอผลการสอบสวนก่อน

อ่านข่าว ภรรยา รับศพ "สจ.โต้ง" เผยไม่รู้ปัญหาปมขัดแย้ง

นายทักษิณ ชินวัตร

นายทักษิณ ชินวัตร

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะมีการส่งลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ปราจีนบุรี หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนั้นได้มาคุยกันว่า สส.เพื่อไทยในเขตปราจีนบุรีจะมีการสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง

ส่วนที่มีการถอนตัวแล้ว เพราะเขาคงไม่กล้าลง เพราะยังมีอิทธิพลที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องมีการกวาดล้างอิทธิพลปราจีนบุรีให้เกลี้ยง

ส่วนพรรคเพื่อไทย จะมีการส่งผู้สมัครปราจีนบุรีหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้

อ่านข่าว "แพทองธาร" ควง "ทักษิณ" นั่งรถไฟไปหัวหินสัมมนาเพื่อไทย

น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.ปราจีนบุรี หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง

น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.ปราจีนบุรี หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง

ไม่หวั่นการเมืองท้องถิ่นแรงกระทบ

ส่วนพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจะส่งนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือนายกฯ ก๊อง ลงหรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบต้องถามพรรคเพื่อไทย รวมถึงสนามอื่นๆ ด้วย ต้องถามพรรคก่อนจะหันมาบอกผู้สื่อข่าวว่า หากพรรคแกนนำรัฐบาล กลัวอิทธิพลก็แย่แล้ว ไม่ต้องไปกลัวหรอกต้องปราบอิทธิพลให้เกลี้ยง ก่อนจะว่าดูปราจีนบุรีสิ เดี๋ยวก็หมด เที่ยวนี้เกลี้ยงแน่ ซึ่งหลายจังหวัดก็เป็นแบบนี้เดี๋ยวตำรวจก็จัดการ เพราะช่วงนี้ตำรวจฟิตไม่ต้องห่วง

อ่านข่าว เปิดคลิปเสียงคล้าย "สจ.โต้ง" โต้เถียงปมลงแข่งการเมืองท้องถิ่น

เมื่อการเมืองท้องถิ่นมีความรุนแรงขนาดนี้ จะมีความกังวลในการเมืองระดับประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่กังวล วันนี้ต้องทำหน้าที่เมื่อทำหน้าที่แล้วละทิ้งไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะช่วงตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็พลาด 4 ครั้ง วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ความรุนแรงต่าง ๆ ในระดับประเทศลดลงไปเยอะเหลือน้อยลง

ส่วนที่มีภาพนายทักษิณไปที่ จ.นครปฐม ไปคุยกับบ้านใหญ่ นายทักษิณ ยอมรับว่าไปงานเลี้ยง ผู้บริหารของโรงแรมไมด้า ชวนไปทานข้าว มีตำรวจเป็นส่วนใหญ่ เป็นรุ่นน้อง แต่ยังไม่เจอและยังไม่พูดคุยบ้านใหญ่ของนครปฐม

และพรรคเพื่อไทย จะส่ง อบจ.ภาคใต้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีฐานเสียงภาคใต้ เพราะการจะลงจะต้องมีฐานเสียง

อ่านข่าว นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล

เตรียมเดินสายก่อนปีใหม่ 

ส่วนพื้นที่จ.ศรีสะเกษ ต้องเจอกับบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล พ่อของน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.กระทรวงมหาดไทยกลัวหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่กลัวเป็นคนละฟากกัน ส่วนการทำพื้นที่ยากหรือไม่นั้น ไม่มีอะไรยากอยู่ที่ความพยายาม

เมื่อถามว่า สส.อีสานในอนาคตจะกลับมาเหมือนเดิมที่ได้ 125 ที่นั่งหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องให้เกินร้อย

ส่วนเมื่อถามว่า 20 สส.ก๊วนธรรมนัส จะมาซบพรรคเพื่อไทยหรือ ไม่ นายทักษิณ บอกว่า ก็เหมือนอยู่ด้วยกันอยู่แล้วโดยนายทักษิณ จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงสิ้นเดือนธ.ค.นี้ ส่วนนายกรัฐมนตรี จะไปด้วยหรือไม่ ไม่ทราบ และจะลงพื้นนที่ จ.ศรีสะเกษ เชียงราย

อ่านข่าว เช็กผลงาน 90 วัน "รัฐบาลแพทองธาร" ทำอะไรแล้วบ้าง 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

รับผลงาน 90 วันบางส่วนต่อยอดจากอดีต  

นายทักษิณ กล่าวถึงแถลงผลงาน 90 วันของรัฐบาลว่า นายกรัฐมนตรี ได้พูดกับประชาชนว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ทุกอย่างกำลังจะเสร็จปีหน้าให้ประชาชนคาดหวังว่าจะทำอะไรต่อ โดยเฉพาะการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ที่ต้องทำภายใต้ข้อจำกัดวันนี้จะไปพูดสิ่งที่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีไว้ พรรคจะได้เข้าใจเรื่องทางวิชาการมากขึ้น

ยอมรับนโยบายบางอย่าง เป็นนโยบายที่เคยทำไว้ในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีและนำมาต่อยอด และยังใช้ได้ดี เช่น เรื่องบ้าน คนไทยทุกคนต้องมีบ้าน อย่างน้อยคือปัจจัยสี่ ที่อยู่อาศัยเป็นหัวใจสำคัญ

พร้อมยกตัวอย่าง ถ้าคนยากจนอยู่ในสลัม เขาฝันแค่ว่าพรุ่งนี้จะมีกินหรือไม่ เขาไม่กล้าฝันไปไกลขนาดนั้น แต่ถ้าเขาอยู่ในบ้านที่สะอาดปลอดภัย เขาจะเริ่มฝันว่าจะสร้างอนาคตให้กับลูกอย่างไร ความฝันเป็นตัวขับเคลื่อนสังคม ต้องทำให้คนไทยได้ฝันในสิ่งที่สูงขึ้น

รวมทั้ง ปัญหาผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด ก็จะต้องมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาเหมือนในอดีต โดยจะให้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าชุด นายทักษิณ ยังพูดติดตลกว่า

ตอนนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักไทยคนเดียวกัน แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยผมยาวกว่า

อ่านข่าวอื่นๆ

คุม "สุนทร" นายก อบจ.ปราจีนฯ ลูกน้อง 7 คน สอบปมยิง "สจ.โต้ง"

 


"แพทองธาร" ควง "ทักษิณ" นั่งรถไฟไปหัวหินสัมมนาเพื่อไทย

Fri, 13 Dec 2024 10:11:00

วันนี้ (13 ธ.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยบรรดารัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมเดินทางร่วมเดินทางโดยรถไฟพิเศษหมายเลข 913 “Royal Blossom” เพื่อไปสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 13-14 ธ.ค.2567

โดยในการสัมมนาครั้งนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินทางไปสัมมนาในครั้งนี้ด้วย 

 

ทั้งนี้นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานที่รถไฟบางบำหรุ โดยมีประชาชนได้มาขอถ่ายรูปเซลฟี่และนำบัตรสมาชิกพรรคไทยรักไทยมาให้นายทักษิณได้เซ็นชื่อรวมถึงนำภาพถ่ายของนายทักษิณมาขอถ่ายรูป

ระหว่างรอรถไฟ นายทักษิณ เล่าว่า ตนไม่ได้นั่งรถไฟมานานมากแล้วตั้งแต่ปี 2549 ก็เกือบ 20 ปีแล้ว นั่งครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2548 ไปหาเสียงที่ภาคอีสานด้วยขบวนรถไฟหมายเลข 9 ไป จ.อุบลราชธานีและประชุมบนรถไฟ ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้นายทักษิณได้หันมาแซวสื่อมวลชนที่เคยทำข่าวในอดีตว่าสื่อยังไม่แก่ ขณะที่ตนเองแก่และโทรม และยังระบุว่า การเดินทางด้วยรถไฟไปหัวหินในวันนี้เป็นครั้งแรกหลังเดินทางกลับจากประเทศไทย

เมื่อถามว่าได้มาขึ้นรถไฟครั้งนี้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่า ก็เห็นแค่ทาสีใหม่ ซึ่งระหว่างรอรถไฟนายทักษิณกล่าวว่ารถไฟไม่สามารถใช้ความเร็วได้เนื่องจากสองข้างทางมีชุมชนสลัมอยู่ ดังนั้นในอนาคตต้องมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตึกซึ่งสอดคล้องกับโครงการ "บ้านเพื่อคนไทย" ที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายไปเมื่อวานนี้

