ช้างตกใจเสียงพลุวิ่งชนคนกลางงาน จ.หนองบัวลำภู เจ็บ 5 คน

Sun, 19 Jan 2025 12:30:00

วันที่ 18 ม.ค.2568 จากเหตุการณ์ที่มี ชาย 4 คน นำช้างเร่ร่อนมาหาเงินภายในบริเวณ สักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ สนามนเรศวรมหาราช หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู และช้างได้ตกใจเสียงพลุเปิดงานประกวดสาวงามลุ่มภู ทำให้ช้างที่เดินหาเงินอยู่ภายในงานได้วิ่งชนผู้คนที่เดินเที่ยวงานอยู่จนล้มลงได้รับบาดเจ็บ 5 คน ซึ่ง ช้างได้ตกใจวิ่งหนีออกจากบริเวณงานไป โดยควาญช้างได้วิ่งตามไป ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 5 คน ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู อาการบาดเจ็บไม่มาก แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ทั้ง 5 คน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้ติดตามควาญช้างและช้างได้ที่ บ้านนาแค ต.ลำภู อ.เมืองหนองบัวลำภู ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2-3 กิโลเมตร นำตัวมาส่งให้กับ พ.ต.ต.คำแปลง ไชยรินทร์ ร้อยเวร สภ.หนองบัวลำภู ทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน นายเดชสุวรรณ ศรีหอม รักษาการหัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์สารสนเทศการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู และเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ ได้เดินทางมาแจ้งความผู้ที่นำช้างเคลื่อนย้ายมาโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายเดชสุวรรณ กล่าวว่า สำหรับอัตราโทษของการเคลื่อนย้ายสัตว์ไม่มีอนุญาต มีความผิด โดยอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่เจ้าของช้างบอกว่า เจ้าของช้างคือ นายรัตนชัย และเป็นเจ้าของรถที่นำช้างขึ้นรถมาเอง นำช้างมาถึงเมื่อเช้านี้ ช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างเพศผู้ อายุ 10 ปี ชื่อ พลายขุนทอง ซึ่งก็ไม่เคยพบลักษณะเหตุการณ์อย่างนี้ ตอนเกิดเหตุได้พยายามควบคุมช้างแต่ควบคุมไม่ได้ จึงได้วิ่งตามช้างไป จนเข้าไปในป่า

นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ระบุว่าหลังจากนี้ได้กำชับให้ผู้จัดงานประจำปีในพื้นที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดไม่ให้มีการนำช้างเร่ร่อนเข้ามาในพื้นที่เพื่อป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้แจ้งควาญช้างก่อนเริ่มงานไม่ให้มีการนำช้างเข้ามาแต่ยังพบว่ามีการลักลอบนำช้างเข้ามาภายในงานก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น

อ่านข่าว : 

ชายขี่จักรยานยนต์ชนช้างป่าน้ำตกคลองแก้ว เสียชีวิตเวลาต่อมา

ออกหมายจับผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิด-ยิงซ้ำครู ตชด. 2 พ่อลูก


ออกหมายจับผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิด-ยิงซ้ำครู ตชด. 2 พ่อลูก

Sat, 18 Jan 2025 18:37:25

วันนี้ (18 ม.ค.2568) ความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดและยิงซ้ำ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านตืองอ และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครูสอนวิชาเกษตร ที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

อ่านข่าว : อาลัย "พ่อ-ลูก" ครู ตชด.เสียชีวิตเหตุลอบวางระเบิด จ.นราธิวาส

ล่าสุด หน่วยงานความมั่นคงขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุ 2 คนคือ นายอับดุลเลาะ บูละ และนายอับดุลเลาะห์ สาเมาะ หลังเจ้าหน้าที่เก็บดีเอ็นเอจากจุดเกิดเหตุไปตรวจสอบพิสูจน์ทางกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ พบดีเอ็นเอตรงกับผู้ถูกออกหมายจับทั้ง 2 คน

จากการตรวจสอบประวัตินายอับดุลเลาะ บูละ พบถูกออกหมายจับคดีความมั่นคงมากถึง 14 หมาย ส่วนนายอับดุลเลาะห์ สาเมาะ มีหมายจับ 1 หมายคือ คดีลอบวางระเบิด ตชด.ที่ อ.ศรีสาคร เมื่อเดือ ม.ค.2567

ส่วนการติดตามผู้ก่อเหตุ ฝ่ายความมั่นคงส่งกำลังขึ้นไปบนเทือกเขาเมาะแต เขตรอยต่อ อ.จะแนะ และ อ.ศรีสาคร เพราะเชื่อว่าผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้เมื่อก่อเหตุแล้วอาจซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขา

อ่านข่าว

ราชกิจจาฯ ประกาศ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "อ.ยะหา จ.ยะลา"

ไฟไหม้โกดังสินค้า-โรงเลื่อยย่านบางโพ ลุกลามเสียหาย 4 บริษัท

ชายขี่จักรยานยนต์ชนช้างป่าน้ำตกคลองแก้ว เสียชีวิตเวลาต่อมา


ราชกิจจาฯ ประกาศ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "อ.ยะหา จ.ยะลา"

Sat, 18 Jan 2025 09:49:00

วันนี้ (18 ม.ค.2568) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2568 เห็นชอบให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา โดยใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติตามกฎหมายแทนเพื่อให้สามารถนำมาตรการตามกฎหมายดังกล่าวมาใช้ในการบริหารจัดการรักษาความสงบและความปลอดภัยให้เป็นไปโดยต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพ.ศ.2551 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2568 ดังต่อไปนี้

ให้เขตพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือหน่วยงานภายในที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมอบหมายให้เป็นศูนย์อำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และจัดทำแผนการดำเนินการในการบูรณาการ การกำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด

ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2568 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2568

ประกาศ ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2568
แพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี


รง.น้ำตาลอุดรฯ เตรียมเจรจา "กรมโรงงานฯ" เปิดรับซื้ออ้อยเผาตกค้าง

Fri, 17 Jan 2025 14:18:00

ความคืบหน้า กรณีกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี และโรงไฟฟ้าไทยอุดรธานี ในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัย และจากการตรวจสอบพบว่า โรงงานเปิดรับอ้อยไฟไหม้ปริมาณมากเกินกำหนด เป็นการฝ่าฝืนมติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย

ล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณลานรับซื้อโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ยังมีรถบรรทุกอ้อยจำนวนมากจอดเต็มบริเวณในพื้นที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่อรอให้โรงงานเปิดรับซื้ออ้อยเผาที่ตกค้าง เปิดรับซื้ออ้อยเผาหลังโรงงานถูกสั่งปิดเมื่อ 2 วันก่อน

ชาวไร่อ้อย ระบุว่า มารอนำอ้อยเผาเข้าโรงงานนานกว่า 2 วัน แต่โรงงานยังไม่สามารถรับซื้อได้ ขณะนี้กังวลว่า อ้อยจะได้รับความเสียหายเนื่องจากตกค้างนานเกินไป สุ่มเสี่ยงที่อ้อยจะเป็นเชื้อราหรืออ้อยเน่า และความหวานจะต่ำกว่า 10 CCS ซึ่งจะทำให้อ้อยที่ขนมาทั้งหมดจะต้องนำไปทิ้งและโรงงานจะไม่รับซื้อ

ตอนนี้ อยากให้โรงงานเร่งเปิดหีบอ้อยอีกครั้ง เพราะส่วนใหญ่เดินทางมารอขายอ้อยหลายวัน และในแต่ละวันก็มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวอย่างน้อยคนละ 100 - 150 บ.ที่สำคัญยังเสี่ยงที่อ้อยเผาจะเน่าเสีย ขายไม่ได้


ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงงานอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าชี้แจงและเจรจากรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อขอรับซื้ออ้อยไฟไหม้ที่ตกค้าง 1,200 คัน เข้าโรงงานจากวันละ 25 % เป็นวันละ 40 % เมื่ออ้อยไฟไหม้ตกค้างหมดแล้ว อ้อยที่เข้าโรงงานจะเป็นอ้อยสดทั้งหมด

อ่านข่าว : เสี่ยงระเบิด! ก.อุตฯ สั่งปิด รง.น้ำตาล-โรงไฟฟ้าไทยอุดรฯ 

เปิดสาเหตุยอดอ้อยเผาพุ่ง ส่งสัญญาณก่อนเปิดหีบอ้อย  

เบื้องหลังลงดาบ "ปิดโรงงานหีบอ้อย" รับซื้ออ้อยเผาเกินลิมิต

 

 


วอนหยุดกิน! เตือนภัยคนรักอาหารดิบเสี่ยงติด "พยาธิตืด"

Fri, 17 Jan 2025 07:11:00

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 คลิปจากเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว" เผยให้เห็นขณะที่บุคลากรการแพทย์กำลังคีบพยาธิออกจากปากของหญิงสูงอายุคนหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า "เหมาะสำหรับคนชอบกินดิบควรดูไว้ พวกซอยจุ๊ ซกเล็ก ลาบดิบ ถ้าเป็นตืดวัวจะยาว 5-10 เมตร ถ้าตืดหมู 2-4 เมตร" โดยจากคลิปจะเห็นว่าต้องใช้เวลามากกว่า 30 วินาทีถึงจะดึงพยาธิออกมาได้ทั้งตัว หลังจากกคลิปเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดมีการสอบถามประเด็นนี้กับ ผศ.ดร.ณัธคพัชฬ รัตนพิทูลย์ ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา โดยประเมินว่า พยาธิที่เห็นมีความเป็นไปได้มากสุดคือพยาธิตืดวัว หรือตืดหมู ซึ่งพยาธิตืดวัวจะมาจากการกินเนื้อวัวดิบ ส่วนพยาธิตืดหมูจะมาจากการกินเนื้อหมูดิบ แต่ในบ้านเราจะเจอพยาธิตืดวัวได้บ่อยกว่า

โดยผู้ที่กินเนื้อวัวดิบหรือเนื้อหมูดิบที่อยู่ในระยะติดต่อจะมีสิ่งที่เรียกว่า "เม็ดสาคู" ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงขาว ๆ คล้ายเม็ดสาคู แทรกอยู่ในเนื้อ ส่วนกรณีที่ต้องดึงพยาธิออกมาทางปากแบบในคลิป มีความเป็นไปได้ก็คือ ผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ แล้วอาเจียนออกมา หรืออาจมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จากการอุดตันของลำไส้

ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยโรคปรสิต ยังได้ฝากไปถึงพี่น้องประชาชนที่ชื่นชอบการกินเนื้อดิบ หมั่นให้แพทย์ส่งตรวจอุจจาระให้อย่างน้อย 1 ครั้ง/ปี และไม่แนะนำให้ไปซื้อยากินเอง แต่ถ้าจะซื้อยากินเองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ก็ขอให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพราะว่ายาแต่ละชนิดที่ใช้รักษาพยาธิมีความแตกต่างกันและมีผลข้างเคียง ปัจจุบัน ยังไม่มียาที่ใช้รักษาพยาธิได้ทุกชนิด

รู้จักพยาธิตืดหมู-ตืดวัว

พยาธิตัวตืดหมูและพยาธิตืดวัวเป็นปรสิตที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคน เราติดเชื้อพยาธิเหล่านี้ได้จากการรับประทานเนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่ปรุงไม่สุก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ ซึ่งมีตัวอ่อนของพยาธิซ่อนอยู่ เมื่อกินเข้าไป ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยในลำไส้ของคน ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร และในบางรายอาจมีอาการรุนแรงกว่านั้น เช่น อาการขาดสารอาหาร อ่อนเพลีย หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้

พยาธิตัวตืดหมูและพยาธิตืดวัวมีความแตกต่างกันเล็กน้อย พยาธิตืดหมูมีความยาวประมาณ 2-4 เมตร และมีอันตรายมากกว่าพยาธิตืดวัว เนื่องจากตัวอ่อนของพยาธิตืดหมูสามารถเข้าไปฝังตัวในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น สมอง ตา หัวใจ และกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงได้ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคตา และโรคกล้ามเนื้ออักเสบ ในขณะที่พยาธิตืดวัวจะอาศัยอยู่ในลำไส้เล็กเท่านั้น และมักไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง

เพื่อป้องกันการติดเชื้อพยาธิตัวตืด ควรรับประทานเนื้อสัตว์ให้สุกอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเนื้อหมูและเนื้อวัว ควรปรุงให้สุกด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดิบหรือสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์สับ หรือเนื้อสัตว์บด

อ่านข่าวอื่น :

17 ม.ค.เปิดจองสิทธิ์ "บ้านเพื่อคนไทย" เช็ก 4 ทำเลทอง

"คอร์ติซอล" ตัวการอ้วน เมื่อความเครียดทำ "พุงพุ่ง" แบบไม่รู้ตัว


เปิดสาเหตุยอดอ้อยเผาพุ่ง ส่งสัญญาณก่อนเปิดหีบอ้อย

Thu, 16 Jan 2025 16:26:09

สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เคยออกมาเปิดเผยรายชื่อโรงงานน้ำตาล 6 แห่งที่รับซื้ออ้อยถูกเผาในปริมาณ สูง คือ 1. โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี รับซื้ออ้อยถูกเผา 58.8%, 2.โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี รับซื้ออ้อยถูกเผา 41.68%, 3.โรงงานมิตรกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ รับซื้ออ้อยถูกเผา 35.66%

4.โรงงานน้ำตาลเอราวัณ จ.หนองบัวลำภู รับซื้ออ้อยถูกเผา 27.05%, 5.โรงงานไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ.สกลนคร รับซื้ออ้อยถูกเผา 26.99% และ 6.โรงงานรวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น รับซื้ออ้อยถูกเผา 20.06%

ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงานน้ำตาลของบริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด และโรงไฟฟ้าของบริษัท ไทยอุดรธานี เพาเวอร์ จำกัด ใน จ.อุดรธานี หลังตรวจสอบพบว่ามีการรับอ้อยเผาเข้าหีบสะสมสูงสุดจากโรงงานน้ำตาลทั้งหมด 58 โรงงาน คิดเป็น 43.11% ของปริมาณอ้อยทั้งหมด หรือกว่า 410,000 ตัน ทำให้รถอ้อยตกค้างกว่า 2,000 คัน หลังมาจอดรอขายอ้อยโดยไม่รู้ว่าจะได้ขายเมื่อไหร่และอ้อยเสี่ยงเน่าเสีย คาดว่ามูลค่ามากกว่า 54 ล้านบาท

ขณะที่ จ.อุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนการรับอ้อยเผาเข้าหีบสูงสุดของประเทศ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่สำหรับเกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างบอกว่า ปีนี้มีอ้อยเผาในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะหากย้อนไปปลายเดือน ต.ค.2567 เริ่มมีกระแสข่าวที่ส่งสัญญาญว่าปีการผลิต 2567/2568 เกษตรกรอาจเผาอ้อยเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพราะราคาอ้อยตกต่ำลง

