"มงคล" เปิดใจนั่งประธานวุฒิสภายึดชาติ ปชช. ลั่นไม่มีขั้ว

Sat, 27 Jul 2024 15:16:00

วันนี้ (27 ก.ค.2567) นายมงคล​ สุระสัจจะ​ ประธานวุฒิสภาพร้อมด้วย พล.อ.เกรียงไกร​ ศรี​รักษ์​ รองประธานวุฒิสภา​ คนที่หนึ่ง และนายบุญส่ง​ น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา​ คนที่สอง ให้สัมภาษณ์เปิดใจ ภายหลังรับสนองพระบรมราชโองการ​ โปรดเกล้า​ฯ​ เป็นประธานวุฒิสภา ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อม ของเราทั้งสามคน เป็นมงคลแก่ชีวิต และขอยืนยันในปณิธานอันแน่วแน่ ว่าจะปฏิบัติงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์เพื่อรับใช้ประชาชน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จนกว่าชีวิตจะหาไม่

อ่านข่าว : โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "มงคล" ประธานวุฒิสภา "เกรียงไกร-บุญส่ง" รองประธาน

ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องที่มาที่ไปของ สว. ชุดนี้ การทำหน้าที่จะเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมาอย่างไร นายมงคล กล่าวว่า เรื่องนี้เราไปห้ามคนให้คิดไม่ได้ เพราะในประวัติกว่าจะเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ผ่านชีวิตมีเพื่อนมีพี่มีน้องผ่านอะไรมามากมาย ถ้าไม่รู้จักใครเลยไม่สนิทกับใครเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ในเรื่องของการทำงาน หรือการปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่ง ก็จะดำเนินการให้เป็นไปตามจริยธรรม และเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ และเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ สว. ทุกท่านยินดีรับใช้ทุกคน และเป็นมิตรกับทุกคน ในเมื่ออยู่ตรงนี้แล้วสิ่งที่ตนและรองประธานสว. ทั้งสองคน ได้ตั้งปณิธานร่วมกันไว้ ตามที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ไปแล้ว ก็ถือว่านั่นคือ สิ่งที่จะแสดงเจตนาในการปฏิบัติหน้าที่

ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายมงคล​ กล่าวว่า เป็นเรื่องรายละเอียดเรายังพูดไม่ได้ ตอนนี้เพิ่งรับตำแหน่งก็ต้องขอดูรายละเอียดก่อน แต่ตามเจตนารมณ์ก็จะยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

เมื่อถามย้ำถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล​ จะทดสอบและพิสูจน์ ​สว.ว่าเห็นชอบการแก้รัฐธรรมนูญ​รายมาตราที่ยื่นเข้าสภา​ฯ​ ว่า​ อะไรที่เป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง ตนไม่ขอออกความเห็น เนื่องจากเป็น สว. ไม่ควรจะตอบ ส่วนมั่นใจในการทำงานหรือไม่​ ตนก็ไม่ขอออกความเห็น เช่นกัน

ส่วนกระแสที่ถูกมองว่าเป็น สว.สายสีน้ำเงิน นายมงคล ระบุว่า มันไม่มีหรอก จริงๆ แล้วคือน้ำเงิน​ ขาว​ แดง คือปณิธานของเรา ชาติศาสนา​ พระมหากษัตริย์​ และประชาชน

นอกจากนี้ นายมงคล กล่าวว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ไม่ได้เข้ามาเพื่อสลายขั้ว สลายสี เพราะไม่เคยคิดที่จะมีขั้วมีสี​ ในชีวิตที่ผ่านมา อยู่กับคนที่มีความเห็นต่างมาตลอด ซึ่งความเห็นที่แตกต่างไม่ใช่แตกแยก แตกต่างกับแตกแยกคนละอย่างกัน แตกต่างคือสิ่งที่ดี เพราะถ้าคนเห็นเหมือนกันเป็นไปไม่ได้ พร้อมยกตัวอย่างเคยแก้ปัญหาฝายราษีไศล ซึ่งไปคลุกคลีอยู่กับประชาชนที่มีความเห็นกันมาตลอด ซึ่งสามารถที่จะหาจุดรวมกันได้​ 

พร้อมกับระบุว่าเหมือนผู้สื่อข่าวที่เขียนข่าวก็ไม่เหมือนกัน พร้อมย้ำว่า คนเราไม่มีใครคิดเหมือนกันหมด​ ซึ่งเรามองว่าความเห็นที่แตกต่างต้องรับฟังด้วยเหตุผล สามารถทำงานด้วยกันได้

อ่านข่าว :

"สว.ของประชาชน" โหวต ประมุข-รองประมุข ตามโผเป๊ะ

"เศรษฐา" สั่งถอดบทเรียนความปลอดภัยตำรวจ


โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "มงคล" ประธานวุฒิสภา "เกรียงไกร-บุญส่ง" รองประธาน

Sat, 27 Jul 2024 12:09:00

วันนี้ (27 ก.ค.2567) เวลา​ 11.15 น.​ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี​ เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการ​ โปรดเกล้า​ฯ​ แต่งตั้ง​ ประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา

พระบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

ด้วยในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง วันที่ 23 กรกฎาคม 2567​ ที่ประชุมได้ลงมติเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา ดังต่อไปนี้

1. นายมงคล​ สุระสัจจะ​ เป็นประธานวุฒิสภา

2. พล.อ.เกรียงไกร​ ศรี​รักษ์​ เป็นรองประธานวุฒิสภา​ คนที่หนึ่ง

3.​ นายบุญส่ง​ น้อยโสภณ เป็นรองประธานวุฒิสภา​ คนที่สอง

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม​ พ.ศ. 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ​ นายเศรษฐา​ ทวีสินนายกรัฐมนตรี

หลังจากพิธีรับสนองพระบรมราชโองการเสร็จสิ้น ประธานสภาวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ได้ทำการถวายบังคม พระบรมฉายาลักษณ์ 3 ครั้งก่อนที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกัน

ซึ่งบรรยากาศก่อนเริ่มพิธีจะเริ่มขึ้น เป็นไปอย่างคึกคักบรรดา สว.​ทยอยมาลงทะเบียนบริเวณห้องริมน้ำ​ อาคารรัฐสภาฝั่ง สว.และพักคอยยังห้องรับรอง ตั้งแต่เวลา​ 08.30 น.​ เพื่อเตรียมเข้าร่วมพิธี

โดยนายมงคล​ สุรสัจจะ ประธานวุฒิสภา เดินทางมาเป็นคนแรก จากนั้น เป็นนายบุญส่ง น้อยโสภณ​ รองประธานวุฒิสภาคนที่​ 2  ต่อด้วย พล.อ.เกรียงไกร​ ศรีรักษ์​ รองประธานวุฒิสภา​คนที่​ 1 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พักคอยอยู่บนห้องพักด้านบนตั้งแต่ก่อนเวลานัดหมาย

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส  สมาชิกวุฒิสภา​ และนางอังคณา​ นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา​ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สว.พันธุ์​ใหม่​ ไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธีด้วย ขณะที่​ สว.ที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการมีจำนวนทั้งสิ้น​ 145 คน​จาก 200 คน

อ่านข่าว : 

"สว.ของประชาชน" โหวต ประมุข-รองประมุข ตามโผเป๊ะ

ตามคาด "มงคล สุระสัจจะ" นั่งประธานวุฒิสภา ด้วยคะแนน 159 เสียง


"เศรษฐา" สั่งถอดบทเรียนความปลอดภัยตำรวจ

Fri, 26 Jul 2024 18:49:00

วันนี้ (26 ก.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เดินทางเข้าร่วมประชุมครั้งที่ 6 ประจำปี 2567 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนเริ่มการประชุมนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการสนับสนุนอุปกรณ์ รักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างเพียงพอ รวมถึงยุทธวิธีในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ให้มีความปลอดภัย

เนื่องจากช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ทั้ง การปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้ายาเสพติดใน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และการระงับเหตุชายมีอาวุธ และจับครอบครัวตัวประกันในพื้นที่ สน.ท่าข้าม กทม. พร้อมให้ข้อเสนอแนะในเรื่องดังกล่าว

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยผลการประชุมว่า ในที่ประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าจับกุมผู้ติดยาเสพติด หรือบุคคลที่เป็นอันตราย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตและหรือได้รับบาดเจ็บ

และได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องการถอดบทเรียน การดูแลสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ แก่ผู้ประสบเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติงานเพื่อให้มีความปลอดภัย

ส่วนเรื่องปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกับประเทศกัมพูชา ที่ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ร่วมหาแนวทางถึงมาตรการปราบปรามกับทางการกัมพูชาช่วยติดตามกลุ่มบุคคลตามหมายจับ 100 หมายจับ และได้กำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการร่วมกันให้เป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน

อ่านข่าว จับกระแสการเมือง: วันที่ 26 ก.ค. 2567 เบิร์ดเดย์ น้ำต้มผัก "ทักษิณ" "คิดถึงลุงตู่" เพลงฮิตติดติ๊กต็อกทะลุ 7 แสนวิว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประชุม ก.ตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประชุม ก.ตร.