นายทักษิณยังกล่าวว่า กับนายกรัฐมนตรี DNA เดียวกัน พร้อมผู้ติดตลกว่าหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ปี 2544 กับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยปี 2567 เป็นคนเดียวกัน เพียงแต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยผมยาวกว่าเป็นที่น่าสังเกตว่านายทักษิณมีลักษณะผ่อนคลายพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกับผู้สื่อข่าว

จากนั้นนายทักษิณได้เดินทางไปขึ้นรถไฟโดยมีนางสาวแพทอง และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีรอต้อนรับโดยนายทักษิณได้สวมกอดกับ น.ส.แพทองธารก่อนเดินทักทายรัฐมนตรี สส. ของพรรคเพื่อไทย

 

 

อ่านข่าว :

นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล

มติขับ 20 สส.กลุ่มธรรมนัสพ้น พปชร. จ่อซบพรรคกล้าธรรม

"วันนอร์" เผยนัดประชุมร่วมรัฐสภา 20 ธ.ค.นี้ ถกข้อตกลง FTA


ผู้สมัคร "นายก อบจ.ตาก" เร่งหาเสียงขอคะแนนโค้งสุดท้าย

Thu, 12 Dec 2024 19:19:00

โค้งสุดท้ายของการหาเสียงนางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดตาก หมายเลข 1 ลงพื้นที่ตลาดวังหิน ที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก เพื่อขอคะแนนเสียงจากพ่อค้าแม่ค้า โดยชูโยบายพัฒนาท้องถิ่นให้มีมาตรฐาน ยกระดับเครื่องจักรกลการเกษตร 1 อำเภอ 1 ชุด พร้อมด้วยการยกระดับถนนและโครงสร้างพื้นฐานให้มีความทันสมัย

นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดตาก หมายเลข 1

นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดตาก หมายเลข 1

ด้าน พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ผู้สมัครหมายเลข 2 ใช้กลยุทธ์หาเสียงแบบเน้นการปราศรัย ก็เดินหน้าขอคะแนนเสียงไม่แพ้กัน โดย พ.ต.ท.อนุรักษ์ เน้นนโยบายพัฒนาที่หลากหลาย เช่น ยกระดับการแพทย์ฉุกเฉิน เสริมศักยภาพกู้ภัย ปั้นทีมฟุตบอลจังหวัดตาก พัฒนาโรงเรียนกีฬา และสนับสนุนการท่องเที่ยวท้องถิ่น

พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดตาก หมายเลข 2

พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดตาก หมายเลข 2

สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ตาก เดิมเป็นของ นายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกุลกิจ อดีตนายกฯ ที่เพิ่งลาออกไป ครั้งนี้ส่ง นางอัจฉรา ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ มาแทน โดยได้รับการสนับสนุนจากนายธนัสถ์ ทวีเกื้อกุลกิจ อดีต สส.จังหวัดตาก รวมทั้งนักธุรกิจผู้กว้างขวางฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก ของ จ.ตาก ที่สำคัญ นายณัฐวุฒิ ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำท้องถิ่น จึงถือว่า นางอัจฉราได้เปรียบอยู่ไม่น้อย 

วันอาทิตย์นี้ (15 ธ.ค.67) จะมีการเลือกตั้ง นายก อบจ.ตาก ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้นับเป็นการชิงเก้าอี้ ระหว่างผู้สมัคร 2 เบอร์

วันอาทิตย์นี้ (15 ธ.ค.67) จะมีการเลือกตั้ง นายก อบจ.ตาก ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้นับเป็นการชิงเก้าอี้ ระหว่างผู้สมัคร 2 เบอร์

ส่วน พ.ต.ท.อนุรักษ์ เคยเป็นอดีต ผู้ช่วย รมช.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในสมัยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนักการเมืองรุ่นใหม่ในพื้นที่ เช่น นายณพล ชยานนท์ภักดี นายกเทศมนตรีเมืองตาก และนายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 พรรคประชาชน จึงหวังได้คะแนนจากคนรุ่นใหม่เข้ามาเสริม เพื่อต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง

อ่านข่าว : ยังไม่ตัดสินใจ "ถาวร" เปิดบ้านรับเทียบเชิญลงนายก อบจ.สงขลา 

"ทักษิณ" ลุยอุบลฯ ช่วย "กานต์" หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.  

กกต.รับรองผลเลือกตั้ง นายก อบจ. 5 จังหวัด 16 ธ.ค.นี้ 

 

 

 


มติขับ 20 สส.กลุ่มธรรมนัสพ้น พปชร. จ่อซบพรรคกล้าธรรม

Thu, 12 Dec 2024 14:46:16

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานการประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.พรรคพลังประชารัฐ แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อลงมติตามที่คณะกรรมการตรวจสอบเสนอให้ขับ 20 สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรค โดยเป็นการลงมติตามขั้นตอนข้อบังคับพรรค ข้อที่ 54 วงเล็บ 5 วรรค 2 เรื่องให้ สส. จำนวน 20 คน สิ้นสุดความเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า การลงมติดำเนินการเป็นรายบุคคล ไล่เรียงตั้งแต่คนแรกจนครบ 20 คน ทั้งนี้เสียงของมติที่ประชุุมครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ คือ เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุม ส่วนผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค งดออกเสียง

การลงมติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผลให้สมาชิกภาพของ สส.ทั้ง 20 คน ซึ่งเป็น สส.ของพรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลง

กระบวนการหลังจากนี้จะเสนอไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามขั้นตอนเพื่อความรอบคอบ พร้อมย้ำว่าบรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและ พล.อ.ประวิตร กำชับให้ดูแลกระบวนการทุกอย่างตามกฎข้อบังคับอย่างครบถ้วน ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้จะเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามขั้นตอน

นายไพบูลย์ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐยังมีความมั่นคงและมีการประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและ สส.ทุกสัปดาห์ ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ประวิตร จะวางมือทางการเมืองก็ไม่เป็นความจริง เพราะ พล.อ.ประวิตร ได้ยืนยันและพอใจที่จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

"อรรถกร" เผยจาก พปชร.ด้วยดี ยังห่วง พล.อ.ประวิตร

ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะตัวแทนกลุ่ม สส. 20 คนที่ถูกพรรคพลังประชารัฐมีมติขับออก ระบุว่า บรรยากาศที่ประชุมเป็นไปด้วยดีและเหตุผลของการขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นเพราะอุดมการณ์ของทั้ง 20 คนไม่ตรงกับอุดมการณ์ของสมาชิกพรรคฯ ไม่ได้มีเรื่องของการผิดจริยธรรมหรือการผิดวินัยร้ายแรงใดๆ

ส่วนอนาคตหลังจากนี้อาจใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อหารือว่า สส.ทั้ง 20 คนจะเลือกเส้นทางไหน แต่เชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่ทำประโยชน์ให้ประเทศและเป็นกำลังให้กับรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และตามกฎหมายมีเวลา 30 วันในการไปสังกัดพรรคการเมืองพรรคใหม่ โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ย้ำว่าให้เดินไปด้วยกันและยึดถือการขับเคลื่อนประเทศ

นายอรรถกร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่จะไปสังกัดพรรคกล้าธรรม ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบและส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคกล้าธรรม แต่ทราบว่าหัวหน้าพรรคกล้าธรรมมีความพร้อมและพรรคก็มี สส.ในสังกัดอยู่ในสภาฯ ซึ่งในกลุ่มเกือบ 20 คนก็รู้จักกับหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เพราะทำงานทางการเมืองในฐานะ สส.มาด้วยกันก่อนหน้านี้

กลุ่ม สส.ทั้ง 20 คนยังมีความเป็นห่วง พล.อ.ประวิตร แต่มีหลายปัจจัยซึ่งควบคุมไม่ได้ ทำให้สถานการณ์ลากยาวมาจนถึงวันนี้

"นฤมล" ลั่นยินดีต้อนรับ 20 สส.กลุ่มธรรมนัส

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคกล้าธรรมหลังพรรคพลังประชารัฐ มีมติขับ 20 สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ว่า ขณะนี้กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่เข้ามาอย่างเป็นทางการ ต้องรอให้พรรคเดิมทำเรื่องส่งไป กกต.ให้เรียบร้อย จากนั้นพรรคกล้าธรรมจึงจะเริ่มดำเนินการรับสมาชิกใหม่เข้ามา โดยยืนยันว่าพร้อมรับทุกคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ส่วนวันเปิดตัวพรรคและ สส.กลุ่มใหม่ ยังไม่ได้กำหนด อาจจะเป็นหลังเทศกาลปีใหม่ โดยจะมีกำหนดการแจ้งสื่อมวลชนให้รับทราบ

ส่วนจะมีบิ๊กเนมหรือบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันเปิดตัวหรือไม่นั้น นางนฤมล หันไปจับไหล่นายอิทธิ ศิริลัทยากร รมช.เกษตรฯ ก่อนกล่าวว่า "นี่แหละบิ๊กสุดเลย บ้านใหญ่แปดริ้ว" พร้อมกับหัวเราะ ทำให้นายอิทธิ รีบตอบกลับว่า "ผมนี่สมาชิกพรรคก่อนเลยนะ เป็น Founder (ผู้ก่อตั้ง)"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคใหม่หรือไม่ นางนฤมล ตอบว่า ต้องหารือในการประชุมใหญ่ และต้องเป็นไปตามขั้นตอน ตามลำดับขั้นไป

อ่านข่าว

"นฤมล" ปัดดีลเบรกสอบ "ภูนับดาว" แลก พปชร.ขับ 20 สส.

นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล

ยังไม่เคาะปรับขึ้นค่าจ้าง 400 บ. นัดพิจารณาใหม่ 23 ธ.ค.นี้


"วันนอร์" เผยนัดประชุมร่วมรัฐสภา 20 ธ.ค.นี้ ถกข้อตกลง FTA

Thu, 12 Dec 2024 14:40:15

วันนี้ (12 ธ.ค. 67) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมวิป 3 ฝ่ายเสร็จสิ้น ในที่ประชุมได้ข้อสรุป 3 เรื่อง คือ 1.จะมีการประชุมร่วมกันของ สส. และ สว.ในวันที่ 20 ธ.ค.2567 นี้ เวลา 09.30 น. วาระในการพิจารณามี 3 วาระ

ประกอบไปด้วยการพิจารณา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย ป.ป.ช. ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยป.ป.ช. ของพรรคประชาชน และ อีกฉบับคณะรัฐมนตรีจะเสนอข้อตกลง FTA ให้ รัฐสภาให้ความเห็นชอบ 3 ฉบับ คาดว่าจะใช้เวลาในการประชุม 4.30 ชม.

ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภาในครั้งที่ 2 จะนัดประชุมในวันที่ 14 - 15 ม.ค.2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น.เป็นต้นไปโดยจะพิจารณาระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่ได้บรรจุระเบียบวาระแล้ว และที่มีการเสนอเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้มี 20 ฉบับที่เสนอเข้ามา ซึ่งแบ่งกันเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมแบบรายมาตรา

ขณะเดียวกันทางรัฐบาลและฝ่ายค้านจะเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมทั้งฉบับอีกครั้งก็ได้ และที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 8 ม.ค.เพื่อเตรียมความพร้อมวาระการประชุมทั้งหมด พร้อมทั้งแบ่งเวลาการอภิปรายให้แต่ละฝ่าย

อ่านข่าว : ดับฝันแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จั่วลมตาม “รายมาตรา” 

"สว.พิสิษฐ์" ปัดยื้อแก้รัฐธรรมนูญ ปมใช้เกณฑ์ Double Majority  

"วันนอร์"​ จ่อหารือ "พริษฐ์" ปมแก้รัฐธรรมนูญ 27 พ.ย.นี้แล้ว

 

 

 


ปลิดชีพ “สจ.โต้ง” วงจรการเมือง “ในรัก มีชัง” ใต้เงาบ้านใหญ่

Thu, 12 Dec 2024 14:38:00

คมกระสุนปืนปลิดชีพ “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิม “เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช” บุตรบุญธรรมของ “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายกอบจ.ปราจีนบุรี วัย 85 ปี ดังขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภายในบ้านใหญ่”ตระกูลวิลาวัลย์” สะเทือนทั่วลุ่มน้ำบางปะกง ส่งผลให้สนามการเมืองท้องถิ่น ในภาคตะวันออกเดือดระอุขึ้นอีกครั้ง

หลังเกิดเหตุการณ์นานกว่า 2 ชั่วโมง กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้น ภาย ในบ้านพักหลังดังกล่าว และพบร่าง สจ.โต้ง ในสภาพนอนเสียชีวิตอยู่ที่บันไดบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม สภาพสวมเสื้อยืดสีเลือดหมู กางเกงขาสั้นสีดำ ก่อนที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยและผู้เกี่ยวข้อง 7 คน คือ ธนศรัณย์กรณ์ หรือ กอล์ฟ อายุ 32 ปี , ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ตูน อายุ 34 ปี , อภิสิทธิ์ อายุ 34 , ธนภัทร อายุ 18 ปี , สิทธิชัย อายุ 41 ปี , ภัทรนนท์ อายุ 38 และ โกทร “สุนทร” และนำตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองปราจีนบุรี

ข้อมูลจากตำรวจระบุว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ พร้อมพวกเข้าไปในบ้านของ “โกธร” สุนทร แต่กลับออกมาแล้ว ได้ย้อนกลับเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นมีเสียงปืนหลายนัด

เปิดคลิปเสียงปริศนา ชนวนก่อนสังหาร

“โก จะลงไหม จะเอายังไง โก รู้หน้าที่ดีไหม ต้องทำยังไง เวลา โก มีเรื่อง ผมเข้าไปหาไปช่วย โก ทุกครั้ง คราวนี้ผมต้องเข้ามาหาโกเหรอ ผมบอกโกว่าไง ผมไม่ต้องมาหาโก โกมีหน้าที่ต้องมาช่วยผมเอง”

“โกจะลง โกลงไปเลย”

“กูไม่ลงหรอก”

แล้วเราตั้งแต่วันนี้จะเหยียบครั้งนี้ครั้งสุดท้าย เพราะโกเป็นคนพูดว่า ผมไปเอาเงิน อบจ.ตรงไหน โก อย่ามาเรียกเงินผม 20 ล้าน เงิน 20 ล้าน ผมให้พ่อ..ผมพูดหรือเปล่าว่า โกไม่ลงเลือกตั้ง ”

“ผมทำอะไรให้โกมาทั้งชีวิต ผมติดคุกมา โก ไม่เคยช่วยเหลือผมเลย ครั้งนี้ผมมีโอกาสจะทำแบบนี้ ผมทำเพื่อใคร แต่โกก็โทรไปบอกพวกนายกฯ ทุกคน ไม่เป็นไรโทรไปเลย โกสั่งได้หมดเลย ผมรู้ว่า ผมไม่แข่งกับน้อง จะแข่งกับน้องเพื่อ ...เดี๋ยวคะแนนมันจะแตกกัน โกทำอะไรคิดให้ลึก ๆ ”

ผมถามจริงจากใจโก ตั้งแต่ผมอยู่กับโก ผมเคยสร้างความ-ิบหายตรงไหนให้โกบ้าง แล้วพี่น้องผมทุกคนที่อยู่เนี่ย มีใครทำร้ายโกบ้าง แต่โกทำร้ายผม โทรไปหาคนโน้นคนนี้ คนถามผมว่า ถ้า โกทรเขาลงจะทำยังไง ผมก็บอกให้ไปถามโก…

ลูกรัก-มือขวา ปมร้าว “ทาบบารมี-วัดรอยเท้า”

ในยุทธจักรการเมืองภาคตะวันออก ตั้งแต่ปี 2523 ไม่มีใคร ไม่รู้จัก “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี หัวคะแนนคนสำคัญของ “บุญส่ง สมใจ” อดีตรมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตส.ส.ปราจีนบุรี 9 สมัย หลังสิ้นบุญ “บุญส่ง” ตระกูลสมใจ ได้วางมือจากการเมือง

ขณะที่"โกทร" สุนทร ได้ก้าวขึ้นมาแทนที่เป็น “บ้านใหญ่” เมืองปราจีน โดยฐานเสียงหลักจะอยู่พื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลเมืองปราจีนฯ ส่วนตระกูล ”พากเพียรศิลป์” ของ “เล็กน้ำ” บุญเกื้อ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี มีฐานเสียงอยู่ในเขตเทศบาลฯ

รูป สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ เมื่อครั้งเป็นส อบจ.ปราจีนบุรี

รูป สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ เมื่อครั้งเป็นส อบจ.ปราจีนบุรี

ปี 2526 โกทร “สุนทร” เป็นสส.พรรคราษฎร สมัยแรก ในยุคที่ อ.สระแก้ว ยังไม่ได้แยกออกจากจ.ปราจีนบุรี และย้ายมาอยู่พรรคชาติไทยเมื่อปี 2529 “มุ้งเดียวกับ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง โดย “โกทร”คุมต้นน้ำบางปะกง ส่วนป๋า-เสนาะ เจ้าพ่อวังน้ำเย็น คุมชายแดนบูรพา