อ่านข่าว : เบื้องหลังลงดาบ "ปิดโรงงานหีบอ้อย" รับซื้ออ้อยเผาเกินลิมิต

วันที่ 31 ต.ค.2567 ไทยพีบีเอส ได้รับข้อมูลจากชาวไร่อ้อยใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ระบุว่า ปีนี้ต้นทุนการปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นจากราคาปุ๋ย อีกทั้งในพื้นที่ยังประสบปัญหาภัยแล้งและค่าจ้างแรงงานตัดอ้อยก็ปรับขึ้น

สวนทางกับราคาอ้อยที่ต่ำลง มีการประมาณการราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 2567/2568 มีราคาเพียง 1,100 บาทต่อตันเท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาอ้อยขั้นต้นของปีที่ผ่านมา (2566/67) ที่มีราคาอยู่ที่ 1,420 บาท ซึ่งลดลงกว่า 300 บาท ในขณะที่ต้นทุนการผลิตอ้อยปี 2567/2568 อยู่ที่ประมาณตันละ 1,400 บาท จึงมีแนวโน้มที่เกษตรกรจะตัดอ้อยเผาเพื่อลดต้นทุน

ขณะที่ผู้รับจ้างตัดอ้อยใน อ.เชียงคาน จ.เลย กล่าวว่า การตัดอ้อยสดจะตัดยากและช้ากว่าตัดอ้อยไฟไหม้ เพราะต้องเสียเวลาสางใบ เมื่อเทียบราคาตัดอ้อยสดอยู่ที่ตันละ 240 บาท แต่หากเป็นอ้อยไฟไหม้ ค่าจ้างตกตันละ 130 บาท หลายพื้นที่จึงลักลอบเผาอ้อย เนื่องจากเกษตรกรต้องการลดค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิต แม้ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้เกษตรกรตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท แต่บางคนไม่ได้มีโควตากับโรงงานน้ำตาลโดยตรง เมื่อไม่ได้รับเงินสนับสนุน บางส่วนจึงเผาอ้อยและขายให้กับนายทุนที่เปิดลานรับซื้อ

ข้อมูลจาก สอน. พบว่า ประเทศไทยจะมีผลผลิตอ้อยในปีการผลิต 2566/2567 อยู่ที่ 82 ล้านตัน มีอ้อยไฟไหม้เกือบร้อยละ 30 และคาดการณ์ว่าปีการผลิต 2567/2568 จะเพิ่มเป็น 92 ล้านตัน ทำให้บางฝ่ายกังวลสถานการณ์อ้อยไฟไหม้ปีนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นตามปริมาณอ้อย

ประกอบกับข้อมูลจากนายสิทธิบูรณ์ รัชตะสุวิโรจน์ ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกษตรกรจะเผาอ้อยหรือไม่เผา นอกจากราคาแล้ว เงินช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาทก็เป็นปัจจัยสำคัญ

ในช่วงเดือน ธ.ค.2567 ชาวไร่อ้อยใน จ.เลย เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ปีการผลิต 2566/2567 ตามที่รัฐบาลเคยเห็นชอบในมาตรการจูงใจให้ชาวไร่ตัดอ้อยสดแทนการเผา เพื่อลดฝุ่นมลพิษ PM2.5 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งหากไม่มีการจ่ายเงินช่วยเหลือส่วนนี้อาจทำให้เกษตรกรหันไปเผาอ้อยเพื่อลดต้นทุน

นี่คือการทวงสัญญาจากรัฐบาล โดยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2566 น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรมในขณะนั้น เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ในโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท คาดว่ามีชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 คน

ทั้งนี้ โครงการฯ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวไร่อ้อยและส่งผลต้นทุนการผลิตอ้อยปรับตัวสูงขึ้น โดยการสนับสนุนตัดอ้อยสดครั้งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน ม.ค.2567 เพี่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวไร่อ้อย แต่สุดท้ายก็ไม่มีการพิจารณาและจ่ายเงินจริง

อ่านข่าว : "แพทองธาร" ขันน็อตรายกระทรวงแก้ฝุ่น PM2.5 รายงานตรง

นายบรรจง สุขกุล ชาวไร่อ้อยรายใหญ่ จ.เลย กล่าวว่า หลังทราบข่าว ครม.เห็นชอบเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดในปี 2566 เขาตัดสินใจกู้เงินซื้อเครื่องจักรสางใบอ้อยและรถตัดอ้อย เพื่อจะไม่ต้องตัดอ้อยเผา เพราะหากมีเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท เขาจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท สุดท้ายปีนี้ยังไม่ได้เงินและเขาต้องแบกรับหนี้สิน

มีข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก "โรงงานน้ำตาลแห่งประเทศไทย" อ้างได้รับข้อมูลว่า บางพื้นที่มีการบิดเบือนตัวเลขอ้อยสดและอ้อยเผาที่โรงงานน้ำตาลรับซื้อ และขอให้ สอน.สุ่มตรวจสอบโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความลำเอียงหรือเลือกปฏิบัติ

ด้านเสียงสะท้อนจากเกษตรกรชาวไร่อ้อย มองว่า การที่โรงงานน้ำตาลจะรับซื้อเฉพาะอ้อยสดถือเป็นการบีบชาวไร่อ้อยมากเกินไป เพราะราคาที่ตกต่ำก็ทำให้แทบไม่ได้กำไร ขณะที่การช่วยเหลือยังคงอยู่ที่ชาวไร่อ้อยรายใหญ่ที่มีโควตาขายอ้อยให้โรงงานน้ำตาลและมีอำนาจต่อรอง สามารถทำกำไรจากการขายอ้อยได้มากกว่า ดังนั้นนโยบายที่จะแก้ปัญหาอ้อยเผาจะต้องคำนึงถึงการอยู่รอดเกษตรกรรายย่อยด้วย

อ่านข่าว

เสี่ยงระเบิด! ก.อุตฯ สั่งปิด รง.น้ำตาล-โรงไฟฟ้าไทยอุดรฯ

ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 พื้นที่ กทม. แนวโน้มเพิ่มขึ้นสลับลดลง

กกต.ออกประกาศ "การถอนชื่อ-เพิ่มชื่อ" ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อบจ.


เจ้าท่าฯ ภูเก็ต สั่งเร่งกู้ เรือใบล่มภายใน 15 วัน

Tue, 14 Jan 2025 11:54:00

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเรือใบล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ขณะไปดำน้ำบริเวณเกาะราชา จ.ภูเก็ต โดยทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งได้แล้วอย่างปลอดภัย

ล่าสุด วันนี้ (14 ม.ค.2568) นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ประสานเรือต่าง ๆ ที่อยู่ข้างเคียงและศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเข้าให้การช่วยเหลือ และได้ออกประกาศชาวเรือให้ระมัดระวังการเดินเรือ หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินเรือ โดยเฉพาะบริเวณที่เรือจม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

วานนี้ (13 ม.ค.68) เกิดเหตุเรือใบล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ขณะไปดำน้ำบริเวณเกาะราชา จ.ภูเก็ต โดยทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งได้แล้วอย่างปลอดภัย

วานนี้ (13 ม.ค.68) เกิดเหตุเรือใบล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ขณะไปดำน้ำบริเวณเกาะราชา จ.ภูเก็ต โดยทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งได้แล้วอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้เจ้าของเรือกู้เรือภายใน 15 วัน และเนื่องจากบริเวณที่มีเรืออับปางนั้นน้ำลึกประมาณ 40 ม.ซึ่งลักษณะของเรือใบล่มในแนวตั้ง หากรวมความสูงและเสาเรือรวมไม่ต่ำกว่า 30 ม. และเรืออาจลอยขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นอันตรายกับเรือที่สัญจรไป-มา

นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต

นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต

สำหรับเรือเอมี่เรย์ 888 มีใบอนุญาตใช้เรือถูกต้องและหมดอายุในวันที่ 24 เม.ย.นี้ เป็นเรือคาตามารัน 2 ท้อง ใช้เครื่องยนต์ดีเซล มีขนาด 45 แรงม้าต่อเครื่อง และขนาดของถังน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ใหญ่นัก สอบถามทางเจ้าของเรือได้มีการปิดวาล์วแล้ว ปริมาณน้ำมันประมาณ 100 ลิตร ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

อ่านข่าว : เรือใบล่ม เกาะราชา จ.ภูเก็ต ช่วย 38 ชีวิตปลอดภัย 

จนท.ระดมกำลังค้นหา นทท.เกาหลีใต้ สูญหาย เหตุเรือล่ม เกาะพะงัน  

ยังไม่พบร่าง นทท.ต่างชาติ 1 คนเรือล่มเขื่อนเชี่ยวหลาน 

 

 

 


อาลัย "พ่อ-ลูก" ครู ตชด.เสียชีวิตเหตุลอบวางระเบิด จ.นราธิวาส

Tue, 14 Jan 2025 11:35:00

วันนี้ (14 ม.ค.2568) เวลา 09.50 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์กระบะ ขณะวิ่งอยู่บนถนนเส้นศรีสาคร-จะแนะ บ้านไอร์กือเนาะ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 2 คน คือ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 56 ปี เป็นครูใหญ่ รร.ตชด.บ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 ต.ศรีบรรพต จ.นราธิวาส และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35 ปี ลูกชายของ พ.ต.ท.สุวิทย์

เบื้องต้น สภ.ศรีสาคร ได้แจ้งไปยังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ให้ทำเส้นทางปลอดภัย เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ เข้าชันสูตรพลิกศพ จากการตรวจสอบโดยโดรนจากฝ่ายทหาร ทราบว่าตำรวจทั้ง 2 นาย เดินทางด้วยรถยนต์กระบะส่วนตัว ออกจากโรงเรียน ตชด.บ้านตืองอ มุุ่งหน้า อ.ศรีสาคร เพื่อที่จะไปซื้อของ

ทั้งนี้ รร.ตชด.บ้านตืองอ มีครู ตชด.ทั้งหมด 13 คน นักเรียน 120 คน

อ่านข่าว : ด่วน! ระเบิดกลางเมืองปัตตานี อส.เจ็บหลายนาย 

คาด จยย.บอมบ์ปัตตานี สร้างสถานการณ์ทำร้ายเจ้าหน้าที่ 

เรือใบล่ม เกาะราชา จ.ภูเก็ต ช่วย 38 ชีวิตปลอดภัย 


เรือใบล่ม เกาะราชา จ.ภูเก็ต ช่วย 38 ชีวิตปลอดภัย

Mon, 13 Jan 2025 15:45:12

วันนี้ (13 ม.ค.2568) เจ้าหน้าที่ รับแจ้งเหตุมีเรือใบ ชื่อเรือ เอมิเรย์ 888 พร้อมคนบนเรือจำนวน 38 คน ประกอบด้วย นักท่องเที่ยวชาวจีน 33 คน , มัคคุเทศก์ 2 คน , ลูกเรือ 3 คน นำนักท่องเที่ยวทั้งหมด ออกเดินทางจากท่าเรือฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต มุ่งหน้าเพื่อไปท่องเที่ยวบนเกาะราชา แบบ (One day trip) ระหว่างทางได้เกิดเหตุน้ำเข้าเรือ ทำให้เรือค่อย ๆ จมทางทิศเหนือของเกาะราชา ห่างจากฝั่ง 1.6 ไมล์ทะเล

ต่อมา ศูนย์ช่วยเหลือฯได้ประสานเจ้าหน้าที่และเรือตรวจการณ์ รวมถึงเรือเร็วท่องเที่ยวจากหลายบริษัทที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารบนเรือทั้งหมดได้ทันท่วงที ทำให้นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารบนเรือทั้งหมดปลอดภัยดี

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรือเข้าน้ำและทำให้เรือล่มในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบอีกครั้งล่าสุดทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการประสานไปยังกงสุลจีนเพื่อแจ้งให้รับทราบว่าพลเมืองทั้งหมดปลอดภัยดี 

อ่านข่าว : จนท.ระดมกำลังค้นหา นทท.เกาหลีใต้ สูญหาย เหตุเรือล่ม เกาะพะงัน 

พบร่าง 2 นักเรียนชาย ม.3 เรือล่มขณะพายเล่นในคลองหน้าวัด 

ยังไม่พบร่างนทท.ต่างชาติ 1 คนเรือล่มเขื่อนเชี่ยวหลาน  

 

 

 

 


ศาลฯตัดสินจำคุก "ส.ต.ท." 16 เดือน ไม่รอลงอาญา คดี สุนัข "เตี้ย มช."

Mon, 13 Jan 2025 15:08:00

ความคืบหน้าคดี "เตี้ย มช." สุนัข ที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ที่ตาย โดยคดีนี้ ส.ต.ท.ปริญญา สังกัด ตชด.ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รับสารภาพว่า ตั้งใจพา "เตี้ย มช." ออกไปนั่งรถเล่น แต่เกิดอุบัติเหตุรถทับจนทำให้ "เตี้ย มช." ตาย  

จนต่อมา ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่จำเลยใช้สิทธิอุทธรณ์ โดยขอประกันตัวออกไปในวงเงิน 150,000 บ. และศาลอุทธรณ์ได้นัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 29 ต.ค.67 และ ศาลฯเลื่อนการพิจารณาและได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (13 ม.ค.68)

ล่าสุด วันนี้ (13 ม.ค.2568) ศาลอุทธรณ์ ภาค 5 พิพากษาจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โดยจำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือ 1 ใน 3 คงจำคุก 12 เดือน ขณะที่ข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ลดโทษเหลือ 1 ใน 3 คงจำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน

นอกจากนี้ ศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ยังพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายต่อ ม.เชียงใหม่ ในฐานะเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ดูแล สุนัข "เตี้ย มช." เป็นจำนวนเงิน 100,000 บ. หลังทราบคำพิพากษาทำให้ กลุ่มคนรักสุนัขเตี้ย มช.และ มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ โผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ

ที่มา : เพจ เตี้ย มช.

ที่มา : เพจ เตี้ย มช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาผู้ต้องหา ในความผิดข้อหาทารุณกรรมสัตว์ โทษจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง  

ประธานและหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ระบุว่า คดีของ สุนัข "เตี้ย มช." เป็นกรณีตัวอย่างในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสัตว์ เนื่องจากการทารุณกรรมสัตว์ยังคงเป็นปัญหาที่พบเห็นได้อยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

คดีนี้ได้มีการส่งหลักฐานข้อเท็จจริงให้ศาลฯที่แสดงให้เห็นว่า สุนัข "เตี้ย มช." เป็นสุนัขที่มีเจ้าของ อาศัยอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยโดยมีการให้อาหาร ฉีดวัคซีน ทำหมัน ตรวจสุขภาพประจำปีและฝังไมโครชิบ จึงมีการเพิ่มข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนด้วย  

ที่มา : เพจ เตี้ย มช.

ที่มา : เพจ เตี้ย มช.

สำหรับ สุนัข "เตี้ย มช." เป็นสุนัขเพศ ผู้อายุ 8 ปี อาศัยอยู่ใน มช.เป็นที่รู้จักจากประเพณีรับน้องขึ้นดอยของ ม.เชียงใหม่ ในทุก ๆ ปี โดย "เตี้ย มช." จะร่วมกิจกรรมวิ่งขึ้นดอยกับนักศึกษาด้วย

อ่านข่าว : ศาลฯเลื่อนนัดพิจารณาคดี "เตี้ย มช." ไปเป็นวันที่ 13 ม.ค.68 

เศร้า! "เตี้ย มช." สุนัขแสนรู้วิ่งขึ้นดอยตายแล้ว 

ศาลเชียงใหม่สั่งจำคุก ส.ต.ท. 6 เดือนไม่รอลงอาญาคดี "เตี้ย มช." 