ส่วนการประชุม ก.ตร.วันนี้มี 5 วาระ วาระสำคัญ ที่น่าสนใจ มีทั้งเรื่องเสนอเพื่อทราบ และเสนอเพื่อพิจารณา ในส่วนเสนอเพื่อทราบ คือ รายงานการดำเนินการ ของ อนุฯ ก.ตร. วินัย ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน มีประเด็น การร่างระเบียบ เลื่อนเงินเดือนเงินค่าตอบแทนพิเศษ ประจำปี 2567 และการแก้ไขกฎ ระเบียบ คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ ปี 2566

ส่วนประเด็นอื่น ๆ เช่น การแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการตำรวจระดับสูง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ปี 2567 จะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราช กิจานุเบิกษาครบ 180 วัน ซึ่งได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา หมายความว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสูง จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 5 ต.ค.นี้

ภายหลังการประชุมใช้กว่า  1 ชั่วโมง 30 นาที นายเศรษฐา ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว

อ่านข่าวอื่นๆ

มุมมอง "อาชีพพิทักษ์ป่า" ฉบับคนรุ่นใหม่ปกป้องทับลาน

 


จับกระแสการเมือง: วันที่ 26 ก.ค. 2567 เบิร์ดเดย์ น้ำต้มผัก "ทักษิณ" "คิดถึงลุงตู่" เพลงฮิตติดติ๊กต็อกทะลุ 7 แสนวิว

Fri, 26 Jul 2024 17:33:00

ยามรักน้ำต้มผัก ก็ว่าหวาน มื่นชื่นถ้วนหน้าในงานทำบุญครบรอบวันเกิด 75 ปี "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ( 26 ก.ค.67) รับญาติพี่น้อง และรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยที่เดินทางร่วมงานพร้อมพรั่ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคู่หูดูโอ "สมศักดิ์ เทพสุทิน - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ภูมิธรรม เวชยชัย , ประเสริฐ จันทรรวงทอง และจิราพร สินธุไพร, จาตุรนต์ ฉายแสง , สรวงศ์ เทียนทอง ฯลฯ และคนเสื้อแดง ซึ่งเดินทางมารอ อยู่หน้าบ้านตั้งแต่เช้า

สำหรับผู้เข้าร่วมงาน จะได้รับแจกเสื้อโปโลสีขาวปักรูปหน้า "ทักษิณ"พร้อมข้อความสีแดงว่า "75 no place like home ในวันนี้ "ทักษิณ" แวดล้อมไปด้วยคนที่รัก ไม่ว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ,สมชาย - เยาวภา วงศ์สวัสดิ์, เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว และลูกชาย "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร

อ่านข่าว "ทักษิณ" ยันไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ ปัดคุยการเมือง-ฮั้วพลังงาน

"ดีใจที่ได้กลับมาฉลองวันเกิดในประเทศไทย ไม่รู้จะได้ฉลองอีกกี่ปี เพราะปีนี้ก็อายุ 75 ปีแล้ว ...แต่หวังว่าจะมีเวลาอีก 40 ปี ก็คงพอ ถือเป็นการอวยพรตัวเอง"

อดีตนายกฯ บอกว่า ถือว่าปีนี้เป็นปีที่พิเศษจริงๆ เพราะได้กลับมาอยู่กับเพื่อนฝูงและพี่น้อง โดยเฉพาะเพื่อนทางการเมือง และธุรกิจที่คบค้ากันมาหลายปี วันนี้เจอหน้ากันก็มีความสุข ขอขอบคุณทุกท่าน และหวังว่าทุกคนจะมีความสุขเหมือนตน ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีความมั่นคงที่จะร่วมเดินทางเพื่อให้บ้านเมืองเราดีขึ้นกว่าวันนี้

อ่านข่าว "เฉลิม-ทักษิณ" สิ้นสุดทางเพื่อน 30 ปี

ยามชังน้ำตาลหวานยังพาลขม หลังออกมาแถลงไม่อยากเห็นหน้าและได้ยินเสียง "ทักษิณ ชินวัตร" ได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง สิงห์เฒ่าบางบอน "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ก็ถูก "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร หัวหน้าพรรคฯ ลบชื่อออกจากกลุ่มไลน์ โดยระบุว่า ไม่อยากให้คนในพรรครู้สึกบั่นทอน ไม่อยากให้มีประเด็นและทุกคนรู้สึกกังวลไปด้วยว่า ในพรรคจะเป็นอย่าง ไร ในกลุ่มจะคุยกันอย่างไร ก่อนหน้านี้ที่ ร.ต.อ. เฉลิม ส่งมาก็มีเรื่องที่จะย้ายพรรค ซึ่งข้อความต่อๆ ไปทุกคนก็เริ่มอึดอัดใจ จึงได้ปรึกษาว่าจะเอาออกดีไหม ทุกคนก็จะมีความเกรงใจ และตนคิดว่ากลุ่มนี้ เป็นกลุ่มของการทำงาน สส. ต้องนัดแนะ จึงคิดว่าลบออกเลยดีกว่า

"เรื่องของพรรคไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าจะคุยเรื่องนี้อยากให้คุยเป็นทางการ ทั้งนี้ ขอขับออกจากกรุ๊ปอย่างเดียว ไม่มีนโยบายขับออกจากพรรค" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ

ไม่รู้จะกลายเป็นยื่นดาบประหาร ผลักมิตร กลายเป็น ศัตรูถาวร หรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการส่งสัญญานใด ๆ ตอบกลับมาจาก "ร.ต.อ.เฉลิม" คงมีเพียงภาพปรากฏของ "วัน อยู่บำรุง" สมาชิกใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคฯและ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นครั้งแรก ในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง ครบ 6 รอบ 72 พรรษา

หลังจากก่อนหน้านี้ "สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกหัวหน้าพรรค ได้ชักชวนให้ "วัน" เข้ามาอยู่กับ"ลุง" ภายใต้ชายคาบ้านใหญ่ใหญ่ๆ ที่ใคร ๆ ต่างมองว่า เป็นบ้านเก่าที่ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีใครผลักประตูเข้ามาให้เห็น

และยังต้องรอดูว่า หลังจากนี้ "ร.ต.อ.เฉลิม" ซึ่งยังไม่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และเพื่อไทยก็ยังไม่ขับ"ร.ต.อ.เฉลิม" ออกจากพรรคฯ ก็อยู่ร่วมกันอย่างไร และจะเดินมาซบพรรคพลังประชารัฐหรือไม่  ซึ่งวันที่ 11 ส.ค.นี้ จะครบรอบวันเกิด 79 ปี ต้องรอดูว่า ลุงป้อม "พล.อ.ประวิตร" ยังมีบารมีและแรงดึงดูดมากพอที่จะให้ใครต่อใคร เข้ามาหาเหมือนในอดีตหรือไม่

ไม่ได้เป็นนายกฯ เป็นองคมนตรีแล้ว แต่กระแสความคิดถึง "ลุงตู่"  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ยังนำโด่ง ในหมู่ FC เมื่อเพลง "คิดถึงลุงตู่" สไตล์ อาร์แอนบี ถูกปล่อยออกมา ไม่นาน ก็เกือบทะลุล้านวิว โด่งดังในโลกโซเชียล โดยเฉพาะในติ๊กต็อก ฟาดยอดวิวไปมากว่า 7 แสนครั้ง ไม่รวมกับยอดโคฟเวอร์ ในสารพัดเวอร์ชั่น

เมื่อ"ทิม" พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกนักข่าวถามถึงเพลงลุงตู่ "ทิม -พิธา" บอกว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ตามในโซเชียล ก็เลยไม่เห็น แต่ เรื่องนี้เป็นหน้าที่นักการเมืองปัจจุบันรวมถึงตนที่ต้องสร้างศรัทธา หาทางออกให้กับประชาชนในการแก้ปัญหา

..เพลงคิดถึงลุงตู่ดังมากในติ๊กต็อก มียอดการเข้าชมเป็นล้าน ..."จริงหรือเปล่าครับ ผมไม่ได้มีเวลาเล่นโซเชียลขนาดนั้น เดี๋ยวต้องกลับไปดู"

ม็อบมาหรือไม่ ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ "ตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ประเมินว่า หลากหลายเหตุการณ์ในเดือนส.คนี้ จะกลายเป็นปัจจัยให้เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสำนึกประชาชนและการปกป้องประเทศชาติ

ด้วยเหตุมีการขายชาติที่ซ่อนไว้ใน 4 โครงการของรัฐบาล เริ่มตั้งแต่การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 4.5 แสนล้าน ซึ่งจะเป็นพายุหายนะหมุนพัดระบบเศรษฐกิจของประเทศพังพินาศ แล้วลามไล่ล่าหาประโยชน์จากโครงการอื่นๆ อีก 

อ่านข่าว มุมมอง "อาชีพพิทักษ์ป่า" ฉบับคนรุ่นใหม่ปกป้องทับลาน

...พายุหายนะภัยหมุนเพิ่มรุนแรงไปขายคอนโดว่าง 1.3 ล้านยูนิตพร้อมที่ดินให้ต่างชาติมาอยู่นาน 99 ปี และลุกลามสู่การผลักดันตั้งบ่อนกาสิโน 8 แห่ง รวมทั้งดึงต่างชาติ มาลงทุนแลนด์บริดจ์แลกสิทธิ์ได้ครอบครองที่ดิน 300,000 ไร่ตั้งรกรากสะสมทุนนาน 99 ปี สิ่งเหล่านี้ ล้วนก่อความเสียหายให้ประเทศครั้งใหญ่ 

...หวังว่า 14 ส.ค.นี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศต้องหยุดยั้งความเสียหายในอนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อบ้านเมืองเสียที อย่างไรก็ตาม ถ้าประชาชนต้องแสดงพลังกัน หากสกัดกันพวกขายแผ่นดินไม่อยู่แล้ว อย่าคิดถึงการต่อสู้ภายหลังจะได้ชัยมา แต่เราต้องสู้ก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้น ไม่ใช่สู้หลังจากบ้านเมืองยับเยินไปหมดแล้ว

ที่"ตู่" จตุพร ระบุไว้ 14 ส.ค.ยังไม่ใช่หมุดหมายลงถนน?


"ทักษิณ" ยันไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ ปัดคุยการเมือง-ฮั้วพลังงาน

Fri, 26 Jul 2024 15:38:22

วันนี้ (26 ก.ค.2567) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการพักผ่อนที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ไม่มีการพูดคุยประเด็นการเมือง เป็นเพียงการคุยเล่นกัน สนุกสนาน เพราะเป็นคนที่สนิทสนมกันมา พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ตั้งแต่ตนเองเป็นนักธุรกิจ เวลาไปกินข้าวจะไม่คุยเรื่องงาน แต่คุยเรื่องดินฟ้าอากาศและครอบครัว หากจะคุยงานจริงจังเป็นช่วงที่มีของหวาน ใช้เวลาสั้น ๆ แต่ครั้งนี้ไม่มีของหวาน จึงไม่ได้คุย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แล้วทำไมถึงไม่มีของหวาน นายทักษิณ กล่าวว่า อิ่มก่อนเลยไม่มีของหวาน จึงลืมพูดเรื่องการงาน

ส่วนฝ่ายการเมืองที่มองว่าการพบกันกับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จะเป็นการฮั้วเรื่องพลังงานหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี แต่เป็นคนรู้จัก เป็นเพื่อนฝูง ซึ่งต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ ไม่สามารถทำอะไรฝ่าฝืนได้

นายทักษิณ ระบุว่า นายสารัชถ์ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นเพื่อนกันมานานมาก เมื่อนายอนุทินทราบว่าตนเองจะไปเขาใหญ่ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร เป็นคนวางแผนล่วงหน้า 3 สัปดาห์ โดยไปครบทั้งลูกและหลาน ตนเองจึงตัดสินใจไปด้วย และชวนไปกินข้าวที่ร้านแรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท เขาใหญ่ พร้อมเสนอตัวว่าจะเลี้ยงเอง เพราะมากันทั้งครอบครัว ซึ่งนายอนุทิน บอกว่า ไม่เป็นไร และปรากฏว่า สส. ในพื้นที่ทราบข่าว จึงมากันหมด

นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ ซึ่งปฏิญญาทำให้ตนเองวุ่นวายมารอบหนึ่งแล้ว ย้ำไม่มีอะไรเลย ขอให้คิดว่าแม้ตนเองจะเป็นนักการเมืองเก่า แต่หน้าที่คือสร้างความปรองดอง เพื่อให้การเมืองแข็งแรง และบ้านเมืองไปต่อได้ มากกว่าที่จะทำหน้าที่อื่น

"การที่ตนเองเข้าไปกินข้าว เฮฮาด้วย ก็จะเกิดความสามัคคีกันมากขึ้น เมื่อมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็มานั่งคุยกัน ก็จบ วันนี้ความสามัคคีของบ้านเราสำคัญ ลำพังแค่การแข่งขันจากต่างประเทศก็หนักแล้ว ถ้าเรายิ่งไม่สามัคคีกัน จะยิ่งไปเลย"

อ่านข่าว : "ปฏิญญาเขาใหญ่" เมื่อเพื่อนต้องการมิตรแท้ 

"ทักษิณ" เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำบุญวันเกิดครบ 75 ปี 

"เฉลิม-ทักษิณ" สิ้นสุดทางเพื่อน 30 ปี 


"ทักษิณ" ยังไม่มีตำแหน่งพ้นโทษรับเงินเดือน 700 บาท

Fri, 26 Jul 2024 15:38:00

วันนี้ (26 ก.ค.2567) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบทบาท หลังวันที่ 22 ส.ค.นี้ ที่จะพ้นโทษจะเป็นอย่างไรว่า ไม่มีอะไร ห่วงบ้านเมืองเป็นเรื่องธรรมดา คนเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ก็คิดถึงบ้านเมือง ห่วงบ้านเมือง ห่วงประชาชน มีอะไรที่เราคิดว่าต้องแนะนำติติง ก็จะทำผ่านช่องทางทางการเมืองเพื่อให้เขาไปแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้อย่างจริงจัง

ส่วนจะมีโอกาสรับตำแหน่งอะไรทางการเมืองหรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรก็คงได้เงินเดือน 700 บาท จะไปรับตำแหน่งอะไรได้

เมื่อถามว่าจะเข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทยเพื่อช่วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มากขึ้นหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องพ่อให้คำปรึกษาลูกดีกว่า

อ่านข่าว วุ่น! วางเพลิงเครือข่ายรถไฟฝรั่งเศส ก่อนเปิดโอลิมปิกปารีส

"ทักษิณ​" ชี้คดี"เศรษฐา" ไม่มีอะไรต้องกังวล  

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีที่ 40 สว.ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ว่า ไม่น่าจะมีอะไรเป็นข้อกังวล เพราะนายกรัฐมนตรีทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน จึงเชื่อว่า น่าจะชี้แจงได้หมด

เมื่อถามว่า ต้องสร้างความเชื่อต่อประชาชนอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะไม่อะไรเลย คิดว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำไป ก็ทำด้วยความตรงไปตรงมา พร้อมมองว่า ไม่จำเป็น จะต้องมีแผนสำรองด้วบ

ผมก็เป็นนายกไม่ได้แล้ว แก่แล้ว หมดเวลาทำงาน นอกเหนือจากคุณสมบัติ ก็หมดเวลาทำงาน มีหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ

อ่านข่าว

มุมมอง "อาชีพพิทักษ์ป่า" ฉบับคนรุ่นใหม่ปกป้องทับลาน

จับตา! "ทักษิณ" เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้าทำบุญวันเกิด 75 ปี

 

 

 

 


"ทักษิณ" เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำบุญวันเกิดครบ 75 ปี

Fri, 26 Jul 2024 08:00:00

วันนี้ (26 ก.ค.2567) บรรยากาศที่บ้านจันทร์​ส่อง​หล้า​ บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ บริเวณซอยจรัญ​สนิท​วงศ์​ 71 หลังจากที่จะเปิดบ้านทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด​ ครบรอบ​ 75 ปี​ 26 ก.ค.​ 2567 เป็นไปอย่างคึกคัก

โดยบุคคลสำคัญอย่าง น.ส.แพทองธาร​ ชิน​วัตร​ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ในฐานะบุตรสาว​ ได้ใช้รถยนต์​อเนกประสงค์​ เข้าไปยังภายในบ้านพักฝั่งประตูซอย​ จ​รัญ​ สนิท​วงศ์​ 71​

ส่วนอีกหนึ่งบุคคลสำคัญคุณหญิงพจมาน​ ดามาพงศ์ ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา​ เดินทางเข้ามาในบ้านพักเวลา​ 08.50 น.

มีรายงานว่า สำหรับกิจกรรมวันคล้ายวันเกิดที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายทักษิณ และคนในครอบครัวและญาติพี่น้องจะร่วมทำเลี้ยงพระเพล 9 รูป

จากนั้นจะให้บรรดานักการเมืองใกล้ชิด ที่เป็นรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เข้าไปร่วมทานอาหารเที่ยง อาทิ

- ​นายภูมิธรรม​ ​เวชย​ชัย​ รอง​นายก​ฯและ​รมว.พาณิชย์​
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม
- นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
- นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
- นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
- นางพวงเพ็ชร​ ชุน​ละเอียด​ อดีต รมต.ประจำ​สำนักนายกรัฐมนตรี​

โดยการเดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าครั้งนี้จะจำกัดเฉพาะผู้ได้รับเชิญจะให้รถทะเบียนที่กำหนดไว้เข้าไปในบ้านเท่านั้น

นอกจากนี้สีสันที่สื่อมวลชนสังเกตเห็นได้จากด้านนอกบ้านพัก​ คือคนที่มาร่วมงาน​ ต่างพากันสวมเสื้อยืดสีขาวคอกลมด้านหน้าสกรีน ตัวอักษาขนาดใหญ่​ ว่า​75 no place like Home พร้อมกับปักรูปของนายทักษิณ​

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้าร่วมด้วย เพราะติดภารกิจราชการ ที่ จ.นครพนม แม้จะเดินทางกลับมาช่วงเย็น แต่ก็ยังมีภารกิจราชการต่อ ด้วยการประชุม ก.ตร.และ กตช. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“ทักษิณ” ฉลองวันเกิดครบ 75 ปี อวยพรวันเกิด เป่าเค้กล่วงหน้า

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ได้มีคลิปออกมาในสื่อสังคมออนไลน์ ถึงการจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดปีที่ 75 ล่วงหน้าที่โรงแรมแถวซอยรางน้ำ)มีเฉพาะคนใกล้ชิดเข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น อาทิ

-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี
- เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว
- อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย
- ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์
- สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา
- พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน
- อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการบริหารของ บริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเกิดวันเดียวกับนายทักษิณ ร่วมงานด้วย

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีการร้องเพลงอวยพรวันเกิด และให้นายทักษิณเป่าเค้ก

ขณะที่แหล่งใกล้ชิดนายทักษิณ ซึ่งอยู่ในงานเลี้ยงดังกล่าวนั้น เปิดเผยสั้นๆ ว่า งานเลี้ยงจัดขึ้นจริง แต่ไม่ขอให้รายละเอียด เพราะเป็นงานเลี้ยงภายใน แต่บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

คนที่ร่วมงานเป็นพี่น้องนักการเมืองและคนในแวดวงที่รู้จักสนิทสนมเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันนายทักษิณ และนายอัยยวัฒน์ มีความสนิทสนมกันมาก ไปมาหาสู่กันระหว่างอยู่ต่างประเทศ และเป็นคอฟุตบอลเหมือนกัน​

อ่านข่าว :

จับตา! "ทักษิณ" เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้าทำบุญวันเกิด 75 ปี

"เฉลิม-ทักษิณ" สิ้นสุดทางเพื่อน 30 ปี

"อุ๊งอิ๊ง" ดีด "เฉลิม" พ้นไลน์เพื่อไทย ไม่ยุ่งขอดีเบต "ทักษิณ"


จับตา! "ทักษิณ" เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้าทำบุญวันเกิด 75 ปี

Thu, 25 Jul 2024 19:37:00

วันนี้ (25 ก.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมครอบครัว "ชินวัตร" จะเปิดบ้าน "จันทร์ส่องหล้า" ทำบุญวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 75 ปี ท่ามกลางการจับตา "คนสนิท-ใกล้ชิด" ร่วมวงอาหารมื้อเที่ยง โดยนางแพทองธาร ชินวัตร ย้ำไม่ได้เปิดบ้านให้บุคคลทั่วไป หรือ คนรู้จักเข้าอวยพร

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ได้เตรียมข้อมูลเอกสารเพิ่มเติมเพื่อแถลงปิดคดี "อดีต สว. 40 คน" ยื่นคำร้องถอนถอด ปมเหตุแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ พร้อมขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่ให้กำลังใจ หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาด 14 สิงหาคมนี้ ก่อนยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

อ่านข่าว “เสี่ยหนู-กัญชา” กลับมาผงาด ตรงข้าม “เศรษฐา” ต้องลุ้นหนัก

พร้อมเชื่อมั่นว่า 314 เสียง จะทำให้รัฐบาลพรรคร่วม มีเสถียรภาพทางการเมืองมั่นคง แม้หลายคนจะเป็นห่วงว่าเดือนส.ค.นี้ เป็นเดือนที่มีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ก็ตาม

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันก็มองว่าการพบกันของ นายทักษิณ ชินวัตร และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่มีนัยยะทางการเมืองแอบแฝง หรือเป็นการทำปฏิญญาเขาใหญ่ร่วมกัน

ไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร การที่มีภาพของนายอนุทิน และนายทักษิณ เป็นผู้นำจิตวิญญาของพรรคเพื่อไทย และกับพรรคภูมิใจไทย มากกว่าปฏิญญาเป็นสัญญาร่วมของรัฐบาลเดียวกัน 314 เสียง เรื่องการไปตีกอล์ฟเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมืองอดีตนักการเมือง

อ่านข่าว "เฉลิม-ทักษิณ" สิ้นสุดทางเพื่อน 30 ปี

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่ขอประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปมถอดถอน นายเศรษฐา ว่าจะออกมาในทิศทางใด

ก่อนย้ำถึงจุดยืนพรรคภูมิใจไทย 71 เสียง ไม่คิดแข่งจัดตั้งรัฐบาล หรือต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 พร้อมยืนยันทำงานร่วมกับนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาล 314 เสียงต่อไป

แนวอะไร แปลว่าอะไร ใครสอย โอ้ย อย่าพิ่งไปคิด อะไรที่ยังไม่เกิดอย่าไปคิดทำทุกวัน รัฐบาลนี้ วินาทีนี้ ก็ยังบริหารราชการแผ่นดิน ยังไม่มีอุปสรรคที่จะทำให้เกิดความไม่สะดวกไม่ราบรื่น

อ่านข่าว

"ณัฐชา" เสนอญัตติด่วนตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ

"อุ๊งอิ๊ง" ดีด "เฉลิม" พ้นไลน์เพื่อไทย ไม่ยุ่งขอดีเบต "ทักษิณ"


"เฉลิม-ทักษิณ" สิ้นสุดทางเพื่อน 30 ปี

Thu, 25 Jul 2024 19:11:00

"พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ทำคุณประโยชน์และสร้างชื่อเสียงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างมาก จึงไม่ขอถอดยศที่ครองอยู่ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นชอบตามเสนอ" สู้สุดใจในสภา ท้าชนทุกแนวรบ เมื่อฝ่ายค้านทวงถามถึงการดำเนินการถอดยศอดีตนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ ชินวัตร" ที่ประดับยศพันตำรวจโทในขณะนั้น

นี่เป็นเพียงหนึ่งในฉากทางการเมืองที่เชื่อกันว่า ยังอยู่ในความทรงจำของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะคนใจถึง พึ่งได้ ช่วยเต็มที่ เพราะเป็นพรรคพวกเดียวกัน

ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะหัวหน้าพรรคมวลชน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล อสมท. เป็นช่วงเวลาที่เส้นทางของนักธุรกิจหนุ่ม ทักษิณ ชินวัตร กำลังผงาดในฐานะเอกชนด้านโทรคมนาคม ซึ่งทักษิณได้รับสัญญาสัมปทานเคเบิลทีวีในช่วงเวลานั้น

ก่อนที่เส้นทางของคนทั้ง 2 จะบรรจบกัน เมื่อครั้งร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ในยุคสมัยของการควบรวมพรรคการเมือง

จุดเริ่มต้นสายสัมพันธ์ที่ผูกโยงทั้งในทางการเมืองและมิติแวดล้อมยาวนานร่วม 30 ปี ก่อนจะสิ้นสุดแล้วอย่างชัดเจน เมื่อผู้นำบ้านใหญ่บางบอนประกาศสิ้นสุดทางเพื่อน ไม่อยากได้ยินแม้เพียงชื่อ

ชื่อยังไม่อยากได้ยิน ไม่มีแตกหัก เขาจะแคร์อะไรผม ผมไม่แตกหักกับเขา แต่พร้อมดีเบต

นักรัฐศาสตร์และผู้สังเกตการณ์การเมืองวิเคราะห์กันกว้างขวาง ว่าอะไรคือเหตุปัจจัยสำคัญของการประกาศแตกหัก เป็นไปได้หรือไม่ที่ความขัดแย้งครั้งล่าสุดจะเกิดจากคนสองคนที่เคยเกื้อกูล มองต่างมุมในมิติของคำว่า พวกพ้องและบุญคุณ

ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต วิเคราะห์ว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่ทำงานใกล้ชิดทักษิณ อาจประเมิน หรือไม่เข้าใจวิธีคิดแบบเถ้าแก่ของทักษิณ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อาจมีโลกใบเก่า ช่วยครั้งหนึ่งก็เป็นบุญคุณกันตลอดไป แต่ทักษิณไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถือว่าได้ตอบแทนไปแล้ว เคยได้เป็นทั้ง รมว.มหาดไทย รองนายกรัฐมนตรีกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ รมว.ยุติธรรม

ร.ต.อ.เฉลิม ประกาศชัดเจนหลายครั้งว่าต้องการให้พรรคเพื่อไทยขับออก เพื่อเดินต่อทางการเมือง จุดหมายปลายทางที่คาดการณ์ไว้ หนีไม่พ้นพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แต่สัญญาณสงครามจิตวิทยากลับแรงขึ้น ณ นาทีนี้ เมื่อพรรคเพื่อไทยยืนกรานไม่ขับออกจากพรรค เว้นแต่หัวหน้าพรรค "แพทองธาร ชินวัตร" ประกาศขับออกจากกลุ่มแชทไลน์เท่านั้น

วิเคราะห์ : อุรชัย ศรแก้ว ไทยพีบีเอส

อ่านข่าว : "ร.ต.อ.เฉลิม" เปิดอกท้าเพื่อไทยขับออก-หมดใจ"ทักษิณ" 

"ปฏิญญาเขาใหญ่" เมื่อเพื่อนต้องการมิตรแท้ 

"อุ๊งอิ๊ง" ดีด "เฉลิม" พ้นไลน์เพื่อไทย ไม่ยุ่งขอดีเบต "ทักษิณ" 


"ไชยามพวาน" ตั้งคำถามปม "พระสงฆ์" เข้าเกณฑ์ดิจิทัลวอลเล็ต

Thu, 25 Jul 2024 17:14:23

วันนี้ (25 ก.ค.2567) นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.พรรคไทยก้าวหน้า แถลงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ประเด็นการจ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนของพระสงฆ์ ว่า พระสงฆ์ถือเป็นพลเมืองได้สิทธิตามโครงการนั้น ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้อภิปรายเรื่องโครงการดิจิทัลวิลเล็ต จึงตั้งคำถามว่ากลุ่มบุคคลเร่ร่อน บุคคลที่ไร้สัญชาติ ประชาชนที่อยู่ในเรือนจำเข้าเกณฑ์หรือไม่

นายไชยามพวาน กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการระบุชัดเจนในเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับสิทธิตามโครงการนี้จากบุคคล 3 กลุ่มดังกล่าว ในขณะที่เกิดข้อสงสัยว่าพระสงฆ์สามารถนำเม็ดเงินส่วนนี้ไปซื้อของได้ คำถามคือทุกฝ่ายอยากเห็นสังคมพระสงฆ์เดินเข้าร้านสะดวกซื้อห้างสรรพสินค้าหรือตลาดนัดหรือไม่

ดังนั้น หวังว่าสื่อมวลชนจะช่วยนำเสนอ ในข้อสงสัยการตั้งคำถามว่าพระสงฆ์เป็นพลเมืองที่พึงจะได้รับสิทธื์หรือไม่ หรือเป็นเพียงช่องทางเงินทอนที่หายไปนำไปสู่การทุจริตที่ไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้น เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้

อ่านข่าว : เคาะ 2 ล้านราย ลงทะเบียน “ดิจิทัล วอลเล็ต” สัปดาห์หน้า

ดิจิทัลวอลเล็ต พายุ (ไม่) หมุน?

เช็ก! เงื่อนไข "ดิจิทัลวอลเล็ต" ขั้นตอนลงทะเบียน "ทางรัฐ"


"ณัฐชา" เสนอญัตติด่วนตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ

Thu, 25 Jul 2024 12:27:00

วันนี้ (25 ก.ค.2567) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย หรือ อนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาปลาหมอคางดำ เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ได้เชิญตัวแทนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือ CPF เพื่อมาชี้แจงต่อกรรมการ ถึงข้อโต้แย้งจากกรมประมงที่ให้เอกสารหลักฐานต่อกรรมาธิการ

ล่าสุดทางบริษัทเอกชนได้ส่งหนังสือแจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ แต่ได้ส่งเอกสารแนบเป็นหนังสือข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลชุดเดียวกับกรมประมง โดยไม่ได้มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม

เวทีที่ท่านสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจได้คือเวทีของสภาผู้แทนราษฎร แต่หากเลือกที่จะแถลงข่าวเพียงมีสำนักข่าวไม่กี่สำนัก ขาดการโต้แย้งสอบถามอาจจะสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับประชาชนมากขึ้น

อ่านข่าว : “ซีพีเอฟ” ไม่มาชี้แจง ! อนุ กมธ.ฯ "ปลาหมอคางดำ" ผู้บริหารระบุติดภารกิจ

นายณัฐชาระบุต่อว่า ตามอำนาจของกรรมาธิการ ทำได้เพียงขอความร่วมมือเท่านั้น แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ และเมื่อขอข้อมูลไปแล้วแต่ไม่ได้รับข้อมูล จึงต้องสรุปตามข้อมูลที่มีอยู่ โดยเป็นข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐที่เชื่อถือได้ จากกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่จะมีการเสนอแก้ไขราชบัญญัติคำสั่งเรียก เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการเชิญบริษัทเอกชนเข้ามาชี้แจงต่อกรรมาธิการ

โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้ามาให้คำแนะนำหน่วยงานของรัฐในการฟ้องร้อง พร้อมกับเชิญหน่วยงานที่จะประเมินมูลค่าความเสียหายต่อระบบนิเวศที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่ามูลค่ามหาศาล เพราะปลาสายพันธุ์นี้ได้ทำลายชีวิตของประชาชนและเกษตรกรนับไม่ถ้วน

พร้อมเปิดเผยว่า สิ่งที่กรมประมงได้ชี้แจง และให้ข้อมูลไว้ สามารถยืนยันได้ว่า เป็นการทำผิดเงื่อนไขของคณะกรรมการอนุญาตนำเข้าสายพันธุ์ปลา แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุต้นตอของการแพร่ระบาดได้ เนื่องจากมีดีเอ็นเอของปลาในปี 2565 ยังไม่ได้มีดีเอ็นเอ ต้นทางในปี 2554 ทำได้เพียงการสันนิษฐาน และมีเพียงบริษัทเดียวที่นำเข้าปลาสายพันธุ์นี้

โดยในวันนี้จะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา หลังจากที่ประธานวิปฝ่ายค้านได้หารือกับวิปรัฐบาล และได้จัด สส.พรรคก้าวไกล 13 คนนำพยานหลักฐานมาอภิปรายชี้เห็นถึงปัญหา เนื่องจากว่าอนุกรรมการได้ทำเต็มความสามารถและอำนาจหน้าที่แล้ว

“เราจึงเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อเสนอไปยังรัฐบาลว่า การระบาดครั้งนี้เป็นการระบาดครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแพร่ระบาดของสัตว์น้ำรุกรานเกษตรกร สิ่งที่เกิดขึ้นมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ ท่านจะอยู่นิ่งเฉยแล้วรอกันแก้ไข หรือรอคนมีจิตสำนึกมาช่วยแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้อีกต่อไป วันนี้อนุกรรมาธิการทำเป็นรูปธรรม ที่สุดแล้วสิ่งที่จะส่งต่อคือการยื่นญัตติด่วนส่งข้อเสนอแนะข้อมูลไปถึงรัฐบาลและดูว่านายกรัฐมนตรีจะมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด” นายณัฐชากล่าว

รองประธานอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ระบุถึงการนำเข้าสายพันธุ์ปลา “เก๋าหยก” ของบริษัทเอกชนรายเดิม จึงห่วงปัญหาว่า จะมีการหลุดรอดมายังแหล่งน้ำธรรมชาติอีกหรือไม่

ซึ่งทางกรมประมงยืนยันว่า หากมีการหลุดรอดในแหล่งน้ำสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทันที เพราะการนำเข้ามีการเก็บดีเอ็นเอไว้แล้ว แต่ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดปลาหมอคางดำ จึงมีความพยายามไม่ให้สืบหาสาเหตุของการหลุดรอด ขณะเดียวกันการแพร่ระบาดเมื่อปี 2555 แพร่ระบาด ในตำบลเดียวกันอำเภอเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน เชื่อว่าเป็นประเด็นที่กรมประมงจะตั้งคณะกรรมการดำเนินการหาความจริงตั้งแต่ครั้งนั้น

และล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 ก.ค.) ทางกรมประมงได้ส่งรายงานให้อนุกรรมาธิการ เกี่ยวกับการสำรวจในแล็บเอกชนของบริษัท CPF ในปี 2560 ในเดือนสิงหาคม ที่มีการสอบถามข้อเท็จจริงในการนำเข้า แต่ปรากฏเจ้าหน้าที่ในแล็บแจ้งว่ามีการยกเลิกโครงการแล้ว เนื่องจากปลาตายทั้งหมด แต่มีการสุ่มตรวจในบ่อพักน้ำโดยการหวานแห พบว่าเจอปลาหมอคางดำ 10 ตัว ขนาด 7 เซนติเมตร มีอายุ 1 ปีหรือ 1 ปีกว่า แล้ว โดยไม่ได้มีรายงานในการกำจัดปลา ซึ่งตั้งแต่ครั้งนั้นยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดี คิดว่าหน่วยงานของรัฐควรดำเนินการอย่างจริงจังอย่างถึงที่สุด และกรมประมงในฐานะตัวแทนของประชาชนต้องเป็นคนกลางสู้คดีฟ้องร้องดำเนินคดี

“ทางกรมประมงจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้อนุกรรมาธิการได้ทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วสุดความสามารถในการดำเนินการ วันนี้ไหนที่ประชุมจะเรียนต่อประธานกรรมาธิการเพื่อสรุปข้อมูล” นายณัฐชากล่าว

อ่านข่าว :

กรมประมง โต้ยังไม่มีวิจัย "ไข่ปลาหมอคางดำ" ทนแล้ง 2 เดือน

วิกฤต “ปลาหมอคางดำ” (Blackchin Tilapia) รุกราน-ระบาดทั่วโลก

กยท.ยันใช้ 50 ล้านซื้อ "ปลาหมอคางดำ" ไม่ขัด พ.ร.บ.การยางฯ


"อุ๊งอิ๊ง" ดีด "เฉลิม" พ้นไลน์เพื่อไทย ไม่ยุ่งขอดีเบต "ทักษิณ"

Thu, 25 Jul 2024 10:41:43

วันนี้ (25 ก.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ เปิดเผยว่าในวันคล้ายวันเกิด​ครบ 75 ปีนายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ในวันพรุ่งนี้​ (26 ก.ค.) ในช่วงเช้าจะมีพิธีทำบุญตักบาตรกันในครอบครัว​ จากนั้นช่วงเที่ยงจะมีคนสนิทมาร่วมรับประทาน​อาหาร​ เพราะนายทักษิณ​ไม่ได้ทำบุญแบบนี้มานานแล้ว​ แต่ไม่ได้มีการเปิดบ้านให้บุคคลทั่วไปหรือคนรู้จักเข้ามา

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ นาย​ภูมิธรรม​ ​เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี ​และ​ รมว.พาณิชย์​ รวมไปถึงนางพวงเพ็ชร​ ชุน​ละเอียด​ อดีตรัฐมนตรีประจำ​สำนักนายกรัฐมนตรี​ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย​ ก็อาจจะเดินทางไปร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดและร่วมรับประทาน​อาหารกลางวันด้วย

อ่านข่าว : "ร.ต.อ.เฉลิม" เปิดอกท้าเพื่อไทยขับออก-หมดใจ"ทักษิณ"

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

"แพทองธาร" รับลบพ้นไลน์กลุ่ม สส.จริง ชี้สมาชิกอึดอัด

วันนี้ (25 ก.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีลบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคเพื่อไทย ออกจากกรุ๊ปไลน์ ว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากในกลุ่มของ สส.เพื่อไทย ตอนเช้าเลขาธิการพรรค ก็จะส่งรายละเอียดการแต่งกาย เวลา รายละเอียดการอภิปรายเพื่อให้ สส.รับทราบ ซึ่งตนเห็นข่าวสิ่งแรกที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้คนในพรรครู้สึกบั่นทอน ไม่อยากให้มีประเด็นและทุกคนรู้สึกกังวลไปด้วย ว่าในพรรคจะยังไง ในกรุ๊ปจะคุยกันยังไง ก่อนหน้านี้ที่ ร.ต.อ.เฉลิม ส่งมาก็มีเรื่องที่จะย้ายพรรค ซึ่งข้อความต่อๆ ไปทุกคนก็เริ่มอึดอัดใจ จึงได้ปรึกษาว่าจะเอาออกดีไหม ทุกคนก็จะมีความเกรงใจ และ ตนคิดว่ากรุ๊ปนี้เป็นกรุ๊ปของการทำงาน สส ต้องนัดแนะ จึงคิดว่าลบออกเลยดีกว่า

เมื่อถามว่า มีการคุย ร.ต.อ. เฉลิม ก่อนที่จะมีการดีดออกจากกลุ่มหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้คุยค่ะ รวมถึงการแถลงของ ร.ต.อ.เฉลิมที่ออกมา

"เราไม่อยากให้มีดรามามาก และไม่คิดว่าการรีมูฟออกจะเป็นข่าว ไม่อยากให้ในกรุ๊ปอึดอัดใจมากกว่านี่คือความตั้งใจ พอเป็นข่าวก็พร้อมอธิบาย ว่าเราต้องการทำงานต่อจริงๆ แต่ที่ ท่านเฉลิม ออกมาพูดก็เป็นเรื่องของท่าน"

น.ส.แพทองธาร​ ยืนยันว่า​ พร้อมคุยเสมอ เพราะนี่คือพรรคเพื่อไทย และคิดว่า ต้องเป็นการเข้าพรรคมาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ และมีเลขาธิการพรรค หรือใครที่อยู่ด้วยกัน เพราะเรื่องของพรรคไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าจะคุยเรื่องนี้อยากให้คุยเป็นทางการ ทั้งนี้ขอขับออกจากกรุ๊ปอย่างเดียวไม่มีนโยบายขับออกจากพรรค

ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมไปให้กำลังใจ พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัคร นายก อบจ.ปทุมธานี แพรทองธาร กล่าวอีกว่า "ไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไปด้วย ไม่เคยไล่หรือมีข้อความ ยืนยันได้ว่าไม่เคยพูดเลยสักคำ ว่าจะให้ท่านเฉลิม คุณวัน ออกจากพรรคเพื่อไทย ไม่เคยพูดเลย และไม่เคยแสดงเจตนาเช่นนั้นด้วย อันนี้ชัดเจน แต่ว่าทุกคนโตแล้ว ตัดสินใจเองได้หมด ว่าจะทำยังไงกับแพลนในชีวิตข้างหน้า อิ๊ง เคารพเสมอและขอต้องขออวยพรให้โชคดี ประสบความสำเร็จ ขอให้ไม่มีเรื่องนี้ต่อแล้ว และขอไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้แล้ว ให้ทุกคนทำงานต่อ สำหรับฝั่งนี้ไม่มีดรามาทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ฉะนั้นขออวยพรให้ประสบความสำเร็จ และเราก็เริ่มทำงานกันต่อ ขอให้เรื่องนี้จบที่ตรงนี้"

น.ส.แพทองธาร ยืนยันด้วยว่าไม่เคยมีปัญหาสะสมมาก่อน ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม มีปัญหากับนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ขอให้ไปถามบิดา ตนไม่ทราบ

ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่าหากเพื่อไทยไม่ขับออกจากพรรค แต่บทบาทในสภาจะเปลี่ยนไปนั้น น.ส.แพทองธารระบุว่า เป็นเรื่องที่ทางพรรคต้องจัดการ รับมือไปตามเรื่อง

อ่านข่าว : 

"แพทองธาร" ยันไม่เคยวางตำแหน่งให้ "ทักษิณ" หลังพ้นโทษ

เปิดใจ "วัน" ปมโบกลาเพื่อไทย-เลยจุดเคลียร์ใจ


"ร.ต.อ.เฉลิม" เปิดอกท้าเพื่อไทยขับออก-หมดใจ"ทักษิณ"

Wed, 24 Jul 2024 18:56:00

วันนี้ (24 ก.ค.2567) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดบ้านริมคลอง ย่านบางบอน แถลงถึงประเด็นที่ถูกเพ่งเล็งจะไปเข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ยังไปไหนไม่ได้ เพราะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่โดยเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ก็อยากให้ออกจากพรรค และกำลังหาทางอยู่ แต่คนทำเรื่องยังหามุมมองไม่ได้ ดังนั้นขอความกรุณารีบไล่ออก เพราะสังคมคงเบื่อข่าวสารนี้

พร้อมย้อนถึงเหตุการณ์ในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่มีการเลือกตั้งนายกอบจ. ปทุมธานี โดยส่วนตัวสนิทสนมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือบิ๊กแจ๊ส ซึ่งเป็นทั้งพี่ทั้งน้อง เป็นพวกกัน และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็เคยสนิทกับคนนอนโรงพยาบาลที่ไม่อยากเอ่ยชื่อ

โดยขอให้พรรคเพื่อไทยฟังทางนี้ว่า ตัวเองไปตอนที่การเลือกตั้งเสร็จแล้ว ซึ่งการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานีครั้งที่แล้วก็ไปยืนปราศัยให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ พรรคเพื่อไทยก็รู้ แต่ไม่ดำเนินการอะไร

หากมองว่า ไม่มีวินัยคนในพรรคเพื่อไทย จะเหลือคนที่มีวินัยสัก 5 คนหรือไม่ นอกจากเออออห่อหมก และเยินยอไม่อยากพูดไปมากกว่านี้ เพราะจะเป็นการท้าทาย และทะเลาะกัน

อ่านข่าว "ลุงป้อม" ต้อนรับอบอุ่นสวมเสื้อพปชร.ให้ "วัน อยู่บำรุง"

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แถลงเปิดใจครั้งแรก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แถลงเปิดใจครั้งแรก

แต่เนื่องจากมีการพูดกันไปพูดกันมา จนพาดพิงถึงพรรค และเป็นข่าว ทำใหัหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาที่บ้านนี้ พร้อมผู้ติดตาม มาพูดทำนองสันถวไมตรี ก็คิดว่าน่าจะจบ

ต่อมาก็มีข่าวออกมาอีกว่า ผู้ใหญ่ในพรรคไม่พอใจ โดยมีการติดต่อให้ไปที่พรรคและพบหัวหน้าพรรค ภายหลังนายวัน อยู่บำรุง ก็มีการพบพูดคุยกับหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ซึ่งในวันนั้นไม่ได้ อยู่ด้วย

วัน อยู่บำรุง อยู่เคียงข้างพ่อ เปิดบ้านริมคลงแถลงเปิดใจกระแสข่าวดรามา

วัน อยู่บำรุง อยู่เคียงข้างพ่อ เปิดบ้านริมคลงแถลงเปิดใจกระแสข่าวดรามา

"เฉลิม" เปิดอกไม่อยากชื่อ "ทักษิณ"

ร.ต.อ.เฉลิม ย้ำว่าอยู่กับพรรคเพื่อไทยมากว่า 20 กว่าปี ไม่เคยเอาเงินพรรคแม้แต่บาทเดียวไปหาเสียงต่างจังหวัด ยังใช้รถตัวเอง ไม่ได้พูดเอาบุญคุณหรือใส่อารมณ์ แต่นาน ๆ พูดทีก็มีอารมณ์บ้าง

ถือเป็นความทุกข์ที่พรรค เพื่อไทยไม่ยอมขับ เพราะอยากจะทำงานในสภาฯ ที่ผ่านมาไม่ได้เรียกตัวเองเป็นดาวสภา และไม่ได้ยกตัวเอง ยืนยันว่า เป็นคนใจสะอาด ไม่เคยทุจริต ไม่เหมือนบางคนที่สร้างตัวเองจนร่ำรวย

โดยยังไม่ได้บอกว่า จะไปพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ และอย่าเรียกว่าจะไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ ให้เรียกว่า "เฉลิมอิสระ" จะดีกว่า เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เคยแกล้งป่วย และไม่มีใครแตะเบรกผมได้นอกจากตัวเอง

อ่านข่าว "อนุทิน" ปัด "วัน อยู่บำรุง" ซบภูมิใจไทย แย้มอาจมาช่วยงาน มท.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เปิดบ้านริมคลองแถลงปมดรามา

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เปิดบ้านริมคลองแถลงปมดรามา

ท้าดีเบต "ทักษิณ" ลั่นบ้านพปชร.เหนือชั้นกว่า 

ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ตอนนี้แค่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่อยากได้ยิน และพร้อมจะดีเบตด้วย เพื่อย้อนความหลังว่า ช่วยเหลืออะไรกันบ้าง และอยากรู้ว่าสิ่งนายทักษิณ พูดจริงทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งตอนนายทักษิณอยู่ต่างประเทศ ก็คุยกันมาตลอด แต่เมื่อกลับมาเมืองไทยกลับไม่คุยกัน ที่ผ่านมาเคยทำคดีให้นายทักษิณ 7 คดี และคงต้องถามนายทักษิณ ว่าทำไมไม่คุย พร้อมพูดลอยๆ ว่า

ทักเอย ทักษิณ เกิดพายัพ แต่ไปชื่อทักษิณ

ย้ำว่า ไม่ได้ปิดประตูพูดคุย แต่ก็ไม่ได้อยากเปิด ต้องไปถามนายทักษิณ เอง และต่างไม่ได้มีบุญคุณต่อกัน แต่ฟ้าดินเท่านั้นรู้ ดังนั้นถ้าจะให้ประเทศไทยหยุดสักวันก็ให้ดีเบตกัน และนายทักษิณ คือคนเดียวที่อยากจะมีดีเบตด้วย เพราะต่างก็รู้ประวัติกันดี หากดีเบตจะสนุก

พร้อมพูดเชิงประชดว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไปเยี่ยม ไม่ได้ปราศรัยแต่เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวเองไม่เยี่ยม แม้จะปราศรัยหาเสียง แต่หลายครั้งก็ถูกปรับ

วัน อยู่บำรุง เข้าพรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคมาสวมเสื้อให้

วัน อยู่บำรุง เข้าพรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคมาสวมเสื้อให้

ท้า "ทักษิณ" ดีเบต 

อ่านข่าว เช็ก! เงื่อนไข "ดิจิทัลวอลเล็ต" ขั้นตอนลงทะเบียน "ทางรัฐ"

ทั้งนี้ไม่ขอบอกว่าพูดคุยอะไรกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บ้านของพล.อ.ประวิตร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวรู้จักกันมาเข้าปีที่ 30 แล้ว แต่ไม่เคยพูดคุยกันเลย เพิ่งจะได้พูดคุยกันในวันนั้น และพล.อ.ประวิตรให้การต้อนรับดี และเชื่อว่าบ้านพลังประชารัฐเหนือชั้นกว่ามาก

โดยส่วนตัวอายุมากแล้ว การตัดสินใจอะไรใช้ดุลพินิจเอง ทั้งนี้ยังไม่ขอตอบว่า หากพรรคเพื่อไทย ขับออกจากพรรคแล้ว จะย้ายเข้าพลังประชารัฐทันที เพราะติดที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ขับออก

อ่านข่าว เปิดใจ "วัน" ปมโบกลาเพื่อไทย-เลยจุดเคลียร์ใจ

โดยย้ำว่า ตัวเองเป็นตัวอันตรายไปอยู่ที่ไหนต้องมีใครได้-ใครเสีย และย้ำว่าคงประสานรอยร้าวกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้แล้ว และพรรคก็คงไม่เอาแล้ว และไม่แน่ว่า อาจจะขอเอกสิทธิ์สภาฯ อภิปรายอย่างอิสระคนเดียว ไม่ใช่ท้า แต่พร้อมทำงานในสถาฯ

นอกจากนี้ยังระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และเชื่อว่าโครงการจะไม่สำเร็จ หรืออาจจะมีเรื่องทางคดี พร้อมประเมินว่า สถานการณ์รัฐบาลมีโอกาสเจ๊ง อยู่ไม่ได้ครบ 4 ปี เพราะพกปืนคนละกระบอกอยู่ข้างหลัง แต่เป็นปืนพลาสติก รอคนพลาด

อ่านข่าว

ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาดคุณสมบัติ "เศรษฐา" ปมตั้งพิชิต 14 ส.ค.

"ศิริกัญญา" จี้รัฐบาลตอบให้ชัดแหล่งที่มาของเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"


กระสุนยิงไม่เข้า! เฉือนเสื้อเกราะโชว์ไร้ไม้อัดพบเลขจัดซื้อ 8A154338

Wed, 24 Jul 2024 16:47:00

วันนี้ (24 ก.ค.2567) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองสรรพาวุธ แถลงชี้แจงการตรวจสอบมาตรฐานเสื้อเกราะที่มีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้นำเสื้อเกราะดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ทาง วิทยาศาสตร์ ในห้องทดลองด้วยการวัดขนาด / ชั่งน้ำหนัก และส่องผ่านกล้องวีดีโอไมโครสโคป 3 มิติ พบว่า วัสดุภายในเป็นเส้นใย โพลีเอทิลีน ผสมกับเส้นใยพอลิสไตรลีน ที่ซ้อนทับกันกว่า 100 ชั้น

อ่านข่าว ยันตร.ไม่เคยจัดซื้อ "เสื้อเกราะไม้อัด" สั่งเช็กเฟกนิวส์

เสื้อเกราะกันกระสุนที่กองสรรพาวุธ นำมาเลื่อยโชว์

เสื้อเกราะกันกระสุนที่กองสรรพาวุธ นำมาเลื่อยโชว์

 

เส้นใยชนิดนี้มีคุณสมบัติ เหนียวแข็งแรง ทรงรูปได้ดี และทนต่อแรงกระแทก เมื่อนำไปทดลองยิงโดยใช้กระสุนจริง ขนาด 9 มม. ขนาด.357 และขนาด.45 พบว่าหัวกระสุนไม่สามารถทะลุผ่านเสื้อเกราะไปได้

ด้านพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ระบุว่า เสื้อเกราะดังกล่าว มีหมายเลขหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 จำนวน 650 ตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยสั่งซื้อมาใช้ในราชการ ช่วงปีพ.ศ.2553-2559

ทดลองใช้กระสุนจริงขนาด 9 มม. / ขนาด .357และ ขนาด  .45 พบว่าหัวกระสุนไม่สามารถทะลุผ่านเสื้อเกราะไปได้

ทดลองใช้กระสุนจริงขนาด 9 มม. / ขนาด .357และ ขนาด .45 พบว่าหัวกระสุนไม่สามารถทะลุผ่านเสื้อเกราะไปได้

 

ปัจจุบันหมดอายุการใช้งานไปแล้ว และอยู่ระหว่างการทำลายตามระเบียบราช การ ยืนยันว่าเสื้อเกราะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ในราชการเป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันความเที่ยงธรรมแห่งชาติ 

เกราะดังกล่าว มีหมายเลขซีเรียล 8A154338 จำนวน 650 ตัว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยสั่งซื้อมาใช้ในราชการ ช่วงปีพ.ศ.2553 ถึง 2559

เกราะดังกล่าว มีหมายเลขซีเรียล 8A154338 จำนวน 650 ตัว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยสั่งซื้อมาใช้ในราชการ ช่วงปีพ.ศ.2553 ถึง 2559

ด้านพ.ต.อ.วีระยุทธ หิรัญ รองผู้บังคับการกองสรรพาวุธ ยืนยันว่า กรณีที่มีภาพปรากฏในสื่อออนไลน์ว่าได้ตัดเสื้อเกราะออกมาพบว่าวัตถุภายในเป็นไม้อัดนั้น ยืนยันว่า ชิ้นส่วนไม้อัด ลักษณะสามเหลี่ยม ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเกราะที่มีหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้ที่นำมาเผยแพร่อาจต้องการให้ตำรวจ ที่ปฏิบัติงานเสียขวัญและกำลังใจ

เสื้อเกราะกันกระสุนที่กองสรรพาวุธ นำมาเลื่อยโชว์

เสื้อเกราะกันกระสุนที่กองสรรพาวุธ นำมาเลื่อยโชว์

อ่านข่าว

"กองสรรพาวุธ" ยืนยันไม่เคยจัดซื้อ "เกราะไม้อัดกันกระสุน"

“นายก” ร่วมพิธีศพ "รองหรั่ง" รองผกก.ท่าข้าม ที่วัดยางสุธาราม

 


ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาดคุณสมบัติ "เศรษฐา" ปมตั้งพิชิต 14 ส.ค.

Wed, 24 Jul 2024 11:19:00

วันนี้ (24 ก.ค.25697) ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและและเป็นที่สนใจ ดังนี้ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุนสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรมนูญ มาตรา 170 วรรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 17/2567)

สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 40 คน ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ 1) ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ 2) เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าผู้ถูกร้องที่ 2 ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากผู้ถูกร้องที่ 2 เคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5)

เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจมัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสามประกอบมาตรา 82 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของผู้ถูกร้องที่ 2 สำหรับกรณีของผู้ถูกร้องที่ 1 มีคำสั่งรับไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยผู้ถูกร้องที่ 1 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธธรรมญูแล้ว

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง

หากคู่กรณีประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 67 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562 ข้อ 24 ภายในวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 ส่วนคำร้องที่ผู้เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้รวมไว้ในสำนวนคดี

ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติในวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. นัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์


ผลลัพธ์บรรลุ! "ปิดดีลเขาใหญ่" วุฒิสภา-ราคาพลังงาน-กัญชา

Wed, 24 Jul 2024 07:14:51

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2567 มีภาพปรากฏบุคคลที่เป็นผู้นำการเมือง คนมีตำแหน่งทางการเมือง และกลุ่มทุนทางการเมือง ที่อาจจะสะท้อนได้ถึงภาพผลลัพธ์ทางการเมือง ทั้ง การเลือกตำแหน่งผู้นำสภาสูง การตรึงราคาพลังงาน หรือ ข้อสรุป เรื่อง "กัญชา" แต่ที่ได้ข้อสรุป จากภาพที่เห็นเด่นชัด คือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ที่เชื่อมถึงประเด็นการดึงพรรคชาติพัฒนาเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย

ภาพต่อมาสะท้อนความเป็นเนื้อเดียวกันของ "โคราช" ที่ "ไม่เห็นต่าง-ไม่ขัดแย้งและไม่แตกแถว" ระหว่างกลุ่มใหม่-ชาติพัฒนา กับกลุ่มบ้านใหญ่ "วังศุภกิจโกศล"

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจุดเริ่มแต่ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามโผ "ประธานและรองประธานวุฒิสภา" แล้วยัง "ตรึงราคาพลังงาน" เป็นไปตามข้อสังเกต "ดีลเขาใหญ่" ที่มีนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ซึ่งคนการเมืองเรียกว่า "กลุ่มทุน" อยู่ในภาพ และอยู่ในงานด้วย จากข้อมูลการตรึงราคาน้ำมัน มีการพูดคุยระหว่างหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กับนายทักษิณแล้วว่าต้องตรึงไว้เพื่อประชาชน ก่อนจะเดินหน้าเสนอร่างกฎหมายเพื่อปรับแก้ราคาพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันในเร็ว ๆ นี้

อีกประเด็น คือ ทางจบของ "กัญชา" แม้นายอนุทินจะยืนยันไม่จำเป็นต้องดีลกับนายทักษิณถึงเขาใหญ่ แต่งานนี้มีคนยืนยันว่าระหว่างที่นายอนุทินเจอกับนายทักษิณและคุยเรื่องนี้ อีกทาง นายกฯ เศรษฐา ก็คุยเรื่องนี้กับนายเนวิน ชิดชอบ ที่ กทม.เช่นกัน

เห็นได้จาก ก่อนประชุม ครม. ทั้งรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายอนุทิน ถกนอกรอบกับนายกฯ  หนึ่งในนั้นคือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แต่คุยเสร็จนายสมศักดิ์ก็กลับไปปฏิบัติภารกิจ-งานกระทรวงและให้สัมภาษณ์ว่า มี 2 ทางเลือก

ทางเลือกแรกคือประชุม ปปส.น่าจะจบแล้ว แต่รองนายกฯ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานกรรมการ ป.ป.ส. บอกไม่ทราบเรื่อง ส่วนทางเลือกที่ 2 คือการตราเป็นกฎหมายควบคุม "กัญชา" ซึ่งก็ค้างอยู่ในสภาฯ รวม 3 ฉบับ และทางเลือกนี้ นายอนุทิน ก็กล่าวขอบคุณนายกฯ ไปแล้ว

ท้ายที่สุด ดีลเขาใหญ่ จะมีผลลัพธ์ต่อการเมืองระหว่าง เพื่อไทย และ ภูมิใจไทย อย่างไร หลังศาลรัฐธรรมนูญคาดว่าจะนัดฟังคำวินิจฉัยถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ช่วง 14 ส.ค. เพราะจากนี้ไป "ภูมิใจไทย" คือพรรคอันดับ 2 ที่คุมเสถียรภาพรัฐบาล รวมถึงการคุมอำนาจในสภาสูงโดยกลุ่ม สว.สายสีน้ำเงิน

จับตาต้นเดือนสิงหาคมต่อไปว่าการเมืองไทยจะถึงจุดที่ต้องเปลี่ยน "นายกรัฐมนตรีคนใหม่" หรือไม่ นาทีนี้คงจะไม่เกินภาพ ที่มีการตั้งข้อสังเกตทางการเมืองกันจนเกิดปรากฏการณ์ "ดีลลับที่เขาใหญ่"

อ่านข่าวอื่น :

"ทักษิณ" เปิดดีลเขาใหญ่ คาดคุยพยุงราคาพลังงาน

จับตำรวจรีดเงินคนจีน 700,000 เร่งตามจับอีก 4 รวมพลเรือน


"สว.ของประชาชน" โหวต ประมุข-รองประมุข ตามโผเป๊ะ

Tue, 23 Jul 2024 19:57:00

เป็นไปตามคาดและกระแสข่าววงในก่อนหน้านี้ว่า นายมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และอดีตผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ จะได้รับการสนับสนุนเป็น "ประธานวุฒิสภา" คนใหม่

เช่นเดียวกับ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาค 4 จะได้รับโหวตหนุนให้นั่งตำแหน่ง "รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1"

และนายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ชุด 4 ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ เป็นประธาน กกต. ได้รับเลือกเป็น "รองประธานวุฒิฯ คนที่ 2"

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ (คนซ้าย) - มงคล สุระสัจจะ (คนกลาง) - บุญส่ง น้อยโสภณ (คนขวา)

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ (คนซ้าย) - มงคล สุระสัจจะ (คนกลาง) - บุญส่ง น้อยโสภณ (คนขวา)

อ่านข่าว : ใบสั่งสีน้ำเงิน "มงคล สุรัจสัจจะ" ประธานวุฒิสภา คนใหม่

ทั้งนี้ เนื่องจากประธานและรองประธานวุฒิที่ได้รับเลือก ถูกมองว่าเป็น สว.ในสาย "ค่ายใหญ่สีน้ำเงิน" ที่สามารถวางกลยุทธ์รับมือการเลือก สว.ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จนถึงระดับประเทศ ทั้งในการเลือกในกลุ่มเดียวกัน และเลือกไขว้ต่างกลุ่ม อย่างได้ผล กระทั่งถูกจัดแบ่งเป็นกลุ่ม สว.ค่ายใหญ่สีน้ำเงิน รวมกันได้มากกว่า 140-150 คนจาก สว.ทั้งหมด 200 คน

ประชุมวุฒิสภา

ประชุมวุฒิสภา

นายมงคล ถูกมองว่าเป็น "สายตรง" นักการเมืองใหญ่ในจังหวัด ขณะที่ พล.อ.เกรียงไกร ถูกมองว่าเป็น "พี่ชายสุดเลิฟ" ของนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งเช่นกัน ส่วนนายบุญส่ง แม้อาจไม่ชัดเจนว่าเป็นสาย "ค่ายใหญ่สีน้ำเงิน" แต่ได้รับการปฏิเสธจากกลุ่ม สว.ที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มและทางกลุ่มไม่ได้ส่งเข้าชิง

นายมงคล สุระสัจจะ

นายมงคล สุระสัจจะ

แต่ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า สว.ที่ได้รับเลือกไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งได้ออกหนังสือเตือน 2 ครั้ง ห้ามคนในพรรคยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเลือก สว.เด็ดขาด เพียงแต่ยอมรับว่า อาจมีบางคนที่รู้จักมักคุ้นกัน แต่ไม่เคยมีส่วนช่วยเหลือใด ๆ

ขณะที่กลุ่ม สว.ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ และถูกมองว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม ได้ส่งตัวแทนลงชิงทั้ง 3 ตำแหน่ง ต่างแพ้เรียบทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น รศ.นันทนา นันทวโรภาส อดีตคณบดีคณะสื่อสารการเมือง ม.เกริก ที่ลงชิงประธานวุฒิ หรือ ศาสตราภิชาน แล ดิลกวิทยรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์แรงงาน ที่ลงชิงรองประธานวุฒิฯ คนที่ 1 และนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม.ที่ลงชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิคนที่ 2

ประชุมวุฒิสภา

ประชุมวุฒิสภา

แม้ในการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนลงคะแนน จะเน้นเดินหน้าทำวุฒิสภาและ สว.ให้เป็นของประชาชน เปิดรับฟังและมีกิจกรรมร่วมกับประชาชน สว.รู้แค่ไหน ประชาชนจะได้รู้เท่ากัน จนได้เสียงเชียร์จากประชาชนผู้ติดตามการไลฟ์สดจำนวนไม่น้อย

รวมทั้ง สว.กลุ่มอิสระที่ร่วมลงเก้าอี้ ไม่ว่าจะเป็น นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตโฆษกพรรคความวังใหม่ ผศ.นพดล อินนา อดีตรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ และ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย นายปฏิมา จีระแพทย์ มือบริหารภาคเอกชนหลายองค์กร

เพราะสุดท้ายก็เป็นไปตามจำนวนเสียง สว.ที่โหวตเลือก ตามวิธีและครรลองที่สืบเนื่องกันยาวนาน คือฝ่ายไหนมีเสียงมากกว่า ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะ ไม่ได้ตัดสินกันที่วิสัยทัศน์หรือผลงาน

จึงเป็นการเริ่มต้น สว.ชุดใหม่ที่ดูจะไม่สวยงามนัก หากพิจารณาจากความคาดหวังของผู้คนทั่วไป และกูรูทางการเมือง ที่อยากจะเห็นการเริ่มต้นด้วยมิตรภาพ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มไหนก็พร้อมแสดงให้เห็นถึงการเป็น สว.ของประชาชน เปิดกว้างให้ สว.ต่างกลุ่ม ได้มีโอกาส "ร่วมด้วยช่วยกัน" แทนการกินรวบผูกขาดทุกตำแหน่ง

ประชุมวุฒิสภา

ประชุมวุฒิสภา

เพราะเท่ากับสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพ แบ่งกลุ่มแบ่งฝ่ายชัดเจน หวังเอาชนะคะคาน มุ่งสกัด สว.ต่างกลุ่ม หรือพร้อมทำตามผู้มีอำนาจ ดังที่ สว.หลายชุดถูกเปรียบเทียบไว้ แม้แต่ สว.ชุดก่อนหน้านี้ ที่แทบไม่มีการ "แตกแถว" ให้เห็น

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาจากการไลฟ์สด และความเห็นที่แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อผู้ได้รับการโหวตเลือก

เมื่อเริ่มต้นด้วยเสียงติดลบไม่สู้ดีแบบนี้ ต้องทำใจว่า "วุฒิสภา" ชุดใหม่ เหนื่อยแน่นอน

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ใบสั่งสีน้ำเงิน "มงคล สุรัจสัจจะ" ประธานวุฒิสภา คนใหม่

4 แคนดิเดตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 โชว์วิสัยทัศน์

"ที่สุด" ของเหตุการณ์น่าประทับใจในประวัติศาสตร์ "โอลิมปิก"

 


เปิดประวัติ "บุญส่ง น้อยโสภณ" รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2

Tue, 23 Jul 2024 19:15:00

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2567 ในการประชุมวุฒิสภา เลือก "รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2" โดยมีผู้ได้รับการเสนอชื่อจำนวน 4 คน ได้แก่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ, นายปฏิมา จีระแพทย์, ทพ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต และนางอังคณา ลีละไพจิตร ต่อมาผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 4 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที

สุดท้ายที่ประชุมมีมติเลือกให้ "บุญส่ง น้อยโสภณ" ดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ได้ 167 คะแนน ขณะที่ นางอังคณา 18 คะแนน, ทพ.พงษ์ศักดิ์ 8 คะแนน, นายปฏิมา 4 คะแนน งดออกเสียง 2 โดยมี สว. ลงคะแนนทั้งสิ้น 199 คน

ประวัติ บุญส่ง ว่าที่ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2

นายบุญส่ง เกิดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2491 ปัจจุบันอายุ 76 ปี สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

นายบุญส่ง ยังเคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ เช่น

ก่อนลงมติเลือก "รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 " ได้มีการกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม โดยนาบุญส่ง กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าประวัติการศึกษาและการทำงานมีความสำคัญ ซึ่งตนเองรับราชการตั้งแต่อายุ 17 ปี ตั้งใจสมัคร สว.เพื่อรับใช้ชาติ โดยเริ่มจากการเป็นทหารอากาศ อัยการ และผู้พิพากษา

พร้อมระบุว่า จะนำประสบการณ์การทำงานที่ผ่านงานทางด้านตุลาการ ด้านคณะกรรมการเลือกตั้ง รวมถึงประสบการณ์อื่น ๆ มาใช้ในการทำหน้าที่รองประธานวุฒิสภา โดยงานด้านกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และมั่นใจว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน

อ่านข่าว : "บุญส่ง" รอง ปธ.วุฒิฯ คนที่ 2 ส่งตรง สว.สายสีน้ำเงิน

ใบสั่งสีน้ำเงิน "มงคล สุรัจสัจจะ" ประธานวุฒิสภา คนใหม่

อนุ กมธ.ทวงหลักฐาน 9 ประเด็นร้อน "กรมประมง" ต้องพูดความจริงกรณี "ปลาหมอคางดำ"


กกต.แจงกรณี "กรพด" ไม่ถือเป็นลักษณะต้องห้าม สมัครเลือก "สว."

Tue, 23 Jul 2024 18:11:34

วันนี้ (23 ก.ค.2567) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กรณี ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญพัฒน์ ที่ถูกกังขาว่า เคยติดคุกและเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัคร รับเลือกเป็น สว. หรือไม่ และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครมาได้อย่างไรนั้น

อ่านข่าว : ใบสั่งสีน้ำเงิน "มงคล สุรัจสัจจะ" ประธานวุฒิสภา คนใหม่

สำนักงาน กกต. ชี้แจงว่าโดยหลักการผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร สว. และได้มีการตรวจสอบของผู้สมัคร สว. อำเภอเมืองระยอง กลุ่ม สื่อสารมวลชน

ในเบื้องต้นพบว่า ว่าที่ พ.ต.กรพด มีประวัติการถูกคุมขังในเรือนจำระยอง ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิ์สมัครรับเลือก สว. เนื่องจากต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังโดยหมายศาล ตามมาตรา 14 (8) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ปี 2561

สำนักงาน กกต. จึงได้มีหนังสือลงวันที่ 1 มิ.ย.2567 สอบถามผู้บัญชาการเรือนจำกลางระยอง ซึ่งได้มีหนังสือแจ้งการตรวจสอบในกรณีดังกล่าวว่า ว่าที่ พ.ต.กรพด ได้ถูกคุมขังตามหมายขังในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2561 และได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกัน ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดง ที่ 2549/2562 ให้ปรับ 5,000 บาท เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2562

ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ปี 2561 การถูกคุมขังตามหมายขังและคำพิพากษาของศาลดังกล่าว ไม่ถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็น สว.


"บุญส่ง" รอง ปธ.วุฒิฯ คนที่ 2 ส่งตรง สว.สายสีน้ำเงิน

Tue, 23 Jul 2024 18:07:00

วันนี้ (23 ก.ค.2567) เวลา 16.27 น. การประชุมวุฒิสภา เป็นการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 โดยมีผู้ได้รับการเสนอชื่อจำนวน 4 คน

ต่อมาผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 4 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที เริ่มต้นจากบุญส่ง ที่ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าประวัติการศึกษาและการทำงานมีความสำคัญ ซึ่งตนเองรับราชการตั้งแต่อายุ 17 ปี ปัจจุบันอายุ 75 ปี ตั้งใจสมัคร สว.เพื่อรับใช้ชาติ โดยเริ่มจากการเป็นทหารอากาศ อัยการ และผู้พิพากษา

ดร.ปฏิมา แสดงวิสัยทัศน์ว่า ปัจจุบันการทำงานในวุฒิสภา สิ่งสำคัญคือความรัก ความสามัคคี และอยากให้นึกถึงการช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งจะทำงานร่วมกับกรรมาธิการมากกว่า 1-2 คณะ เป็นการทำงานอย่างเปิดกว้าง เป็นกันเอง และสร้างสรรค์

ทพ.พงษ์ศักดิ์ แสดงวิสัยทัศน์ว่า ตนเองจะส่งเสริมความสามัคคีและการมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกกิจกรรม สร้างความโปร่งใสในการกระบวนการทำงาน พัฒนากฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ที่สำคัญคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยและต่างประเทศ

อังคณา ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์เป็นคนสุดท้าย โดยระบุว่า วุฒิสมาชิกชุดนี้ประกอบด้วยความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัยวุฒิ หน้าที่การทำงาน ในฐานะคนธรรมดาหากได้รับเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 จะเน้นย้ำประเด็นที่สร้างความเปลี่ยนแปลง โดยจะร่วมมือกับสมาชิกทุกคนในทำงานอย่างเป็นกลาง และเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้ประชาชนติดตามการทำหน้าที่แก้ปัญหาและแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ โดยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองไม่สามารถแยกจากกันได้ ซึ่งการเสนอร่างกฎหมายของประชาชนและแสดงออกอย่างสันติต้องได้รับความเคารพ

นอกจากนี้ เห็นว่าการสนับสนุนให้สมาชิกวุฒิสภาได้มีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการสามัญของสหภาพรัฐสภา โดยเป็นตัวแทนจากกลุ่มภูมิรัฐศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรี ผลักดันให้วุฒิสมาชิกหญิงของไทยมีโอกาสทำหน้าที่ในเวทีโลก ซึ่งความเสมอภาคทางเพศเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นพื้นฐานในการสร้างความเท่าเทียมในทุกเพศ ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถหลายคนไม่อยากเข้าสู่วงการเมือง เพราะนักการเมืองหญิงมักถูกด้อยค่า หรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในฐานะวุฒิสมาชิกต้องไม่อดทนต่อสิ่งเหล่านี้ และมีกลไกปกป้องการล่วงละเมิดดังกล่าว เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เห็นว่าสามารถสร้างการเมืองโปร่งใสและประสบความสำเร็จในฐานะนักการเมืองหญิงที่มีคุณค่า เป็นที่ยอมรับของสังคม

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเลือก "บุญส่ง น้อยโสภณ" ดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ได้ 167 คะแนน, อังคณา 18 คะแนน, ทพ.พงษ์ศักดิ์ 8 คะแนน, ดร.ปฏิมา 4 คะแนน, งดออกเสียง 2 ใบ ไม่มีบัตรเสีย และมีผู้ลงคะแนน 199 คน

อ่านข่าว : ใบสั่งสีน้ำเงิน "มงคล สุรัจสัจจะ" ประธานวุฒิสภา คนใหม่ 

"พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์" รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 

เปิดประวัติ "พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์" รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 

4 แคนดิเดตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 โชว์วิสัยทัศน์