สำหรับบ้านใหญ่เมืองปราจีน การมีผู้เข้ามาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาบ้าน ถือเป็นเรื่องปกติ สำหรับ “โกทร” สุนทร ก็เช่นกัน ในปี 2545 มักจะพบขุนพลคู่กาย ที่มักประกบตัวเคียงคู่ “โกทร” ทุกครั้ง คือ สองพี่น้องตระกูล “ฤทธิ์เดช” สจ.โต้ง “ชัยเมศร์ หรือเต็มพงษ์ และ “ตึ๋ง” อุทิศ ฤทธิเดช” ถือเป็นมือซ้าย-ขวา คนสำคัญ

และให้ความไว้วางใจ สจ.โต้ง “ชัยเมศร์”จนถึงขั้นจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญ ธรรม สนับสนุนให้ลงสนามการเมืองท้องถิ่น จนได้รับเลือกเป็นสมา ชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีน(ส อบจ.) หลายสมัย แต่ครั้งที่แล้วไม่ได้ลง เนื่องจากต้องดูแลธุรกิจค่ายมวย “สจ.โต้งปราจีน”ของตนเองและค่ายมวย“สจ.จอยปราจีนบุรี” ของภรรยา ที่กำลังเติบโต

ภาพสุดท้ายที่ สจ.โต้ง ถ่ายร่วมกับนักมวย

ภาพสุดท้ายที่ สจ.โต้ง ถ่ายร่วมกับนักมวย "ศีกมวยมันส์ สนั่นเมือง"ที่เวทีมวยนานาชาติรังสิต เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2567

ดังนั้น หาก บ้านใหญ่วิลาวัลย์ “โกทร”สุนทร วางมือทางการเมืองในปีนี้ มีการคาดการณ์ว่า สจ.โต้ง “ชัยเมศร์” จะได้ขยับขึ้นมาแทน เนื่องจากคนบ้านใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น “บังอร วิลาวัลย์”อดีตนายก อบจ.ปราจีนบุรี 4 สมัย น้องสาว และ “กนกวัลย์ วิลาวัลย์”ลูกสาว ยังไม่พร้อม เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองคดีบุกรุกป่าเขาใหญ่ ขณะที่ “อำนาจ วิลาวัลย์ “สส.ภูมิใจไทย จ.ปราจีนบุรี ลูกชายของ “บังอร” ยังอยู่ในตำแหน่ง ส่วนหลาน ๆ ลูกของ “กนกวัลย์”อายุยังน้อย และอยู่ระหว่างศึกษาต่อในต่างประเทศ

วงจรนักเลง-การเมือง "ในรักมีชัง" ลงขันสกัด

วงการบู๊ลิ้มการเมือง แม้สจ.โต้ง “ชัยเมศร์”จะเป็น “ลูกรัก”ของโกทร “สุนทร และเป็นที่รักของชาวบ้านจากกิจกรรม “คณะผู้ใจบุญ” ให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ แต่ใต้ชายคาบ้านใหญ่ก็มี หลายกลุ่ม หลายซุ้ม ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ และเคยมีปัญหาที่เกิดความกินแหนงแคลงใจในพื้นที่

มีข้อมูลว่า การแผ่อิทธิพลและสยายปีกทางการเมืองคลุมในทุกวงการเมืองปรา จีน ทำให้หลายซุ้มในเมืองปราจีน ไม่พอใจถึงขั้นเตรียมลงขันสกัดการเติบโตของสจ.โต้ง “ชัยเมศร์” และหลายรายได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของเขา มีคดีขึ้นโรงขึ้นศาล รวมทั้งคนใกล้ชิด “โกทร”สุนทร ก็ประสบปัญหานี้ด้วยเช่นกัน แต่ทำอะไรไม่ได้ ด้วยเหตุเกรงใจบ้านใหญ่

และปัญหาดังกล่าวสจ.โต้ง “ชัยเมศร์”ก็ทราบดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินทางไปยังสถานที่ใดก็ตามจะมีลูกน้องและคนสนิทตามติดดังเงา แต่ก็ใช่ว่าจะไปได้ทุกหนแห่ง 

ในปี 2555 สจ.โต้ง เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีฮั้วประมูลโครงการก่อสร้าง และต่อมาศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยาน

และปี 2563 ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด “บังอร” อดีตนายก อบจ.ปราจีนบุรี กับพวก 19 ราย คดีฮั้วประมูล 15 โครงการ พบชื่อ สจ.โต้งรวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

“ได้คุยกับโกทร หลังเกิดเหตุ แกไม่ได้เครียดอะไร …ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างสจ.โต้งและลูกน้องคนหนึ่งของโกทร ซึ่งเคยมีปัญหากันมาก่อน เขาอ้างว่า เคยถูกสจ.โต้งตบหัว จึงไม่พอใจ พอเจอกันรอบ 2 ที่กำลังจะเดินลงจากบันได เลยมีการยิงกัน”แหล่งข่าวบอกสั้น ๆ

สำหรับคลิปที่ปรากฏ เป็นเสียงพูดคุยของสจ.โต้ง และโกทร “สุนทร”ในเรื่องการเลือกตั้งนายก อบจ,และนายก อบต.จริง และสุดท้ายได้ข้อยุติ โดย โกทร “สุนทร”ยอมเปิดทางให้ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดคิดขณะ “สจ.โต้ง”กำลังจะเดินทางกลับออกมา

ในแวดวงคนเมืองปราจีนบุรี ต่างรับทราบรู้กันดีว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นสนามเล็กทั้งนายก อบต.และนายก อบจ.ปราจีนบุรี มีหลายซุ้มกลุ่มการเมือง แม้จะมีข่าวกระเซ็นกระสายมาว่า สจ.โต้ง เตรียมจะส่งภรรยาลงชิงชัยตำแหน่งนายกอบจ.ในครั้งหน้า และมีการวางไลน์ไว้แล้ว

แต่ยุทธจักรการเมือง ก็ไม่ต่างจากวงการบู๊ลิ้ม ใครดี-ใครอยู่-ใครพลาด ก็ปิดฉากเท่านั้น

อ่านข่าว:

สุมฟืน โยนเข้ากอง(ทัพ)ไฟ พท.ดันแก้ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม

จับกระแสการเมือง: วันที่ 11 ธ.ค.2567 ปิดฉากภูนับดาว ขับ 20 สส. คืน "ธรรมนัส" ฟ้อง "สิระ" เรียกเสียหาย 50 ล้าน


"นฤมล" ปัดดีลเบรกสอบ "ภูนับดาว" แลกพปชร.ขับ 20 สส.

Thu, 12 Dec 2024 13:54:50

กรณีปัญหาที่ดินไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าบุกรุกที่ดินปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หรือไม่ หลังจากพบว่าเส้นเงินโยงมาที่หญิงคนสนิท อักษร "ช." ของนักการเมืองชื่อดัง 

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมป่าไม้ พร้มอเวย ป.ป.ท. ,ป.ป.ช. และปทส. ลงพื้นที่ไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี

อ่านข่าว ขอความร่วมมือ "ภูนับดาว" หยุดกิจการช่วงทบทวนใช้ที่ดินส.ป.ก.

สืบเนื่องจากนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ มีข้อมูลว่า มีกลุ่มขบวนการออกโฉนดเพื่อครอบครองที่ดินโดยไม่ชอบ ซึ่งที่ดินเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

ไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี วันนี้หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบ

ไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี วันนี้หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบ

สำหรับไร่ภูนับดาว มีพื้นที่ครอบครองทั้งหมดประมาณ 112 ไร่ ที่ผ่านมากรมป่าไม้ ได้รับมอบคดีมาจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่สวนป่าปางหัวช้าง 11 คดี เนื้อที่ 200 ไร่ กระทั่งการสืบสวนสอบสวนพบการบุกรุก เป็นเนื้อที่ 66 ไร่ อยู่พื้นที่ภูนับดาว ส่วนพื้นที่ที่เหลืออยู่ระหว่างการรอการยืนยัน จาก ส.ป.ก.

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวว่า การตรวจสอบไร่ภูนับดาวรุกที่ ทาง ส.ป.ก.ยังดำเนินการต่อตามขั้นตอน หากมีคนเข้าไปเกี่ยวข้อง และดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

อ่านข่าว "ป่าไม้" เคลียร์ปม "ภูนับดาว" สอบปมใช้ที่ดิน ส.ป.ก.