 

 

 


คาด จยย.บอมบ์ปัตตานี สร้างสถานการณ์ทำร้ายเจ้าหน้าที่

Mon, 13 Jan 2025 12:05:02

วันนี้ (13 ม.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุการณ์ระเบิดภายในซอยปัตตานีรามา ระหว่าง สภ.เมืองปัตตานี กับอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี (TK Park) ถนนปัตตานีภิรมย์ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างสถานการณ์

ผู้ก่อเหตุบรรจุระเบิดไว้ภายในรถจักรยานยนต์และนำไปจอดไว้ในซอยใกล้กับ สภ.เมืองปัตตานี ก่อนจุดชนวนขณะเจ้าหน้าที่เตรียมปล่อยแถวรักษาความปลอดภัยตามปกติในช่วงเช้า เป็นเหตุให้อาสาสมัครรักษาดินแดนได้รับบาดเจ็บ 6 นาย

อ่านข่าว : ด่วน! ระเบิดกลางเมืองปัตตานี อส.เจ็บหลายนาย

การสอบสวนทราบว่า ช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายคือ ตำรวจ อส.และฝ่ายปกครอง จำนวน 30 นาย เตรียมตัวเพื่อปล่อยแถวสายตรวจ บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติทุกวัน ขณะที่รอการเข้าแถว เจ้าหน้าที่บางส่วนได้รออยู่บริเวณในซอยที่เป็นจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งอาวุธ เครื่องแบบ รวมถึงอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่

เบื้องต้นเชื่อว่า ก่อนเจ้าหน้าที่จะรวมตัวกัน ผู้ก่อเหตุได้ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในรถจักรยานยนต์ แล้วนำรถไปจอดในซอยซึ่งอยู่ระหว่าง สภ.เมืองปัตตานี กับ TK Park จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขึ้นรถจักรยานยนต์อีกคันหลบหนีเพื่อซุ่มดูเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง และเจ้าหน้าที่บางส่วนได้มาอยู่บริเวณรถจักรยานยนต์บอมบ์ ผู้ก่อเหตุจึงกดฉนวนระเบิดดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ระแวกใกล้เคียงต่างตกใจและรีบออกจากบ้านทันที

อ่านข่าว

Eason Chan ยกเลิกคอนเสิร์ต - ทัวร์จีนยกเลิกปมไทยไม่ปลอดภัย

กสทช.เรียกผู้นำเข้าโทรศัพท์ติดตั้งแอปฯ กู้เงิน ให้ข้อมูล 13 ม.ค.

 

 


ด่วน! ระเบิดกลางเมืองปัตตานี อส.เจ็บหลายนาย

Mon, 13 Jan 2025 09:17:00

วันนี้ (13 ม.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดในซอยปัตตานีรามา เขตเทศบาลเมืองปัตตานี จ.ปัตตานี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ

มีรายงานว่า อส.สังกัดกองร้อย อส.เมืองปัตตานีที่ 2 ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย นำตัวส่งโรงพยาบาล

1. อส.บุญเลิศ แสงสุวรรณ 
2. อส.ภานุวัตร ใหม่รักษา 
3. อส.บันเทิง นวลมิ่ง 
4. อส.มะตอเปด แวกูโน
5. อส.มะตอเฮ สาและ
6. อส.เจ๊ะโซ๊ะ มามะ

ขณะที่โลกออนไลน์ได้แชร์เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว โดยผู้ใช้งานคนหนึ่งระบุว่า "ปัตตานีบ้านฉันเช้ามาก็ดังเลย ระเบิดมาแต่เช้า" ส่วนเฟซบุ๊ก ที่นี่...ปัตตานี || (ถามตอบ พูดคุย แจ้งข่าว) โพสต์ว่าเสียงอะไร "ดังมาก สะเทือนเหมือนระเบิด ไม่ทราบว่าเสียงมาจากไหน" 

ส่วนเพจเฟซบุ๊ก กู้ชีพ - กู้ภัยแม่ทับทิมยะลา - ตุ๋ยบ้วยเต็งเหนี่ยง โพสต์ว่า "ด่วน ! เกิดเหตุระเบิดซอยหลัง TK เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน"

นอกจากนี้จากการตรวจสอบจุดที่เกิดระเบิด พบว่าเป็นซอยที่อยู่ระหว่างอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี (TK Park) กับ สภ.เมืองปัตตานี ตรงข้ามกับ ปภ.ปัตตานี

อ่านข่าว

กสทช.เรียกผู้นำเข้าโทรศัพท์ติดตั้งแอปฯ กู้เงิน ให้ข้อมูล 13 ม.ค.

ฝุ่นเกินเกณฑ์ "สีส้ม" 30 พื้นที่ กทม. "เขตคลองสามวา" วัดได้สูงสุด

ยืนกราน "ยุน ซอก-ยอล" ไม่เข้าร่วมการพิจารณาคดีถอดถอนนัดแรก


รัฐเร่งแก้ ผู้สูงวัยแบกภาระค่าใช้จ่าย "บ้านพักคนชรา" ดูแลตัวเอง

Mon, 13 Jan 2025 08:34:00

วันนี้ (13 ม.ค.2568) บ้านพักที่แยกเป็นหลัง ๆ ที่เปิดบริการเป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ภายในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบ้านลลิสาเนอร์ซิงโฮม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในสถานประกอบการบ้านพักคนชราเอกชนจำนวนหลายสิบแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดดูแลผู้สูงอายุ โดยคิดค่าใช้จ่ายตามโปรแกรมหรืออาการป่วยของผู้สูงอายุ

อาทิ โปรแกมดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต และอัลไซเมอร์ โดยคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ หลังละ 60,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้บริการว่าจะอยู่หลังละ 1 คน หรือ 2 คน ซึ่งหากอยู่ 2 คน ก็จะเสียค่าบริการคนละ 30,000 บาท/เดือน

บุญศิริ มหากันธา ผู้สูงอายุชาวเชียงใหม่ อดีตข้าราชการครู บอกว่าการตัดสินใจมาอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งนี้ ใช้เงินบำนาญเดือนละ 20,000 บาท และเงินจากญาติและบุตรหลานช่วยกันสมทบ จ่ายค่าบริการเดือนละกว่า 30,000 บาท เพื่อแลกกับการได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากที่บ้านไม่มีคนดูแล

อธิพร พูลสวัสดิ์ ผู้บริหารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านลลิสาเนอร์ซิ่งโฮม บอกว่า ผู้สูงอายุที่เข้ามาอยู่ที่นี่เกือบทั้งหมดเกิดจากปัญหาขาดคนดูแล สถานประกอบการแห่งนี้ จึงเน้นให้ผู้เข้ารับบริการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ได้รับอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพจากอาการป่วย โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

ขณะที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพา เซโกะแคร์ ในพื้นที่ ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานบริการดูแลผู้สูงอายุในเชียงใหม่ ที่ได้รับความสนใจจากญาติและบุตรหลานที่ไม่มีเวลาดูแล นำผู้สูงอายุเข้าใช้บริการเนื่องจากไม่อยากให้อยู่เพียงลำพัง และต้องการให้มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด จึงต้องยอมแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูง โดยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพาแห่งนี้ คิดค่าบริการตามโปรแกมหรือตามอาการป่วยของผู้สูงอายุ โดยเริ่มต้นที่ 21,900 บาท/คน/เดือน

ราคาที่พักต่อเดือนในหลักหมื่นบาท เป็นข้อจำกัดสำคัญของผู้สูงอายุที่ไม่ได้มีรายได้ประจำ ไม่มีเงินบำนาญ ไม่มีเงินออม หรือไม่มีลูกหลานดูเเล คนกลุ่มนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพึ่งพาสถานที่ดูเเลที่เป็นสวัสดิการของรัฐซึ่งปัจจุบันมีไม่เพียงพอ

ขณะที่ประชากรไทย 66 ล้านคน กว่าร้อยละ 20 เป็นผู้สูงอายุกว่า 13 ล้านคน ที่รัฐต้องมีสวัสดิการดูเเล ซึ่งด้านที่อยู่อาศัย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ สำรวจพบว่าที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยที่เปิดบริการรวม 916 โครงการ

แบ่งเป็นเนอร์สซิงโฮม (Nursing Home) จำนวน 832 โครงการ และ Residence จำนวน 84 โครงการ โดยส่วนใหญ่โครงการดังกล่าวจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีจำนวนรวมกันถึง 516 โครงการ รองรับได้จำนวน 31,851 หน่วย/เตียง

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ นักวิชาการอิสระด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเมือง เเละ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า จำนวนเเละราคาจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาลที่จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณใหม่เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้นทุกวัน ได้มีสวัสดิภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลายชีวิต

ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง น่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนของผู้ประกอบการเอกชน แต่ปัจจัยเรื่องค่าเช่า อัตราค่าเช่าพักที่ค่อนข้างสูง ยังเป็นข้อจำกัดให้ผู้สูงอายุจำนวนมากไม่มีโอกาสได้รับการดูแล การลงทุนโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุที่มาจากภาครัฐ น่าจะแก้ปัญหาจุดนี้ได้ดีกว่า และยังสามารถเพิ่มจำนวนหน่วยการพักอาศัยได้มากกว่า หากรัฐบาลจริงจังกับการให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยอย่างแท้จริง

อ่านข่าวอื่น :

ยืนกราน "ยุน ซอก-ยอล" ไม่เข้าร่วมการพิจารณาคดีถอดถอนนัดแรก

หนาวจัด ดื่มสุราทุกวัน คาดสาเหตุทำชายเสียชีวิตในบ้าน


หนาวจัด ดื่มสุราทุกวัน คาดสาเหตุทำชายเสียชีวิตในบ้าน

Mon, 13 Jan 2025 07:01:00

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2568 ตำรวจสภ.พิมาย จังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบสภาพศพชายคนหนึ่ง ที่บ้านกอก ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

ทราบชื่อคือนายประเวทย์ ตะบองทอง อายุ 53 ปี สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนยาว กางเกงขายาว มือทั้ง 2 ข้าง กำแน่นอยู่ที่หน้าอก ตรวจดูตามร่างกายไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้าย สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุจากการเสียชีวิตที่แท้จริง

จากการสอบถามนางสังวาล ระเบียบธรรม อายุ 78 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า สามีไม่มีโรคประจำตัว แต่ชอบดื่มสุราเป็นประจำ ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค. เห็นสามีเดินออกจากบ้านเพื่อไปปัสสาวะอยู่ในสวน แต่ไม่กลับเข้ามา จนรุ่งเช้าก็พบว่าสามีนอนเสียชีวิตอยู่ในสวนหลังบ้าน ครอบครัวคิดว่าอากาศที่หนาวเย็นก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหรือไม่ เพราะกลางคืนมีลมแรง

ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพชาย วัย 54 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นอนเสียชีวิตในบ้านปริศนา

นางอนงค์ ศรีอินทร์อ่อน อายุ 57 ปี พี่สาว มาเจอเมื่อช่วงเช้าวานนี้ แต่จากการสังเกตผู้ตายนอนตัวแข็ง ไม่ห่มผ้า ทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวถึง 12 องศาเซลเซียส ครอบครัวคาดว่าอาจจะมาจากสภาพอากาศที่หนาวจัด และไม่ได้ห่มผ้าอาจทำให้เสียชีวิต

ด้าน พ.ต.ท.อภิชา เตียงประโคน สารวัตรสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่าจากการสอบสวน ผู้ตายไม่มีเรื่องบาดหมางกับใคร ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย แต่จากประวัติดื่มสุราเป็นประจำทุกวัน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตได้ส่งศพ ให้แพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

"สุราคลายหนาว" ความเชื่อผิด ๆ อันตรายถึงชีวิต

ความเชื่อที่ว่าการดื่มสุราจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงอากาศหนาวนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมาก และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แม้จะเป็นความเชื่อที่พบเห็นได้บ่อยในสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงหรือชนบทที่อากาศหนาวเย็น แต่ความจริงแล้วการดื่มสุราในสภาพอากาศหนาวกลับส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าจะช่วยให้คลายหนาว

เมื่อดื่มสุรา ร่างกายจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นในช่วงแรก เนื่องจากหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น แต่ความรู้สึกอบอุ่นนี้เป็นเพียงความรู้สึกชั่วคราวเท่านั้น เพราะในขณะเดียวกัน หลอดเลือดที่ขยายตัวก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนออกมามากขึ้นด้วย ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว หากอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังไปกดประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายสูญเสียความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ดีขึ้น ผู้ที่ดื่มสุราในปริมาณมากในสภาพอากาศหนาวเย็น อาจหลับไปโดยไม่รู้ตัวและเสียชีวิตได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถรักษาอุณหภูมิให้คงที่

ความเชื่อผิด ๆ นี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้คนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ทำงานกลางแจ้งในสภาพอากาศหนาวเย็น

ข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระบุอย่างชัดเจนว่าการดื่มสุราเพื่อคลายหนาวเป็นข้อมูลที่ผิด และอาจนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ดังนั้น ในช่วงฤดูหนาว ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น ดื่มน้ำอุ่น และออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นแทนการดื่มสุรา

อ่านข่าวอื่น :

ดับแล้วไฟป่าเขาเสียดอ้า เสียหายกว่า 1,700 ไร่ เฝ้าระวังปะทุซ้ำ

สภาพอากาศวันนี้ อากาศหนาวเย็นทั่วประเทศ "เลย" ต่ำสุด 6 องศาฯ

 


จับ นอภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เรียกรับเงินผู้รับเหมา

Fri, 10 Jan 2025 15:22:00

วันนี้ (10 ม.ค.2568) นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมายให้ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต

ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สมศักดิ์ เนียมเล็ก ผกก.5 บก.ปปป. และนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักงาน ป.ป.ช. ติดตามจับกุม นาย ว. (นามสมมุติ) นายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 1/68 ลงวันที่ 8 ม.ค.2568 ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น

เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”

และ นาง อ. (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 2/68 ลงวันที่ 8 มกราคม 2568 ในความผิดฐาน “สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจ ให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”

สืบเนื่องจากประมาณเดือน พ.ค.2567 ผู้เสียหายได้ทำสัญญาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการ ราคาจ้างเหมา 500,000 บ. มีนายอำเภอเหนือคลอง เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงนามเป็นผู้ว่าจ้างโครงการ

ต่อมาช่วงต้นเดือน มิ.ย.2567 นายอำเภอเหนือคลอง ผู้ต้องหาที่ 1 ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังก่อสร้างตามสัญญาจ้างและบอกว่า “เสร็จงานแล้ว ให้นาย 50,000 นะ” กระทั่งเมื่อการก่อสร้างโครงการตามสัญญาเสร็จสิ้น มีการตรวจรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา ผู้กล่าวหาได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว

ต่อมาช่วงประมาณปลายเดือน พ.ย.2567 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.โคกยาง ได้โทรศัพท์บอกกับผู้เสียหายว่า ผู้ต้องหาที่ 1 ฝากมาบอกให้นำเงินไปให้ ถ้าไม่ยอมก็ให้ผู้เสียหายไปเอาหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนาง อ. (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ทำหน้าที่หน้าห้องปลัดอาวุโส อ.เหนือคลอง เกี่ยวกับเรื่องเงินดังกล่าว แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ผู้เสียหายจึงไปหาผู้ต้องหาที่ 1 ตามกำหนดนัดแต่ไม่พบ

ระหว่างนั้นก็มีบุคคลโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายแจ้งว่า ผู้ต้องหาที่ 1 ให้นำเงินไปให้จำนวนหลายครั้ง ผู้กล่าวหาจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกระบี่

จากนั้นได้ร่วมกันวางแผนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหาที่ 1 ด้วยการให้ผู้เสียหายนำเงินบางส่วน จำนวน 10,000 บ.ไปมอบให้กับผู้ต้องหาที่ 1 แต่ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยอมให้ผู้เสียหายเข้าพบและแจ้งกับหน้าห้องไว้ว่าให้ผู้เสียหายฝากเงินไว้กับผู้ต้องหาที่ 2

เมื่อผู้เสียหายเห็นว่า ไม่สามารถเข้าพบผู้ต้องหาที่ 1 เพื่อมอบเงินให้ตามแผนที่วางเอาไว้ จึงเข้าไปนั่งพูดคุยเรื่องที่นำเงินมามอบให้กับผู้ต้องหาที่ 1 ต่อหน้าปลัดอาวุโส และผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมกับนำเงิน ที่จัดเตรียมออกมาวางไว้กลางโต๊ะรับแขกภายในห้องปลัดอาวุโส

ก่อนที่ผู้ต้องหาที่ 2 จะหยิบเอาเงินบนโต๊ะไป และในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นผู้เสียหายได้โทรศัพท์ถึงผู้ต้องหาที่ 2 สอบถามเรื่องเงินที่มอบให้ได้รับการยืนยันว่า ส่งมอบเงินให้กับผู้ต้องหาที่ 1 แล้ว ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ตามกฎหมาย

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย แล้ว

ในวันนี้ขณะที่ผู้เสียหายนำเงินจำนวนดังกล่าว เข้าไปมอบให้แก่ผู้ต้องหาภายในห้องทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จึงนำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีต่อไป สำหรับการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

อ่านข่าว : บุกจับ จนท.รังวัดที่ดินชลบุรี เรียกรับเงิน 5 หมื่นแลกออกโฉนด 

จับนายก อบต.สำนักทอง คาห้องทำงานเรียกรับเงินสร้างถนน 1 แสน  

ป.ป.ช.ยืนยันอดีต จนท.เป็นข่าวเรียกรับเงิน ไม่เกี่ยวข้องภารกิจสำนักงาน


ไฟไหม้โรงพยาบาลสัตว์ จ.ชลบุรี แมวตาย 2 ตัว คาดไฟลัดวงจร

Thu, 9 Jan 2025 13:57:00

วันนี้ (9 ม.ค.2568) เพลิงไหม้ ที่โรงพยาบาลสัตว์ ใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ติดกัน 2 คูหา เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้

เบื้องต้น สามารถช่วยสุนัข 8 ตัว และแมวอีก 7 ตัว ที่รอดูอาการในโรงพยาบาลออกมาได้อย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจึงเร่งประสานไปยังสถานพยาบาลสัตว์แห่งอื่นที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อนำสัตว์ที่รอดชีวิตทั้งหมดไปฝากไว้ นอกจากนี้ ยังพบแมว 2 ตัวสำลักควันและตายในที่เกิดเหตุด้วย ส่วนผู้ที่อยู่ในอาคาร 6 คน เจ้าหน้าที่ได้นำกระเช้าขึ้นไปรับตัวออกจากระเบียงด้านหน้าอาคารได้ทั้งหมด

นางอนุสรา เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ กล่าวว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ยินเสียงร้องจากด้านนอก จึงรีบลงมาตรวจสอบและพบกลุ่มควันหนาแน่นอยู่ในภายห้องโถงด้านหน้า จึงรีบหนีขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 3 ของอาคาร เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ยังต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

อ่านข่าว :

ท่องเที่ยวกระบี่สะเทือน "ลิงแสม" บุกชุมชนรื้อข้าวของเสียหาย

เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกชายแดน จ.ตาก

สอบสาเหตุไฟไหม้โรงงานชุบโลหะนิคมฯ บางปู คาดเสียหาย 5 ล้าน


เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกชายแดน จ.ตาก

Wed, 8 Jan 2025 19:21:40

กรณีที่เกิดขึ้นกับ "ซิงซิง" นักแสดงชาวจีน เป็นหนึ่งในชาวต่างชาติจำนวนมาก ที่ถูกหลอกเข้าสู่ธุรกิจผิดกฎหมายผ่านชายแดน จ.ตาก จนทำให้ไทยถูกตั้งคำถามว่า กลายเป็นทางผ่านของอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งที่ผ่านมาพบตัวเลขชาวต่างชาติถูกหลอกไปร่วมธุรกิจของกลุ่มจีนเทาจำนวนมาก

หน่วยงานด้านความมั่นคง เพิ่มมาตรการคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก ตรงข้ามเมืองชเวโก๊กโก่ และ เมือง KK-Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของธุรกิจกลุ่มจีนสีเทา โดยเจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก พร้อมกับประชาสัมพันธ์กลุ่มคนไทยและชาวเมียนมา ให้ช่วยสอดส่อง ป้องกัน และสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนไปยังฝั่งเมียนมา

พ.ต.อ.เอกบวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ระบุว่า เน้นการตรวจสอบบุคคลบริเวณที่มีการข้ามไป-มา เป็นจำนวนมาก ในจุด สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และสะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด

ข้อมูลจากมูลนิธิช่วยเหลือทางสังคมเพื่อเด็กและสตรี พบว่า คนถูกหลอกเข้าไปทำงานในธุรกิจทุนจีนสีเทาฝั่งเมียนมา ตรงข้าม จ.ตาก มีจำนวนมากโดยเฉพาะชาวจีนที่พิสูจน์ตัวตนแล้วไม่ต่ำกว่า 3,900 คน ในจำนวนนี้ยังไม่รวมเชื้อชาติอื่น ที่มีอีกนับหมื่นคนจึงอยากให้รัฐบาลไทยเร่งสืบสวน สอบสวนหาต้นตอ ขบวนการค้ามนุษย์เหล่านี้ เพราะไทยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในขบวนการนี้ด้วย แม้จะไม่กระทำผิดโดยตรง แต่ก็อาจส่งผลทำให้ไทยถูกลดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ลง

สำหรับพื้นที่ที่กลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุน ถือเป็นพื้นที่ยกเว้น ที่ทางการเมียนมา ยกให้กลุ่ม BGF หรือ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน ที่มี พ.อ.หม่อง ชิด ตู เป็นผู้นำ ซึ่งการดำเนินการค้าชายแดนเป็นไปอย่างอิสระ ไม่ขึ้นกับรัฐบาลเมียนมา กลุ่มนี้จึงอาศัยช่องว่างหรือช่องทางธรรมชาตินำทั้งคนและสินค้าข้ามไปมา โดยไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ ไม่เสียภาษี และกลายเป็นศูนย์รวมของกลุ่มคนที่หนีกฎหมาย มาอยู่รวมกันทำธุรกิจผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ที่ผ่านมามีทั้งคนถูกหลอก และสมัครใจ เดินทางเข้าไปร่วมธุรกิจ เช่น บ่อนพนัน คอลเซนเตอร์ และธุรกิจผิดกฎหมายอื่น

ขณะที่ ศ.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทำวิจัยและเขียนหนังสือเรื่องทุนนิยมกาสิโนในฝั่งประเทศเมียนมา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวชายขอบ ถึงกรณีการหลอกไปฝั่งเมียนมาว่า "เมืองเมียวดี" เป็นศูนย์กลางตลาดค้ามนุษย์ เคยมีการหลบหนีของผู้เสียหายชาวจีน และประเทศอื่นออกมาหลายครั้ง แต่ไม่เป็นข่าวคึกโครมเหมือนกรณีนี้ ซึ่งนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า การค้ามนุษย์ในเมืองเมียวดี น่าจะมีกลุ่มกองกำลังที่ดูแลพื้นที่รู้เห็นเป็นใจ

ส่วนการหลอกลวงชาวต่างชาติ ผ่านเข้าไทย เพื่อข้ามไปยังเมืองเมียวดี ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง และมองว่าไทยควรเป็นส่วนสำคัญ ในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และคอลเซนเตอร์ ไม่ใช่ใส่เกียร์ว่างเหมือนที่ผ่านมา

อ่านข่าว : "ซิงซิง" เหยื่อแคสงานค้ามนุษย์ สู่ปมโซเชียล"เมืองไทยน่ากลัว" 

“ซิงซิง” จิตใจดีขึ้น ตร.ยันเหยื่อค้ามนุษย์คาด 1-2 วันกลับจีน 

นักเคลื่อนไหวต่างชาติ ใครบ้าง "สูญหาย" ในไทย 

 

 

 


ท่องเที่ยวกระบี่สะเทือน "ลิงแสม" บุกชุมชนรื้อข้าวของเสียหาย

Wed, 8 Jan 2025 07:52:43

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2568 ฝูงลิงแสม ที่ลงมาจากบนเขา ออกมาจากป่าโกงกาง หลายสิบตัว ออกมาใช้ชีวิตบริเวณริมหาด ร้านอาหาร บริเวณชายหาดชุมชนบ้านท่ากรวด หมู่ 2 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่

ชาวบ้านบอกว่าตอนนี้กำลังเป็นปัญหา เพราะฝูงลิงแสมจำนวนมาก เข้ามาก่อกวนในพื้นที่ โดยรื้อค้นสิ่งของเพื่อหาอาหาร รื้อกระเบื้องหลังคาบ้านจนพังเสียหาย ชาวบ้านต้องนำอิฐวางทับหลังคา หรือสั่งทำลูกกรงปิดทับช่องว่างต่าง ๆ เพื่อป้องกันลิง

ถังขยะในชุมชนต้องทำกรงป้องกันรื้อค้นหาอาหาร ส่วนผักผลไม้ ที่ปลูกไว้ ถูกลิงกินหมด สร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก วอนหน่วยงานช่วยแก้ปัญหา หรือควบคุมประชากรลิง หวั่นได้รับผลกระทบทั้งชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว

นายสุวัฒน์ สุขศิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เปิดเผยว่าปัญหาหลัก ๆ เนื่องจากลิงที่จับไปปล่อย ท้องและออกลูกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ อ.เมืองกระบี่ อ.เกาะลันตา และ อ.เหนือคลอง เบื้องต้นได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เสนอให้จับทำหมันทุก ๆ 5 ปีต่อเนื่อง สำรวจแหล่งที่ปล่อยเพื่อลดจำนวนประชากรลิง ซึ่งตอนนี้มีประกาศให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาร่วมเกี่ยวข้องในการกำหนดงบประมาณดักจับทำหมัน และสร้างคอกแล้ว

ขณะเดียวกันยังได้ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่ไปท่องเที่ยวบนเกาะของ 4 อำเภอ จ.กระบี่ งดให้อาหารลิงที่พบบนเกาะ เพราะจะเป็นการสร้างความคุ้นชินให้กับลิง และก่อกวนนักท่องเที่ยว

อ่านข่าวอื่น :

สหรัฐฯ เข้มความปลอดภัยสูงสุด รัฐพิธีศพอดีต ปธน.คาร์เตอร์

แผ่นดินไหว "ทิเบต" ยอดตายเพิ่มเป็น 126 คน บ้านพัง 3,600 หลัง


สั่งย้าย ผกก.สภ.บัวใหญ่ หลังคดีล่วงละเมิดหญิงสูงอายุไม่คืบ

Tue, 7 Jan 2025 06:41:46

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2568 พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.รณรงค์ สุรทศ ผกก.สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยขาดจากต้นสังกัด และให้ พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.บัวใหญ่

คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลัง มีผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศผู้สูงอายุใน อ.บัวใหญ่ 5 คน ตั้งแต่กลางปี 2567 ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อควบคุมกำกับดูแลและเร่งรัดคดี

ล่าสุด ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดหญิงสูงอายุที่ อ.ปากช่อง ได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลว่าเคยก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่

ขณะนี้มีหญิงสูงอายุที่เป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 9 คน แยกเป็น สภ.บัวใหญ่ 5 คน, สภ.โนนแดง 2 คน, สภ.แก้งสนามนาง 1 คน และ สภ.บ้านเหลื่อม 1 คน ซึ่งเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย.2566 โดยผู้ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ในการก่อเหตุแบบเดียวกัน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบดีเอ็นเอพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุกับหญิงสูงอายุ 4 คน ส่วนหญิงสูงอายุ 5 คน ขณะนี้ยังรอผลตรวจ

อ่านข่าว

จับแล้ว ผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดหญิงสูงวัย 2 คน จ.นครราชสีมา

ม.สยาม ชี้คนในเอี่ยวอบรมอาสาตร.จีนโดยพลการ-ปัดได้ประโยชน์

ตม.เผยพบข้อมูล XingXing เดินทางเข้าไทยที่ "สุวรรณภูมิ" - ไม่ชัดเจนเวลาออก


สอบสาเหตุไฟไหม้โรงงานชุบโลหะนิคมฯ บางปู คาดเสียหาย 5 ล้าน

Mon, 6 Jan 2025 07:54:47

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2567 เกิดเหตุไฟไหม้ภายในบริษัทสยามโปรเพลท ซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในบริษัทซึ่งเป็นโกดังชั้นเดียว โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัยจากพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 15 คัน เข้าสกัดไฟที่ลุกไหม้

ภายในโรงงานดังกล่าวมีสารเคมีหลายชนิดที่ติดไฟอย่างง่าย จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องกระจายกำลังเข้าผจญเพลิงในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปติดโรงงานข้างเคียง และเนื่องจากเป็นโรงงานที่ชุบและเคลือบโลหะ ซึ่งมีสารเคมีชนิดโซดาไฟและกรดไฮโดรคอลลิคที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าดับไฟ

พนักงานฝ่ายบัญชีของบริษัท เล่าว่า ได้ยินเสียงคล้ายมีอะไรตกกระทบพื้น จึงเดินไปดูพบไฟและลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบออกจากที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสายการผลิต แต่ไม่มีการทำงาน เบื้องต้นตัวโกดังเสียหายประมาณร้อยละ 25 คาดมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัด พร้อมเร่งฉีดน้ำและโฟมเพื่อดับไฟให้สนิท โดยยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวน

อ่านข่าว

เอาผิดแอบอ้างใช้ตราสัญลักษณ์ บช.ก. อบรมอาสาตำรวจคนจีน

แมนฯ ยูไนเต็ด บุกตีเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก

อ่วม! พายุหิมะพัดถล่มสหรัฐฯ-ยุโรป อุณหภูมิเย็นยะเยือก