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์

เมื่อถามว่านายธนดล จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกหรือไม่ หลังเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) อ้างว่า นายอิทธิ ศิริลัธยากร รมช.เกษตร สั่งไม่ให้ลงพื้นที่ เนื่องจากอาจเกิดประเด็นการกลั่นแกล้ง และเกิดข้อครหาทางการเมือง ทราบว่านายอิทธิ ขอว่าอย่าเพิ่งลงพื้นที่​ เพราะมีประเด็นทางการเมือง

ส่วนกรณีท่าทีนายธนดล ดูถอยหลังจากพรรคพลังประชารัฐ เตรียมขับ 20 สส.ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า​ สส.พะเยา นางนฤมล กล่าวว่าไม่เกี่ยวกับการถอย ไม่เกี่ยวเลยกับกับการที่พรรคพลังประชารัฐ จะขับ 20 สส.ออก

อ่านข่าว สยองภูกระดึง "ช้างป่า" เหยียบนักท่องเที่ยวตาย

ส่วนนายอิทธิ กล่าวว่า ไม่อยากให้การเมืองเข้าไปวุ่นวาย แต่ให้ข้าราชการดำเนินการเหมือนเดิมทั้ง ส.ป.ก. ป.ป.ช. ป.ป.ท. ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้เขาทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเมือง มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ยืนยันไม่มีใบสั่งทางการเมืองให้หยุด และตัวเองอยู่พรรคกล้าธรรม อะไรที่ถูกกฎหมายก็เดินตามกรอบ และเชื่อว่าวันนี้ทุกอย่างต้องชัดเจน โดยให้ฝ่ายข้าราชการเขาดำเนินการเอง

ผมขอถอย ผมถอยข้าราชการการเมือง คุณธนดลถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง จะได้ไม่หาว่ากลั่นแกล้งกัน
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมข.เกษตรและสหกรณ์

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมข.เกษตรและสหกรณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การถอยครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนกับการขับ 20 สส.ออกจากพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายอิทธิ กล่าวว่า ไม่มี ดำเนินการตามกรอบกฎหมายเป็นหลัก

เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วประชาชนจะได้คำตอบเรื่องไร่ภูนับดาวหรือไม่ นายอิทธิ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานลงไปแล้วให้ทำงานเต็มที่โดยอยู่ในกรอบ และข้าราชการจะได้ไม่อึดอัดว่าการเมืองเข้าไปแทรกแซง ส่วนเรื่องเงินก็ให้ว่ากันไปเพราะเป็นกฎหมายคนละฉบับส่วนตนดูในเรื่องกฎหมายของ ส.ป.ก.

ส่วนเส้นทางการเงินให้ทาง ป.ป.ช.และตำรวจดำเนินการ ทั้งนี้ ไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ แค่ให้อยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่มีการกลั่นแกล้งใคร

อ่านข่าวอื่นๆ

นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล 

"ศรีสวัสดิ์" ออกหนังสือชี้แจง หลังถูกพาดพิงเส้นเงิน 10 ล้านบาท 


"นพดล" ชี้แจงกรณีเจรจา "MOU 44" ปัดยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา

Thu, 12 Dec 2024 11:44:00

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเพื่อ พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ และนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แถลงหลังประชุมพรรคเสร็จสิ้น

นายนพดล กล่าวว่า สส.มีการพูดคุยที่จะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่เกี่ยวกับ MOU 2544 ซึ่งทุกรัฐบาลใช้เป็นกรอบในการเจรจาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA) และในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ใช้ดำเนินการเจรจา ซึ่งเนื้อหาไม่ได้มีผลกระทบต่อเรื่องสิทธิด้านเขตแดน

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเพื่อ พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ และนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงกรณี MOU 2544

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเพื่อ พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ และนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงกรณี MOU 2544

รวมถึงกรณีที่มีการยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเชื่อว่า รัฐบาลจะตอบข้อข้องใจของผู้ยื่นหนังสือได้ทุกประเด็นในเวลาที่เหมาะสม เรื่องนี้ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องของกลุ่มพันธมิตรใหม่หรือกรณีของนายสนธิ ลิ้มทองกุลว่า เป็นศัตรูทางการเมือง เพราะถือว่าเป็นคนไทยที่มีข้อห่วงใยที่จะต้องรับฟัง แต่สิ่งหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้คือการใช้ความเท็จในการขับเคลื่อนกระบวนการที่จะกระทบสถานภาพของรัฐบาล

โดยยกประเด็นที่มีการกล่าวหามาชี้แจงว่า การดำเนินการเจรจาตาม MOU 2544 ว่า เป็นการยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ยืนยันไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่เป็นความเข้าใจผิดและวิเคราะห์เองโดยสิ้นเชิง เพราะคนพวกนี้เคยวิเคราะห์ว่า ตนเองจะทำให้เสียดินแดนแต่สุดท้ายศาลก็พิพากษาว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงและจะต้องฟังกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งถือที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ

โดยเฉพาะกรมสนธิสัญญาและกฎหมายยืนยันว่า MOU 2544 ไม่ได้ทำให้เสียดินแดนหรือยืนยันเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ยืนยันรัฐบาลนี้จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางมิลลิเมตรเดียว

ขอให้สบายใจว่าการเจรจา ไทยจะไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา หากการเจรจาล้มเหลวไปไม่ได้ก็ไม่กระทบสิทธิของไทยและกัมพูชาและถ้ายืนยันตามที่ประกาศเขตไหล่ทวีปในปี 2516 คือ ท่าทีของประเทศไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นไม่มี MOU ขายชาติใด ๆ

และปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า รัฐบาลจ้องเกี๊ยะเซียะกับกัมพูชาเพื่อนำน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาแบ่งปันกันโดยไม่สนใจเรื่องเขตแดน ชี้เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง หากซึ่งรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการเช่นนั้นได้ตาม MOU 2544 ในข้อ 2 ที่ระบุไว้ว่า เรื่องเขตแดนกับเรื่องการพัฒนาร่วมกันจะต้องผูกกันเป็นเรื่องควบคู่ขนานกันไปไม่สามารถเจรจาเรื่องผลประโยชน์และแยกเรื่องเขตแดนไว้ภายหลังนั้นไม่สามารถที่จะทำได้

ดังนั้น ถ้ายกเลิก MOU 2544 ผลจะตามมาอย่างไรคือ 1. การอ้างสิทธิ์ในเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อปี 2515 และของไทยเมื่อปี 2516 จะยังคงอยู่ทุกประการ 2.พื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตร.กม.จะยังคงอยู่ทุกประการ 3.เราจะพลาดข้อได้เปรียบที่จะผูกพันให้กัมพูชามาเจรจาตามกฎหมายระหว่างประเทศออกไป 4. กัมพูชาและไทยยังมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ 1982 ต้องเจรจาโดยสุจริตและต้องหาข้อยุติที่เป็นธรรม แม้ไม่มี MOU 2544 ก็ยังต้องเจรจากันต่อไป

เมื่อมีสะพานที่ต้องข้ามอยู่แล้วคุณจะไปพังสะพานแล้วบอกไปสร้างสะพานใหม่เพื่ออะไร ไม่สมเหตุสมผล

ทั้งนี้ ได้ให้ความมั่นใจว่าในฐานะ สส.พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ คณะรัฐมนตรีจะดูแลผลประโยชน์ของชาติอย่างดี และการเจรจาจะดำเนินอย่างโปร่งใสไม่ให้เกิดการเสียพื้นที่ และท้ายที่สุดไม่มีการงุบงิบ เพราะกระบวนการจะต้องผ่าน 5 กระบวนการกลั่นกรอง ที่ประชาชนจะมองเห็นทุกขั้นตอน ทั้ง 1.การเจรจาของคณะทำงานทางเขตแดนและพัฒนาร่วม 2.คณะอนุกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) 3. คณะกรรมการเทคนิคร่วมชุดใหญ่ 4. คณะรัฐมนตรี
และ 5. ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

รัฐบาลไหนทำให้เสียดินแดนไม่มีทางอยู่เป็นรัฐบาลได้ และประชาชนจะไม่ให้อภัย อาจต้องติดคุกด้วย และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีเกียรติประวัติในการปกป้องดินแดนจะรักษาดินแดนของเราอย่างดีที่สุด ในการเจรจายืนยันจะรักษาได้ทั้งดินแดนและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

อ่านข่าว : ปัดฝุ่น "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา 

กต.แจงปมพื้นที่ทับซ้อน MOU44 คนไทยต้องเห็นชอบก่อน  

รู้หรือไม่? “MOU44” มีที่มาอย่างไร และทำไมควรจะยกเลิก  

 

 

 


นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล

Thu, 12 Dec 2024 10:33:00

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ชื่อ "2568 โอกาสไทย ทำได้จริง" รวมถึงกรอบการทำงานของรัฐบาล และโครงการที่เป็นเรือธงของรัฐบาลที่จะทำในปี 2568

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลเป็นการส่งไม้ต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โดยหลังจากที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา 90 วันที่ผ่านมาเป็นช่วงของการปรับตัว ปรับการทำงาน ของรัฐบาล เพื่อหาแนวทางการทำงานที่สามารถอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ประชาชน

ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงที่สำคัญที่ได้เข้ามาเรียนรู้เรื่องต่างๆ แม้ที่ผ่านมาอาจมีช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดฝัน แต่วันนี้เป็นรัฐบาลที่ร่วมมือกันทำงาน มองอนาคตของประเทศไทยและประชาชน การทำงานจะเดินหน้าอย่างมั่นคง วางรากฐานและโครงสร้างสำคัญเพื่อให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี

ในปี 2568 เป็นปีของโอกาสที่จับต้องได้ จะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม จะสร้างสิ่งฝันให้เกิดขึ้นจริงได้และจะทำให้นโยบายกินได้

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ภายใต้ความขัดแย้งมากว่า 20 ปี แต่วันนี้ทุกคนพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหา

ผุดโครงการขุดลอกคูคลอง ขายดิน สร้างอาชีพประชาชน

ตั้งแต่ น้ำท่วม น้ำแล้ง จนถึงดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นในภาคเหนือช่วงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ระบุจะต้องเริ่มต้นแก้ไขด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับเรื่องน้ำ โดยจะมีการศึกษา แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมถึงจะมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจะมีการศึกษาแก้กฎหมาย มีโครงการให้ประชาชนขุดลอกคูคลอง ขายดิน ไปใช้เพื่อให้เกิดอาชีพ เกิดรายได้

นอกจากนี้จะมีโครงการฟลัดเวย์ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยมอบให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปศึกษาข้อกฎหมาย และเทคโนโลยีในเรื่องดังกล่าวด้วย

เร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ขอให้เรื่องนี้เป็น KPI สำคัญ เริ่มจากภาคเหนือลดพื้นที่เผาไหม้ 50% หากเทียบกบช่วงเวลาเดียวกันฝุ่นหายไปถึง 30% มีนโยบายไม่รับซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่มาจากการเผาพื้นที่การเกษตร ซึ่งต้องเป็นทีมเดียวกันทั้งประเทศเพื่อแกปัญหาที่หมักหมม และรัฐบาลต้องการคืนสภาพอากาศที่ดีให้กับประชาชน

ส่วนปัญหายาเสพติดเคยลดลง แต่ขณะนี้กลับมาระบาดหนักและครอบครัวต้องสูญเสียบุตรหลาน รัฐบาลเอาจริงกับเรื่องนี้และขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง โดยจะทำแฟลตฟอร์มให้ประชาชนแจ้งเบาะแสยาเสพติดและส่งข้อความตรงถึงนายกรัฐมนตรี

สำหรับการทลายทุนผูกขาดทั้งจากภาครัฐที่ทำให้ประชาชนจนลง เช่น เรื่องข้าว ในประมวลกฎหมายตั้งแต่สงครามโลกถูกควบคุมเรื่องการส่งออก เดิมกำหนดให้มีพื้นที่เก็บข้าว 500 ตันจึงจะส่งออกได้

ดังนั้นรัฐบาลจะปลดล็อกและทำให้ประชาชนส่งข้าวออกได้ ไม่ต้องหาที่เก็บข้าวขนาด 500 ตัน ซึ่งจะแก้เรื่องปัญหาที่รัฐวิสาหกิจผูกขาด โดยกฎหมายที่เป็นอุปสรรคจะต้องแก้กฎหมาย

นอกจากนี้ในปี 2568 ยังมอบหมายให้นายนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ช่วยดูโครงสร้างค่าไฟและพลังงานที่ต้องลดลงเพื่อลดภาระประชาชน

เปิดโอกาสธุรกิจสุราพื้นบ้าน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการเปิดโอกาสพื้นที่สร้างสรรค์ธุรกิจเกี่ยวกับสุราพื้นบ้าน จากข้อมูลพบว่าตลาดเครื่องเดิมของไทยมีการส่งออกมากกว่าปีละ 70,000 ล้านบาทและเก็บภาษีได้ถึง 185,000 ล้านบาทต่อปี ถือเป็นธุรกิจที่จะเติบโตหากเปิดให้ประชาชนได้สร้างสรรค์ โดยจะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง หากสามารถผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนทำเรื่องนี้

ส่วนธุรกิจใต้ดินต้องนำขึ้นมาบนดิน เพราะมีมูลค่าสูงถึง 49% ของจีพีดี เป็นช่องทางของมาเฟียและการคอร์รัปชัน เพราะรัฐมองไม่เห็น ดังนั้นต้องนำธุรกิจนอกระบบกลับเข้ามาในระบบให้ได้ เอาที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินและเก็บภาษีโดยใช้กฎหมายควบคุม ก็จะสามารถต่อยอดประเทศได้อีกมาก โดยเรื่องนี้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ทำงานร่วมกับ รมว.ดิจิทัลฯ

เรื่องการลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคต ไทยจะต้องเป็น AI Hub ในภูมิภาค โดยไทยพร้อมที่จะลงทุนเรื่องนี้ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องคนและองค์ความรู้ในด้านนี้ หากใช้ AI ให้เป็นจะสร้างโอกาสให้กับเกษตรกร นักศึกษาหรือคนที่เริ่มทำงาน รัฐบาลมีแผนลงทุนเพิ่มในธุรกิจแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็น AI, EV หรือ Semiconductor รวมถึงส่งเสริมคนไปเรียนด้านนี้ 280,000 คนภายใน 5 ปี

ปี 2568 ประเทศไทยจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทยทุกคน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ตั้งแต่มาเป็นนายกรัฐมนตรี “อยากได้อะไร อยากให้อะไรเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน และคิดว่ามีนโยบายดีๆ มากมายจากทุกยุคสมัย จึงจะสร้างนโยบายที่ดีให้กับประเทศไทย ไม่ว่านายกฯ จะเป็นใคร จะเป็นชุดไหน แต่นโยบายดีๆ ยังต้องอยู่ ไม่ต้องเอ่ยว่าเป็นใคร แต่ประโยชน์ต้องอยู่กับคนไทย”

นำร่องโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ในปี 68

ทุกนโยบายหลังจากนี้ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 จะนำนโยบายดีๆ ในอดีตกลับมาใช้ นำร่องจาก 1 อำเภอ 1 ทุน ส่งเด็กเก่งไปเรียนปริญญาตรีในมหาลัยชั้นนำในต่างประเทศ

รวมถึงโครงการ 1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์ จะส่งเด็กไทยไปซัมเมอร์แคมป์ต่างประเทศ และโครงการอัพเกรดโรงเรียนต้นแบบระดับอำเภอ สอน 2 ภาษา โดยทั้ง 3 โครงการนี้จะใช้เงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เริ่มลงทะเบียนในปี 2568 และหวังว่าต่อไปลูกหลานเกษตรกรจะได้เป็นเจ้าของกิจการในอนาคต

โครงการบ้านเพื่อคนไทย

นอกจากนี้ รัฐบาลจะทำโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยจะใช้พื้นของรัฐที่ยังไม่ได้ใช้ทำประโยชน์และทำเลดี เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้เมือง เริ่มจากพื้นที่ของการรถไฟในกรุงเทพฯ สร้างคอนโดฯ ห้องขนาดเริ่มต้น 30 ตร.ม. ไม่มีเงินดาวน์ ผ่อนเดือนละ 4,000 บาทนาน 30 ปี และมีสิทธิอยู่ถึง 99 ปี โดยให้สิทธิกับคนที่ไม่เคยมีบ้านและเป็นบ้านเพื่อคนไทยเท่านั้น ซึ่งจะมีห้องตัวอย่างให้ดูในปี 2568 

เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

สำหรับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทที่คนถามว่าจะมากี่โมง ขณะนี้มีสายสีแดงกับสายสีม่วงแล้ว จากข้อมูลการเดินทางบางเส้นทาง 150 บาทต่อเที่ยว ซึ่งถือว่าแพงมากหากต้องเดินทางทุกวัน โดยยืนยันว่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะอยากให้คนไทยเข้าถึงรถไฟฟ้า

เงินดิจิทัลเฟส 2 ย้ำไม่เกินตรุษจีน

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทนำร่องกลุ่มแรก 14 ล้านคน ซึ่งการเติมเงินในระบบครั้งนี้ทำให้จีพีดีไทยไตรมาส 4 เกิน 3% ส่วนเฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุประมาณ 4 ล้านคน คาดว่าจะได้รับเงินไม่เกินตรุษจีนปี 2568

ไม่ได้มาในรูปแบบซองอั่งเป่า แต่มาแบบเงินสด

ส่วนเฟส 3 กลุ่มคนทั่วไป รัฐบาลมีแผนจะให้ในรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ต สาเหตุที่ไม่ให้เงินสดเพราะต้องการให้เป็นเครื่องมือเปิดทางเชื่อมระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ซึ่งจะเกิดภายในปีหน้าเช่นกัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ความหวังและความช่วยเหลือต่างๆ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เป็นอนาคตที่เป็นรูปธรรม วันนี้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการและประชาชน เราคือทีมเดียวกัน ทุกคนมีหัวใจเดียวกันที่รักประเทศไทย จะมีการลดอำนาจรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน

พร้อมชิญชวนทุกคนทำเพื่อประเทศไทย วางทางที่เข้มแข็งให้กับลูกหลาน ในวันที่มีโอกาส มีหน้าที่ มีตำแหน่งดูแลประชาชน เพราะฉะนั้นก็มาทำวันนี้เพื่อประชาชนอย่างดีที่สุด

ปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาสและความความหวัง มามีความหวังไปด้วยกัน

อ่านข่าว :

เช็กผลงาน 90 วัน "รัฐบาลแพทองธาร"

ถ่ายทอดสด 12 ธ.ค.เปิดประชุมสภาฯ วันแรก จับตาตอบกระทู้ถาม 


จับอดีตหน.สำนักอบต.ปลอมเอกสาร-แต่งเงินเดือนกู้แบงก์

Thu, 12 Dec 2024 10:09:32

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) เมื่อเวลา 06.00 น.พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองอำ นวยการต่อต้านการทุจริต คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมตำรวจ บก.ปปป. เข้าจับกุมอดีตหัวหน้าสำนักปลัด รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลคชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน มี.ค.2567 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งข้อมูลกรณีตรวจพบความผิดปกติของลูกค้าที่มายื่นขอสินเชื่อ ตามโครงการเงินกู้เพื่อเป็นสวัสดิการสำหรับบุคลากรของรัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่ธนาคาร ให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ กับลูกค้าที่เป็นข้าราชการลูกจ้างในสังกัด อบต.คชสิทธิ์

โดยพบว่ามีการจัดทำเอกสารราชการโดยไม่ชอบ และมีพนักงานลูกจ้าง อบต. คชสิทธิ์ นำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อกับธนาคาร มีอดีตหัวหน้าสำนักปลัด รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองคลัง เป็นผู้ดำเนินการ ในขณะเกิดเหตุ มีอำนาจควบคุมตรวจสอบการจัดการบริหารงานด้านงานการเงินและบัญชี ด้านงานพัสดุ ด้านงานจัดเก็บรายได้ ด้านงานบริหารทั่วไปเกี่ยวกับการคลัง

จากการตรวจสอบขยายผล พบผู้ที่ร่วมกระทำการดังกล่าวรวมอีกจำนวน 17 คน โดยธนาคารกรุงไทย ได้อนุมัติ และจ่ายสินเชื่อให้กับผู้ไม่มีสิทธิกู้ทั้งหมด ความเสียหายเบื้องต้น 16.9 ล้านบาท

ทั้งนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยผู้ต้องหาคนดังกล่าว มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวันศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด

 


ถ่ายทอดสด 12 ธ.ค.เปิดประชุมสภาฯ วันแรก จับตากระทู้ฝ่ายค้าน

Thu, 12 Dec 2024 07:40:00

วันนี้ (12 ธ.ค.2567) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในเวลา 09.00 น. โดยระเบียบวาระการประชุมฯ ข้อหารือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จะเป็นการหารือตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 24

กระทู้ถามทั่วไป 3 เรื่อง ประกอบด้วย

รวมถึงกระทู้ถามแยกเฉพาะอีก 6 เรื่อง ประกอบด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม 5 เรื่อง, เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 7 เรื่อง, เรื่องที่ค้างพิจารณา 63 เรื่อง, เรื่องที่เสนอใหม่ 2 เรื่อง และเรื่องอื่นๆ 5 เรื่อง

อ่านข่าว

ถ่ายทอดสด "แพทองธาร" แถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน - นโยบายเรือธงปี 68

เช็กผลงาน 90 วัน "รัฐบาลแพทองธาร"


ถ่ายทอดสด "แพทองธาร" แถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน - นโยบายเรือธงปี 68

Thu, 12 Dec 2024 06:48:00

วันนี้ (12 ธ.ค.2567)  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ชื่อ "2568 โอกาสไทย ทำได้จริง" รวมถึงกรอบการทำงานของรัฐบาล และโครงการที่เป็นเรือธงของรัฐบาลที่จะทำในปี 2568 

อ่านข่าว : เช็กผลงาน 90 วัน "รัฐบาลแพทองธาร"

สำหรับนโยบาย "เรือธง" ของรัฐบาล ที่จะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมในปี 2568 คือ การเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น รวมถึงเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม แก้ปัญหายาเสพติด และนโยบายการแจกเงินดิจิทัล เฟส 2-3 จำนวน 10,000 บาท การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบการลดราคาพลังงาน และสาธารณูปโภค

นอกจากนี้รัฐบาลจะเดินหน้ายกระดับการทำเกษตรดั้งเดิม ให้เป็นสมัยใหม่ และการขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้าน ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร จะใช้โอกาสนี้มอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกันด้วย

โดยจะมีการถ่ายเวลา 10.00 น. ถ่ายทอดสดที่ช่อง NBT2HD และเฟซบุ๊กไลฟ์ : Live NBT2HD

อ่านข่าว :

สส.เพื่อไทย เตรียมลงมติ ถอนร่าง กม.กลาโหม พรุ่งนี้

"ทักษิณ" อ้อนคนอุบลฯ คืน สส.ให้เพื่อไทย


เช็กผลงาน 90 วัน "รัฐบาลแพทองธาร" ทำอะไรแล้วบ้าง

Wed, 11 Dec 2024 20:04:00
การสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย และประเทศไทย เพื่อสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศไทย จากวันนี้ไปถึงอนาคต

มอสโตหลักนโยบายเด่นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ในการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา นับจากวันที่ก้าวมาคุมบังเหียนรับไม่ต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย

อ่านข่าว รอฟัง "แพทองธาร" แถลงผลงาน 90 วันประกาศนโยบายปี'68

90 วันสำหรับคนที่เข้างานใหม่ ช่วงนี้อาจถือเป็นช่วงการทดลองงานว่าจะผ่านโปรหรือไม่ผ่าน แต่สำหรับรัฐบาลแพทองธาร เลือกที่จะแถลงผลงานชิ้นโบว์แดง พร้อมกับประกาศของขวัญปีใหม่ 2568

ตามโปรแกรมภายใต้คอนเซ็ป "2568 โอกาสไทย ทำได้จริง" ในวันพรุ่งนี้ ( 12 ธ.ค.) จะมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการจากกระทรวงต่างๆ  ผู้ว่าราชการจังหวัด ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.และผู้เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนราว 500 คนที่จะเข้าร่วมงานที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT โดยจะมีการถ่ายทอดสดที่ช่อง NBT2HD และเฟซบุ๊กไลฟ์ : Live NBT2HD

นโยบายเรือธง "แจกเงินหมื่น" ฝ่าฝันไม่ถึงครึ่ง

ไทยพีบีเอสออนไลน์ เช็กลิสต์ผลงานช่วงทดลองงานของรัฐบาลแพทองธาร พบผลงานโดดเด่นโดนใจประชาชน ที่โพลหลายสำนักโหวตให้เป็นผลงานที่ติดอันอันดับแรก คงหนีไม่พ้นนโยบายเรือธง "แจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท" ที่เคยหาเสียงไว้

แม้จะต้องปรับจากตัวเลข 55 ล้านคนที่อาจมีโอกาสได้รับสิทธิแจกเงินหมื่นแต่ติดล็อก ด้วยเรื่องของเงินที่จะนำมาใช้ทำให้ตัวเลขการแจกเงินต้องปรับเปลี่ยนจากดิจิทัล มาเป็นการจ่ายเงินสดผ่านธนาคาร 10,000 บาท

เฟสแรกประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการได้เงิน 10,000 บาท จ่ายเงินสำเร็จ 14,407,375รวมเม็ดเงิน 144,073.57 ล้านบาท 

ส่วนเฟสที่ 2 ที่เริ่มแย้มกลุ่มเป้าหมายออกมาคือกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีประมาณ 3-4 ล้านคน วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับเงินจะได้รับก่อนวันตรุษจีนปี 2568 หรือวันที่ 29 ม.ค.2568 ส่วนคนที่เหลือจะดูความพร้อมของระบบ คาดว่าจะได้ช่วงประมาณปีหน้าเดือน เม.ย.-มิ.ย.2568

อ่านข่าว เคาะแจกเงิน 10,000 เฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รับก่อนตรุษจีน 2568 

คลอดกม.สมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับ 22 ม.ค.68

มีผลใช้บังคับ 22 ม.ค.68 สำหรับ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม

สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้บุคคล 2 คนไม่ว่าจะเพศใดสามารถทำการหมั้นและสมรสได้ จากกม.สมรสปัจจุบันที่การหมั้น ใช้คำว่า “ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง” แก้ไขเป็น “ผู้หมั้นและผู้รับหมั้น” หรือ “เพศ” ที่ใช้คำว่า “ชาย-หญิง” แก้ไขเป็น “บุคคลทั้ง 2 ฝ่าย”

และสถานะหลังจดทะเบียนสมรส จาก “สามีภริยา/คู่สมรส” แก้เป็น “คู่สมรส/คู่สมรส” รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่น ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่สถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง

สำหรับ กม.นี้ จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะรายละเอียดกฎหมายที่ผูกพัน ทั้งอาญา และแพ่ง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิต่าง ๆ ทั้งสิทธิการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย  

แจกเงินชาวนา 1,000 บาท-พักหนี้เกษตรกร

เรียกว่าเป็นนโยบายที่เข้าถึงกลุ่มเกษตรกร ภายใต้โครงการสนับสนุนบริหารจัดการและเพิ่มคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวการผลิตปีการผลิต 2567 / 2568 เพื่อลดต้นทุนการผลิตการเกษตรให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นหรือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท 

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนา 4.3 ล้านคน วงเงินกว่า 35,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลา 5 วัน เริ่มโอนเงินเป็นรอบๆ ดังนี้ วันแรก 16 ธ.ค. ภาคเหนือ วันที่ 17 ธ.ค.ภาคกลางและภาคตะวันออกวันที่ 18 ธ.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน วันที่ 19 ธ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง วันที่ 20 ธ.ค.เกษตรกรภาคตะวันตกและภาคใต้

นอกจากนี้ ยังอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ในระยะ 2-3 ฟื้นฟูและการพัฒนาศักยภาพฟื้นฟูลูกหนี้ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ในระยะที่ 2 จะเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.2567-30 ก.ย.2568 ส่วนระยะ 3 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2568 -30 ก.ย.2569

ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-รถไฟฟ้า 20 บาท

ปัญหาค่าครองชีพเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องของการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถไฟฟ้า โดยอนุมัติงบกลาง วงเงิน 1,790 ล้านบาท ให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 4 เดือน (พฤษภาคม - สิงหาคม 2567) จำนวน 19.05 สตางค์ต่อหน่วย

นอกจากนี้กระทรวงพลังงาน ลดค่าไฟฟ้างวดม.ค.-เม.ย.2568 จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค.2567) ซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาทหน่วย ลงอีก 3 สตางค์ต่อหน่วย หรือค่าไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 4.15 บาทต่อหน่วย โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค-เม.ย.2568 ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ

ส่วนค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567. ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม ต่ออายุมาตรการอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย คือ โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ส่วนสายอื่นๆ รอใช้ตั๋วร่วม 

กระตุ้นท่องเที่ยวฟรีวีซา-แอ่วเหนือ 400 บาท

Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025” ตั้งเป้าปี 68 รายได้การท่องเที่ยวโต 7.5% และตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 3.4 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคน และเกิดการเดินทางภายในประเทศมากกว่า 205 ล้านครั้งทั่วประเทศไทย 

นอกจากนี้ยังการให้สิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา สามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วัน เพื่อการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจและการทำงานระยะสั้น จำนวน 93 ประเทศ 

เพิ่มเงินดือนข้าราชการ 

เพิ่มเงินเดือนพนักงานราชการ ให้สอดคล้องกับนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ แรกบรรจุ 18,000 บาท โดย ครม.เห็นชอบการปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุ และการปรับค่าตอบแทนแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 รวมทั้งการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของพนักงานราชการด้วย

อ่านข่าว เปิดอัตราเงินเดือนข้าราชการใหม่ ปี 2567 หลัง ครม.เคาะปรับขึ้น 10%

ตรึงแวตภาษี 7% อีก 1 ปี-บัตรประชาชนรักษาทุกที่ 

นอกจากนี้ยังห็นชอบการขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีแวต) ให้จัดเก็บในอัตรา 7% ต่อไปอีก 1 ปี และยังอนุมติงบกลาง ให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 5,924 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” ประจำปีงบประมาณ 2567 

แห้วขึ้นค่าแรง 400 บาท-กก.ไตรภาคี

แม้จะเป็นนโยบายเรอธงตั้งแต่การหาเสียง แต่ผ่านมาจนเกือบสิ้นปี ขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ก็ยังติดหล่มทั้งเสียงจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และบอร์ดคณะกรรมการค่าจ้างที่เกิดปัญหาทางเทคนิค

อ่านข่าว ปรับค่าแรง 400 บาท กกร.ชี้ 90% ไม่เห็นด้วยขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ

ล่าสุดวันนี้ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ได้รับทราบการรายงานเบื้องต้นจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน โดยจะต้องรอการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างที่นัดประชุมในวันที่ 12 ธ.ค.นี้

 


สส.เพื่อไทย เตรียมลงมติ ถอนร่าง กม.กลาโหม พรุ่งนี้

Wed, 11 Dec 2024 19:14:00

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ย้ำว่า ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ฉบับของนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยังคงมีความเห็นต่าง จึงต้องรับฟังทุกฝ่ายให้รอบด้าน ก่อนย้ำจุดยืนของรัฐบาล ไม่มีเจตนาแทรกแซงกองทัพ แต่หากสิ่งใด ทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศต้องร่วมมือกัน พร้อมยืนยันร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นการเสนอโดยตัวบุคคล ไม่ใช่มติพรรคเพื่อไทย

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุว่า การประชุมพรรควันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.2567)  สส.จะเสนอขอให้ถอนร่างกฎหมายกลาโหม ของนายประยุทธ์ เพื่อนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เหมาะสม หลังเกิดเสียงสะท้อนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้นำประเด็นนี้ สะเทือนไปถึงการแก้ไขปัญหาของประเทศ

จากการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองงานด้านความมั่นคง และกระบวนการยุติธรรม เห็นสอดคล้องให้ปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสม โดยมอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รับเรื่องทั้งหมดไว้ทบทวน พร้อมย้ำว่า หากจะต้องทบทวนแล้ว ก็จำเป็นจะต้องเร่งส่งกลับมาพิจารณา โดยจะประกบกับร่างของฝ่ายค้านที่ยื่นเอาไว้แล้ว

ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ถูกกองทัพยึดอำนาจรัฐประหาร เป็นครั้งที่ 3 และไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก เพราะสังคมโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ปฏิเสธที่จะชี้แจงรายละเอียดว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะสามารถสกัดรัฐประหารได้หรือไม่ เพียงแต่บอกว่าประเทศบอบช้ำมามากแล้ว

"พปชร." เตรียมลงมติขับ 20 สส.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การประชุม สส.ของพรรควันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.2567) จะเสนอให้พิจารณาลงมติขับ 20 สส. ที่เข้าร่วมกลุ่มกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กรณีเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นการกระทำขัดกับมติพรรค และฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคฯ โดยมีแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่าง-ไม่เป็นไปแนวทางเดียวกันได้

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์​ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า "พร้อมแล้วค่ะ" หลังสื่อฯ ซักว่า พรรคพลังประชารัฐ เตรียมประชุมพรรคเพื่อขอมติในขับ สส. 20 คน ที่สังกัดกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส วันพรุ่งนี้ และทั้งหมดอาจจะเข้าไปสังกัดพรรคกล้าธรรม

อ่านข่าว : สุมฟืน โยนเข้ากอง(ทัพ)ไฟ พท.ดันแก้ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม 

แก้ "กฎหมายกลาโหม" "เพื่อไทย" ได้แต่ไม่ง่ายดังหวัง  

รมว.กลาโหม รับมีแนวคิดยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชายแดนใต้