เงินเฟ้อ พ.ค.66 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน

Tue, 6 Jun 2023 17:28:37

วันนี้ (6 มิ.ย.2566) สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การการค้า เปิดเผยเงินเฟ้อเดือน พ.ค.2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.53 ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 21 เดือน

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการ สนค. ระบุว่า เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้าลดลงทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 1.83 ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ พบว่าสูงขึ้นร้อยละ 3.99 เช่น ผัก ไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตเข้าสู่ตลาดลดลง อาหารสำเร็จรูปราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต ทั้งนี้ ต้องจับตาปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลให้สินค้าหมวดอาหารสดเพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 450 บาท

ส่งออกยังคงติดลบ พร้อมเสนอเร่งตั้งรัฐบาล

ขณะที่การส่งออกยังคงติดลบ นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุว่า เดือน เม.ย. ติดลบร้อยละ 7.6 จากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัว สินค้าอุตสาหกรรมหดตัว โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ส่งออกไปยัง สหรัฐฯ จีน ส่วนสินค้าเกษตรยังคงขยายตัวได้ คาดว่า การส่งออกปีนี้อาจจะไม่ขยายตัวหรืออาจจะติดลบร้อยละ 1 จึงขอให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อขับเคลื่อนการส่งออก รวมทั้งขอให้ ธปท. พิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของผู้ประกอบการ SME รวมทั้งการจัดการค่าไฟฟ้าเพื่อลดต้นทุนการผลิต


กรมสรรพสามิต เผยเงินอุดหนุนราคารถ EV เพียงพอถึงเดือน ก.ย. - จ่อชง รบ.ใหม่ต่อมาตรการ

Sun, 4 Jun 2023 12:36:26

รัฐบาลปัจจุบัน อนุมัติใช้งบกลางปี 2566 วงเงิน 2,900 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนราคารถยนต์ EV ไม่เกินคันละ 150,000 บ.ทำให้ราคาจำหน่ายถูกลง กระตุ้นความสนใจซื้อของประชาชน กรมสรรพสามิตคาดว่า วงเงินดังกล่าวเพียงพอใช้ถึงเดือน ก.ย.นี้หรือสิ้นปีงบประมาณ

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ระบุว่า จ่ายเงินอุดหนุนให้ค่ายรถยนต์ไปแล้วมากกว่า 800 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารการจ่ายชดเชยอีก 3,000 คัน คิดเป็นเงินประมาณ 400 ล้านบาท

เฉลี่ยไตรมาสละ 150 - 250 ล้านบาท จึงมั่นใจว่า ยังเหลือวงเงินจ่ายเงินอุดหนุนราคา EV ไปได้จนถึงเดือน ก.ย. ขณะเดียวกันได้รับร้องเรียนว่า ค่ายรถบางแห่งเร่งรัดให้ตัดสินใจซื้อรถ EV โดยอ้างว่า วงเงินโครงการใกล้หมด

ทั้งนี้ จากการประเมินการเติบโตของยอดขาย และความต้องการซื้อรถ EV ในไทยเพิ่มขึ้น กรมฯ ได้เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ พิจารณาต่ออายุมาตรการดังกล่าว อีกไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท โดยอาจปรับเงื่อนไข ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และการเริ่มต้นผลิตรถ EV ในไทย ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป เป็นไปตามแผนระหว่างปี 2565-2568 


แบงก์แห่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้

Sat, 3 Jun 2023 17:37:00

ธนาคารกรุงเทพ นำร่องประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ร้อยละ 0.05-0.25 เช่นเดียวกับดอกเบี้ยเงินกู้ เพิ่มอีกร้อยละ 0.2 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ขยับเป็นร้อยละ 6.85 ส่วนลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ร้อยละ 7.05 ต่อปี

ธนาคารกสิกรไทย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจำสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ร้อยละ 0.05-0.25 ต่อปี และปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้อีกร้อยละ 0.2 ทำให้อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี อยู่ที่ร้อยละ 7.05 ต่อปี

ธนาคารกรุงไทย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ร้อยละ 0.05-0.25 ต่อปี และดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทอีกร้อยละ 0.2 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยอยู่ที่ร้อยละ 7.320 ต่อปี

เช่นเดียวกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ปรับขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน โดย EXIM BANK ปรับขึ้น Prime Rate อีกร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 6.25 เป็นร้อยละ 6.50 ต่อปี

ขณะที่ ธ.ก.ส.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ร้อยละ 0.05-0.50 ต่อปี และดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ร้อยละ 0.10-0.25 ต่อปี ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี อยู่ที่ร้อยละ 6.975 ต่อปี เริ่มวันที่ 6 มิ.ย.2566

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย แนะนำประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือค่างวดเพิ่มขึ้น จนอาจผิดนัดชำระหนี้ ให้เข้าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน เพื่อรักษาประวัติการเงินและบรรเทาความเดือดร้อน

อ่านข่าวอื่นๆ

ตามคาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2% ต่อปี มีผลทันที

อัปเดต "สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ" เดือน มิ.ย.66 จ่ายอะไรบ้าง

เพดานหนี้สหรัฐ กระทบตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก


อัปเดต "สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ" เดือน มิ.ย.66 จ่ายอะไรบ้าง

Sat, 3 Jun 2023 12:34:57

วันนี้ (3 มิ.ย.2566) น.ส.ทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือน มิ.ย. จะได้รับวงเงิน ดังนี้

วันที่ 1 มิ.ย.2566

(เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน

สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 เม.ย. - 26 พ.ค.2566 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 มิ.ย.2566 จะได้รับการทบสิทธิวงเงินซื้อสินค้า 2 เดือน (ของเดือน เม.ย.-พ.ค.) จำนวนเงิน 600 บาท

- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.2566)

- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส., รถไฟ, ขสมก., รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)

วันที่ 20 มิ.ย.2566

(โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

(สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน โดยต้องยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภายในวันที่ 26 พ.ค.2566)

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวันและเวลาราชการ


เพดานหนี้สหรัฐ กระทบ ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก

Fri, 2 Jun 2023 16:53:00

“เพดานหนี้” หมายถึงวงเงินสูงสุดที่รัฐบาลสหรัฐสามารถกู้ได้ เพื่อนำมาใช้จ่ายต่างๆ ตามภาระผูกพันที่มีอยู่ รอบนี้รัฐบาลกู้ยืมชนเพดานไปแล้ว จึงอยากขอให้สภาคองเกรสช่วยขยายการกู้ยืม เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ต้องผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2023

แต่มีปัญหาเนื่องจากพรรคริพับลิกัน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาลปรับลดการใช้จ่ายเสียก่อนจึงจะยอมอนุญาตเพิ่มเพดานหนี้

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ทันโลกกับที่นี่ ไทยพีบีเอส”

นายธีระชัย กล่าวว่า ข้อตกลงการขยายเพดานหนี้เบื้องต้นที่มีการยกร่างระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เหลือแต่วุฒิสภา ในแง่ของการเจรจาระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เป้าหมายหลักของฝ่ายค้าน คือไม่ต้องการให้รัฐบาลของโจ ไบเดน เข้าแข่งขันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2023

“คาดการณ์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องลงแข่งกับ โจ ไบเดน จึงต้องการล็อกไม่ให้รัฐบาล ไบเดน ในตำแหน่งประธานาธิบดี เอาเงินงบประมาณไปใช้จ่ายเพื่อให้เกิดคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งวิธีการล็อก เพื่อไม่ให้รัฐบาลใช้จ่ายมากเกินไป ขณะนี้อยู่ในข้อตกลงแล้ว ทำให้พรรคริพับลิกันสบายใจว่า ข้อตกลงอันนี้จะทำให้รัฐบาลไบเดนไม่ได้เปรียบจากการใช้เงิน”

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า กระนั้นยังมีปัญหาและเงื่อนไขบางอย่างที่สำคัญ คือ แม้จะมีการยกเว้นรายจ่ายบางอย่างไม่อยู่ในเพดานที่จะจำกัดการใช้เงินของรัฐบาล โดยเฉพาะรายจ่ายในเรื่องงบประมาณป้องกันประเทศ ซึ่งจะเห็นว่ามีการใช้ลักษณะของการใช้เงินในสงครามตัวแทน

“สหรัฐฯ ทำการรบกับทางรัสเซีย ยังไม่จบ คือ เขาไม่ได้รบโดยตรง แต่รบผ่านยูเครน ซึ่งการสู้รบจะเข้มข้นขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง และแนวโน้มยังไม่จบเร็ว นอกจากนี้ยังมี ผลกระทบ เรื่องพลังงาน อาหาร การกักตุนอาหาร เป็นการใช้หมากเกม ปล่อยให้ยูเครนขายอาหาร เป็นเครื่องมือในการสงคราม ทำให้ราคาอาหารกระเพื่อมขึ้นไป”

อ่านข่าว : อนาคต "ตลาดหุ้น" ในเงื้อมมือ รัฐบาลก้าวไกล

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการนำก๊าซธรรมชาติมาผลิตเป็นปุ๋ยแอมโมเนีย หรือปุ๋ยประเภทอื่นค่อนข้างสะดุด เนื่องจากประเทศรัสเซียและยูเครน เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ต้องทำใจว่า ราคาพลังงาน อาหาร และปุ๋ยยังมีอยู่ เมื่อไม่มีการกำหนดเพดาน หนี้จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังมีข้อตกลง เรื่องหนี้การศึกษา ในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัยต้องกู้เงินเรียนกับองค์กรรัฐ เพื่อใช้ในการศึกษา แต่ในช่วงโควิด-19 เขาให้หยุดการชำระหนี้การศึกษาชั่วคราว แต่ในเดือน ส.ค. นี้ ผู้กู้เงินเรียน และบางส่วนที่ยังเป็นหนี้จะต้องเริ่มชำระหนี้ จึงทำให้กำลังซื้อของคนในอเมริกาลดลงพอสมควร ทั้งประเทศตัวเลขรวมๆ ของผู้ติดหนี้การศึกษามีจำนวนไม่น้อย

สำหรับผลกระทบโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ นายธีระชัย บอกว่า ตามปกติกระทรวงการคลังของสหรัฐจะดูแลสภาพคล่องในตลาดเงิน และตลาดทุน โดยออกพันธบัตรรัฐบาล ทั้งพันธบัตรระยะยาวและตั๋วเงินคลังระยะสั้น ซึ่งนักลงทุน และเอกชนต้องเอาเงินไปซื้อ แต่ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาการดูดสภาพคล่องออกไม่เกิดขึ้น เพราะพันธบัตรหมดต้องรอการเจรจาให้ได้ข้อยุติก่อน จึงจะออกธนบัตรได้ใหม่

ที่ผ่านมาต้องเอาเงินฝากในบัญชีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาใช้เรื่อยๆ กระทรวงการคลังไม่มีการดูด มีแต่ปล่อยเงินในระบบ ทำให้ 4-5 เดือนที่ผ่านมา สภาพคล่องในตลาดเงินสหรัฐฯ ค่อนข้างสูง และกระจายเกิดสภาพคล่องในตลาดทุน ตลาดหุ้นของยุโรปดีไปด้วย

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า ในอนาคตเมื่อข้อตกลงเกิดขึ้นแล้วจะสวนทาง เวลานี้เงินในบัญชีของกระทรวงการคลังเหลือแทบจะติดดินอยู่แล้ว จึงปล่อยให้สภาพเป็นแบบนี้ไม่ได้ เมื่อข้อตกลงผ่านสภา เขาจะต้องตั้งเป้าออกพันธบัตร หรือตั๋วเงินคลัง เพื่อกู้เงินเพิ่มให้ได้ 500,000-600,000 ล้านบาท

และเมื่อคำนวณแล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 3 ที่กำลังจะมาถึง ต้องออกตราสารหนี้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นการดูดสภาพคล่องออกไปจากตลาดเงิน ตลาดทุนของสหรัฐฯ ทำให้สภาพคล่องหดไปเรื่อย ๆ เต็มที่อาจอยู่ที่ปลายไตรมาส 3 ต้นไตรมาส 4 อาจเกิดแรงสะเทือนต่อตลาดเงิน ตลาดทุน ในสหรัฐฯ ยุโรป และกระจายไปทั่วโลก

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล

ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์ใช้เป็นการชำระเงินระหว่างประเทศ เป็นอันดับ 1 รัฐบาลสหรัฐฯ จึงมีอภิสิทธิ์ สิทธิพิเศษ อีกทั้งเป็นตลาดใหญ่ของการขายพันธบัตรจำนวนมาก ทำให้สหรัฐฯ ยกเพดานหนี้สาธารณะขึ้นไปได้เรื่อยๆ แต่ปัญหา คือ หนี้รัฐบาลสหรัฐฯ สูงมาก เมื่อเทียบกับ GDP หรือภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจ่ายนั้นแพงเท่ากับงบฯ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ

อดีต รมว.คลัง วิเคราะห์ว่า สำหรับนี้หนี้ของรัฐบาลเมื่อครบกำหนด อายุเฉลี่ย 3-4 ปี ในอนาคตหากดอกเบี้ยยังสูงอยู่ ภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจ่ายในแต่ละปีจะสูงมาก และจุดหนึ่งดอลลาร์จะอ่อนตัวลงคาดว่าตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป และกระทบหลายประเทศที่นำทุนสำรองของประเทศไปซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ อาจต้องคิดใหม่ หรือกระจายไปซื้อทองคำ-คริปโตมากขึ้น ทั้งหมดมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในระยะยาว แต่เป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของไทยนั้น นายธีระชัย บอกว่า หากมองระยะยาวเมื่อเงินดอลลาร์อ่อน เงินบาทจะแข็ง ซึ่งจะกระทบการส่งออกของไทย ราคาสินค้าไทยจะแพงขึ้นเมื่อต้องแข่งขันกับประเทศที่ใช้เงินสกุลดอลลาร์

ดังนั้นเมื่อรู้แนวโน้มตั้งแต่ตอนนี้ ต้องพยายามใส่มูลค่าเพิ่มในสินค้า เช่น ปลูกข้าวพันธุ์อื่นๆ ที่ขายได้ราคาในต่างประเทศ หรือผลไม้ที่สุกอร่อย แต่ต้องหาวิธีขนส่งที่เร็วขึ้น เพื่อแข่งขันได้ในช่วงดอลลาร์อ่อน

อ่านข่าวอื่นๆ :

ปธ.ทีดีอาร์ไอชี้เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ส่งผลกระทบ “ทุนพวกพ้อง”


อนาคต "ตลาดหุ้น" ในเงื้อมมือ รัฐบาลก้าวไกล

Fri, 2 Jun 2023 14:28:00

ยังแกว่งไปมาอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดหุ้นไทย แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์แล้ว หลังเลือกตั้งเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่หุ้นวันนี้ (2มิ.ย.) ราคาเปิดตลาดยังอยู่ที่ 1,529.09 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ บวก 0.51% หากเปรียบเทียบกับวันประกาศผลการเลือกตั้งอยู่ที่ 1,550.85 ถือเป็นปฏิกิริยาที่สะท้อนผ่านตลาดหุ้น และตลาดการเงิน

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองยังฝุ่นตลบ แต่หยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พยายามกลบรอยร้าว ปมชิงเก้าอี้ประธานรัฐสภา กอดคอโชว์หวาน เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่ตัวเลขในตลาดทุนใหญ่เศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อรัฐบาลก้าวไกลในอนาคต

ตลาดหุ้นชี้อนาคตเศรษฐกิจไทย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะเป็นตัวชี้อนาคตเศรษฐกิจ และชี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า และเมื่อราคาหุ้นตกลงจะทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเศรษฐกิจในอนาคตว่า จะดีเหมือนเดิมหรือไม่ ประเด็นสำคัญ คือ ขณะนี้นักลงทุนยังมีความไม่แน่ใจว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะทำได้หรือไม่

"โจทย์สำคัญที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ คือ นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ระบุว่า จะเข้ามาแก้ปัญหาอิทธิพลของกลุ่มทุนผูกขาด จึงทำให้นักลงทุนบางส่วน ห่วงว่ากลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายของรัฐก็ได้ เราไม่ทราบว่า จะมีเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น จึงได้แค่คาดการณ์"

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บรรยากาศของตลาดทุนและตลาดหุ้นทั่วโลก ในสหรัฐอเมริกาก็มีปัญหา เรื่องดอกเบี้ยสูง สงครามการสู้รบยูเครน - รัสเซีย ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลกระทบมาถึงไทยด้วย ขณะที่การเมืองไทยก็ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะการเลือกประธานสภาจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม และได้ตัวนายกรัฐมนตรีเดือนสิงหาคมนี้

ตามปกติ เมื่อได้รัฐบาลเสียงข้างมากเป็นฝั่งเสรีนิยมประชาธิปไตย ราคาหุ้นควรจะขึ้น แล้วอาจจะมาหักด่านติดลบตรง ส.ว. แต่ปัจจุบันราคาหุ้นก็ยังไม่ขึ้น มันเป็นความผิดปกติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

นายธนวรรธน์ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ขณะนี้พรรคการเมืองเสียงข้างมากที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จะเซ็นเอ็มโอยูแล้ว แต่ตลาดหุ้นยังไม่ดีขึ้น หุ้นยังตกลงต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่านโยบายอาจมีปัญหา นอกจากนี้ปัญหาการถือหุ้นไอทีวีของตัวว่าที่นายกฯ ก็ยังต้องรอ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ยังไม่ชัดเจน นักลงทุนจึงเกรงอาจจะมีความพลิกผันทางการเมือง

การเมืองมีผลต่อตลาดหุ้นไทย

สอดคล้องกับประเด็นที่นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์ในรายการโลกในมุมมองของ Value Invester เรื่อง "ตลาดหุ้นกับรัฐบาล" โดยระบุว่า การเมืองรอบนี้มีผลต่อตลาดหุ้นพอสมควร นักลงทุนยังสนใจเรื่องนโยบาย มีปฏิกิริยาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนได้

"แม้จะยังไม่แน่ใจว่า ใครมาเป็นรัฐบาล แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดหุ้นคงค่อยๆ ปรับจูนได้ในระยะสั้น และกลับ คืนสู่ภาวะปกติ เพราะกว่าจะตั้งรัฐบาลเสร็จ หุ้นยังคงขึ้นๆ ลงตามสถานการณ์ เลือกตั้งเสร็จแล้ว แต่ก็มีความไม่แน่นอนสูงมาก 50 :50 ต้องจับตาดู" 

นายนิเวศน์ ยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่จะมีผลกระทบต่อกลุ่มทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ไฟฟ้า หรือกลุ่มทุนผูกขาดจะได้รับผลกระทบหนัก รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ ด้วย สะท้อนให้เห็น ตลาดเชื่อมั่นว่านโยบายที่พรรคก้าวไกลนำเสนอในช่วงเลือกตั้งจะถูกนำไปใช้จริง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องกลุ่มทุนผูกขาด

นักลงทุนกังวลมาตรการภาษีมั่งคั่ง 

ประเด็นที่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กังวล นอกจากการเสียภาษีเพิ่มขึ้นจากการขายหุ้น ภาษีนิติบุคคล หรือที่เรียกว่า ภาษีมั่งคั่ง ซึ่งเจ้าของหุ้นที่เป็นนิติบุคคลที่จะถูกเรียกเก็บเพิ่มขึ้น และภาษีบางประเภทจะไปกระทบกับกิจการโดยตรง ซึ่งผู้ที่โดนหนักที่สุดคือ เจ้าของบริษัทที่มีอยู่เกินครึ่งในตลาดหลักทรัพย์

นายนิเวศน์ กล่าวว่า หากลงทุนแล้วไม่ได้กำไร นักลงทุนก็จะถอนตัวจากตลาดหุ้น ราคาหุ้นก็จะลงมาก ต้องยอมรับว่า ตลาดทุนสร้างเศรษฐกิจไทย สร้างงาน และเป็นหัวใจ ตลาดทุนในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ที่รวมของความมั่งคั่ง ทรัพย์สิน ซึ่งการลงทุนตามหลักรัฐบาลต้องหนุน แต่ถ้าตัดตรงนี้ไปจะโตยาก หากเศรษฐกิจไม่โต ความเท่าเทียมจะไม่เกิด

กูรูนักลงทุน มองว่า ขณะนี้สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง หรือ wind of change มาถึงไทยแล้ว จึงต้องทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยให้ได้ก่อน การเกิดวิกฤติทางการเมืองทุกครั้งระหว่างกลุ่มเผด็จการและฝ่ายขวา ที่ผ่านมาไล่เลียงจากรัฐบาลทุกยุค จนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แม้จะมีเหตุการณ์ประท้วง เดินขบวน การเมืองรุนแรง หุ้นก็ยังขึ้น

นายนิเวศน์ ระบุอีกตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหารในปี 2557 ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำนานถึง 8 ปี 9 เดือน ราคาหุ้นตอนที่เข้ามามีราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 1,562 จุด มาถึงวันนี้ราคาหุ้นอยู่ที่ 1,539 จุด ซึ่งเห็นว่าราคาหุ้นไม่ได้ขยับไปไหน คือ ไม่ขึ้น หรือลงมาก แต่อยู่ในสภาวะนิ่ง ทำให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจช้า บริษัทจดทะเบียนก็เติบโตช้า ไม่มีอะไรใหม่

หากดูจากตัวเลขสรุปได้ว่าหุ้นไม่ชอบรัฐประหาร และการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย อันนี้เห็นชัด และหากยังเข้ามาเสร็จเลย

นายนิเวศน์ กล่าวอีกว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมา พวกเราไม่ตระหนักว่า หุ้นมันไม่แคร์ มันไปได้ ถ้าทุกอย่างเป็นประชาธิปไตย จะประท้วงก็ประท้วงไป หุ้นรับได้ก็คล้ายๆ ต่างประเทศ ประท้วงก็ประท้วงไป หุ้นก็ไปได้ จะเห็นได้ว่าในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ราคาหุ้นยังไปได้

สำหรับประเด็นใหญ่ขณะนี้ หากประเทศเปลี่ยนเร็ว เป็นแนวเป็นสังคมนิยมอันตรายและเสี่ยงมาก เพราะยังไม่มีใครทราบว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คงต้องรอจนกว่าจะถึงตั้งรัฐบาลเสร็จ 

อ่านข่าวอื่นๆ: 

วิเคราะห์ : ขู่ปลุกม็อบ- “ปลุกผี” รัฐบาลแห่งชาติ ระวังปืนลั่น

วิเคราะห์ : นัยความชื่นมื่นของ 8 พรรคที่ “ประชาชาติ”


เริ่ม 3 มิ.ย. เปิดทดลองนั่ง MRT สายสีเหลือง จากหัวหมาก-สำโรง

Fri, 2 Jun 2023 11:30:00

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งเปิดให้ประชาชนที่สนใจร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง รถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง จำนวน 13 สถานี ได้แก่ สถานีหัวหมาก สถานีกลันตัน สถานีศรีนุช สถานีศรีนครินทร์ 38 สถานีสวนหลวง ร.9 สถานีศรีอุดม สถานีศรีเอี่ยม สถานีศรีลาซาล สถานีศรีแบริ่ง สถานีศรีด่าน สถานีศรีเทพา สถานีทิพวัล และสถานีสำโรง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2566 ระหว่างเวลา 09.00 - 20.00 น. โดยในส่วนของสถานีหัวหมาก จะจำกัดให้ประชาชนใช้เฉพาะทางเข้า-ออกที่ 2 (สี่แยกพัฒนาการ) และทางเข้า-ออกที่ 3 (ซอยศรีนครินทร์ 16) ที่มีความพร้อมก่อน

และหลังจากนี้ รฟม. และผู้รับสัมปทานจะหารือเพื่อพิจารณาการขยายช่วงสถานี และขยายช่วงเวลาที่รถไฟฟ้า MRT จะสามารถให้ประชาชนเข้าร่วมทดสอบเดินรถ เพิ่มเติม จนครบตลอดสาย 23 สถานีได้ในระยะต่อๆ ไป

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ได้รับการออกแบบให้เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง ที่จะใช้ขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และพื้นที่บางส่วนใน จ.สมุทรปราการ เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักอื่นๆ มีระยะทางรวมประมาณ 30.4 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสาย มีสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 23 สถานี

นอกจากนี้มีอาคารจอดแล้วจรสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งสามารถเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ได้บริเวณสถานีศรีเอี่ยม และสถานีลาดพร้าว

อ่านข่าวอื่นๆ

วันแรก! 1 มิ.ย.จองทะเบียนรถยนต์ต้องยืนยันผ่านแอปฯ ThaID

"พลังงาน"ยันตรึง "ดีเซล" 31.94 บาทต่อลิตร ถึงสิ้นปี


วันแรก! 1 มิ.ย.จองทะเบียนรถยนต์ต้องยืนยันผ่านแอปฯ ThaID

Thu, 1 Jun 2023 12:17:24

วันนี้ ( 1 มิ.ย.2566) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยเพิ่มขั้นตอนการยืนยันตัวตน ก่อนการจองหมายเลข ทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ เพื่อยืนยันตัวบุคคล ตามมาตรฐานของพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ PDPA และป้องกันการแอบอ้างชื่อบุคคลอื่น มาจองทะเบียนรถยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือสูญเสียทรัพย์ได้

สำหรับการยืนยันตัวตน เจ้าของรถจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaID ผ่านระบบ IOS หรือ Android เพื่อลงทะเบียนระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางระบบดิจิทัล DOPA-Digital ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน และภาพใบหน้าผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง

การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล DOPA-Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชนในการติดต่อราชการ สามารถยืนยันตัวตนทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ปัจจุบันนับตั๋งแต่เดือน ม.ค.นี้ ระบบสามารถรองรับการใช้งานของประชาชนทั้งประเทศ 60 ล้านคน เพื่อเป็นดิจิทัลไอดีของคนไทยอย่างแท้จริง

 


ตามคาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2% ต่อปี มีผลทันที

Thu, 1 Jun 2023 07:08:52

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.25 จากระดับร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 2 ต่อปี

หลังจากประเมินเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง และยังมีแรงกดดันต้นทุนผู้ประกอบการที่จะทยอยส่งผ่านไปยังราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น จากต้นทุนค่าไฟ และต้นทุนจากนโยบายรัฐบาลใหม่ จึงต้องติดตามพฤติกรรมการปรับราคาของผู้ประกอบการที่อาจเปลี่ยนไป เพื่อรับความเสี่ยงดังกล่าว

ส่วนผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงนั้น พบว่า ครัวเรือนและเอสเอ็มอีบางส่วนมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง จากภาวะค่าครองชีพสูงขึ้น แต่ กนง.ยังเห็นสมควรให้ใช้มาตรการแก้หนี้แบบเฉพาะจุด และมุ่งปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน

พร้อมยอมรับว่า แม้ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้ แต่ค่าเงินบาทยังอ่อนค่า ตามทิศทางนโนบายการเงินของสหรัฐอเมริกา และการอ่อนค่าเงินหยวน ตลอดจนความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย ซึ่งคณะกรรมการฯ จะติดตามตลาดเงินอย่างใกล้ชิด พร้อมพิจารณาปรับการขึ้นดอกเบี้ยนี้อีกเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยแท้จริง

อ่านข่าวอื่นๆ

"พลังงาน" ยันตรึง "ดีเซล" 31.94 บาทต่อลิตร ถึงสิ้นปี

"คลัง" ไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท


"พลังงาน"ยันตรึง "ดีเซล" 31.94 บาทต่อลิตร ถึงสิ้นปี

Tue, 30 May 2023 15:46:00

วันนี้ (30 พ.ค.2566) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า จะพยายามดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นปี แม้ว่ามาตรการลดภาษีสรรพสามิต จะสิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. และไม่มีการต่ออายุออกไป เพราะหากดูจากสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ติดลบน้อยลง

และเงินกู้เสริมสภาพคล่องที่ยังมีวงเงินเหลืออีก 70,000 ล้านบาท ก็ยังสามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้สมมติฐาน ราคาน้ำมันในตลาดโลก เฉลี่ยอยู่ในระดับปัจจุบัน 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือ ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงแต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกรุนแรงขึ้น หรือมีความผันผวนตามขั้นตอน จะต้องเสนอมาตรการดูแลบรรเทาผลกระทบ และนำเสนอให้ กกต. พิจารณา เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า

ขณะที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ระบุว่า​ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกันระหว่างกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง โดยติดตามสถานการณ์และทิศทางของราคาน้ำมันดีเซลอย่างใกล้ชิด

ซึ่งก่อนยุบสภาได้ให้แนวทางว่า ให้ดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในกรอบราคาที่ 35 บาทต่อลิตร โดยจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในหลายมิติ ทั้ง เงินเฟ้อ ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมไปถึง ความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ มีสถานะที่ดีขึ้นจากเดิมติดลบสูงสุด เกือบ 1.4 แสนล้าน แต่ขณะนี้เหลือเพียงลบ 72,000 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"คลัง" ไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท


"คลัง" ไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท

Tue, 30 May 2023 11:22:00

วันนี้ (30 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีเป็นเครื่องมือบรรเทาผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เพื่อลดแรงกดดันต่อราคาสินค้าและค่าครองชีพ

แต่ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง ส่งผลดีต่อฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฟื้นตัวและยังมีกรอบวงเงินกู้ สามารถบริหารจัดการราคาน้ำมันในประเทศได้ แต่หากต่ออายุมาตรการดังกล่าว ต้องนำเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา เพราะมีผลผูกพันรัฐบาลใหม่และยังมีเวลาทบทวนในช่วง 2 เดือนข้างหน้า

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังดำเนินมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 18 ก.พ.2565 - 20 ก.ค.2566 รวม 7 ครั้ง กระทบรายได้รัฐมากกว่า 158,000 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฟื้นตัวดีขึ้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก จากเดิมติดลบมากกว่า 120,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ติดลบ 70,000 ล้านบาท

แต่ตั้งข้อสังเกตว่าค่าการตลาดที่ผู้ค้าน้ำมันได้รับสูงถึงลิตรละ 2-3 บาท เมื่อเทียบกับช่วงราคาน้ำมันแพงที่สามารถกำหนดค่าการตลาดได้ต่ำลิตรละ 50 สตางค์ จึงเห็นว่า กองทุนน้ำมันฯ สามารถบริหารจัดการภายในโครงสร้างราคาน้ำมันได้ และยังมีกรอบวงวงเงินกู้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน จึงไม่จำเป็นต้องต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล เพราะภาษีที่ควรจัดเก็บได้ควรนำไปพัฒนาประเทศมากกว่าอุดหนุนผู้ใช้น้ำมันบางส่วน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ดีเซล" จ่อขยับลิตรละ 5 บาทหลังคลังไม่ขยายเวลา


"ค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท" หลากเสียงสะท้อนผู้ประกอบการ-แรงงาน

Mon, 29 May 2023 08:53:13

ผู้ประกอบการเล็ก-ใหญ่ บอกว่าหากมีการปรับขึ้นจะส่งผลกระทบหลายด้าน อย่างเช่น ภาคการเกษตรก็มีความกังวล เพราะจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่สูงอยู่แล้ว

เจ้าของแปลงผักกระทบหนัก "450 บาทจ่ายไม่ไหว"

นาข้าวใน ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จำนวน 20 ไร่ จำเป็นต้องใช้แรงงานเพื่อช่วยในการช่วยหว่านปุ๋ย คิดค่าใช้จ่ายแบบเหมาไร่ละ 60 บาท เจ้าของนาบอกว่า นี่คือต้นทุนส่วนหนึ่งของการปลูกข้าว ไม่นับรวมค่าจ้างในขั้นตอนอื่นๆ ซึ่งกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการปลูกข้าว ยังต้องจ่ายค่าจ้างในอีกหลายขั้นตอน เช่น การทำเทือกเพื่อเตรียมปลูกข้าว คิดค่าใช้จ่ายไร่ละ 120 บาท, ฉีดยาไร่ละ 50 บาท และกังวลว่าหากรัฐมีนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 450 บาท จะส่งผลให้ค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้นด้วย

ขณะที่ชาวสวนผักคะน้า ต้องจ้างแรงงานทั้งไทยและต่างด้าว ในขั้นตอนการปลูกรวมทั้งเก็บเกี่ยววัชพืช เจ้าของสวนบอกว่า การจ่ายค่าแรงเฉลี่ยวันละ 280- 300 บาท ถ้าหากต้องปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 450 บาท ไม่สามารถจ่ายได้ เนื่องจากพืชเกษตรราคาไม่แน่นอน โดยเห็นว่าขณะนี้ต้นทุนการผลิตภาคเกษตรสูงอยู่แล้ว รัฐบาลควรช่วยลดต้นทุน เช่น ปัจจัยการผลิต ปุ๋ย ยา ราคาน้ำมันให้ลดลง และควบคุมราคาสินค้า ไม่ใช่การเพิ่มต้นทุน

ขณะที่เจ้าของร้านโชห่วยในชุมชนบาง บอกว่าการปรับขึ้นค่าแรงจะส่งผลให้ลูกจ้างในภาคเกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้น แต่เชื่อว่าราคาสินค้าจะสูงขึ้นตามไปด้วย

สศก.ชี้ขึ้นค่าแรก กระทบภาคเกษตรแน่นอน

ทางด้าน นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรแน่นอน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพืชแต่ละชนิด ซึ่งค่าแรงเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิต โดยเห็นว่าปัญหาใหญ่ที่กระทบต้นทุนการผลิตมากที่สุด มาจากปัจจัยการผลิต เช่น ต้นทุนอาหารสัตว์ ปุ๋ย ยา ส่วนปัญหาค่าแรงเกษตรกรบางส่วนก็เริ่มมีเกษตรกร นำเครื่องจักรไปใช้การผลิตแล้ว

ก่อนหน้านี้ สศก. มีการศึกษาต้นทุนภาคการเกษตร มีอัตราส่วนต้นทุนค่าจ้างแรงงานต่อต้นทุนการผลิตที่ร้อยละ 17.4 โดยเฉลี่ยใช้แรงงานเป็นหลักในกิจกรรมการผลิต ขณะที่ภาคบริการมีอัตราส่วนร้อยละ 20.2 และ ภาคอุตสาหกรรมมีอัตราส่วนร้อยละ 9 เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยผลิต

กลุ่มแรงงานขอ รบ.ใหม่ปรับสวัสดิการ-ค่าครองชีพลดลง

แรงงานสมุทรปราการ เห็นด้วยกับรัฐบาลก้าวไกล ปรับเพิ่มค่าแรง 450 บาท แต่ขอเสนอให้มีการปรับสวัสดิการแรงงาน และปรับค่าครองชีพลดลงไปพร้อมกันด้วย

ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่ย่านบางปูใหม่ จ.สมุทรปราการ พบแรงงานระบุค่าแรงขั้นต่ำวันละ 353 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายกว่า 300 บาท/วัน ทำให้ต้องประหยัดอดออม เพื่อเก็บเงินบางส่วนส่งไปให้ครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัด และไว้ใช้จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่างวดรถ และส่งลูกเรียนหนังสือ

ในช่วงสิ้นเดือนภาระที่ต้องรับผิดชอบ กับค่าแรงรายวัน ไม่เพียงพอกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน แม้จะเพิ่งมีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ แต่ค่าครองชีพก็ทยอยปรับเพิ่มขึ้นเหมือนกัน 

เมื่อนโยบายของพรรคการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งพรรคก้าวไกล ที่เสนอ 450 บาท และพรรคเพื่อไทย เสนอ 600 บาท จึงเป็นความหวังของพี่น้องแรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ เพราะหากมีการปรับเพิ่มตามนโยบายของ 2 พรรคจริง ภายในปีนี้ ก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แรงงาน

แต่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ก็ทำให้แรงงานบางคน กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การจ้างงาน ที่นายจ้างอาจจะเลิกจ้างกะทันหัน หรือลด OT หรือค่าทำงานล่วงเวลาที่เป็นรายได้เสริม และค่าครองชีพก็น่าจะปรับเพิ่มตามกัน เหมือนทุกครั้งที่ค่าแรงขั้นต่ำปรับเพิ่มขึ้นโดยภาระค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น เป็นสิ่งที่กระทบชีวิตของแรงงานมากที่สุดในขณะนี้

รอง ปธ.สภาอุตฯ ชี้ต้นทุนจริงคือต้นทุนแฝง

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่าต้นทุนจริงที่แฝงอยู่ในค่าครองชีพของประชาชน คือ ค่าไฟฟ้า ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ และยังสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาเพราะระบบสัปทาน หรือ ทุนผูกขาด ถูกครอบงำโดยทุนใหญ่ ตั้งแต่ระดับนโยบาย จนถึงระบบปฎิบัติการ สร้างความไม่เป็นธรรม และการทุจริตคอร์รัปชัน

ดังนั้น รัฐบาลใหม่ควรเข้ามาแก้ปัญหาทุนผูกขาด ลดการทุจริตคอรัปชั่น และ ผลักดัน "นโยบายรัฐสวัสดิการ" ให้เข้าถึงคนทุกกลุ่ม จะทำให้ค่าครองชีพลดลง และยืนยันว่าภาคธุรกิจพร้อมจ่ายค่าแรงด้วยนโยบาย Pay by skill ตามประสิทธิภาพฝีมือการผลิต ซึ่งภารกิจเร่งด่วน รัฐบาลต้องเพิ่การ Up-skill และ Re-skill ให้แรงงานมีคุณภาพเหมาะสมกับค่าแรง เป็นการเพิ่มแข่งขันของไทย

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เห็นว่า การขึ้นค่าแรง 450 บาท/วัน ต้องทำแบบทยอยปรับ เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิด และอยู่ในช่วงฟื้นฟู พร้อมเสนอ 5 แนวทางที่รัฐบาลใหม่ทำควบคู่ไปกับการปรับขึ้นค่าแรง

  1. การจูงใจให้นอกระบบที่มีอยู่ร้อยละ 52 เข้ามาอยู่ในระบบ
  2. การยกระดับพัฒนาทักษะขีดความสามารถแรงงาน ซึ่งวันนี้ผลิตภาพแรงงานไทยอยู่ในอันดับ 4 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ บรูไนและมาเลเซีย
  3. การช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับแรงงานรายวัน
  4. การลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการทั้งค่าไฟฟ้า พลังงาน ก๊าซ
  5. มาตรการรัฐที่ส่งเสริมการขึ้นค่าแรง โดยนำมาหักลดภาษีได้ 2 เท่า 2 ปี

"ดีเซล" จ่อขยับลิตรละ 5 บาทหลังคลังไม่ขยายเวลา

Sun, 28 May 2023 18:12:09

วันนี้ (28 พ.ค.2566) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงกรณี กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราสรรพสามิต ฉบับที่ 34 มีสาระสำคัญ คือ เป็นการขยายเวลาการลดภาษีสรรพสามิตรน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตรออกไปจนถึงวันที่ 21 ก.ค.นี้ หลังก่อนหน้านี้ ครบกำหนดการลดภาษีไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ใช่เป็นการยกเลิกต่ออายุลดภาษีอย่างที่เป็นกระแสข่าว

หากสิ้นสุดการขยายเวลาลดภาษีรอบนี้ มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ก็เป็นอำนาจตัดสินใจของรัฐบาลใหม่ว่าจะดำเนินนโยบายนี้อย่างไร แต่หากยังเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ยังสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก โดยครม.เสนอไปทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้อนุมัติมาตรการดังกล่าว แต่ขณะนี้กรมสรรพสามิต ยังไม่ได้หารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ว่าจะดำเนินการอย่างไร

ที่ผ่านมาการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่ขยายเวลาต่อเนื่องรวม 7 ครั้ง มีผลกระทบในเรื่องรายได้ภาษีสรรพสามิตที่ 158,000 ล้านบาท แต่กระทรวงการคลัง ระบุว่าน้ำมันดีเซล เป็นต้นทุนภาคการผลิตและอุตสาหกรรม หากราคาปรับขึ้นรวดเร็วจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงสมควรลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันต่อไปอีกระยะ 

ไทม์ไลน์ ลดภาษีดีเซล 7 ครั้งสูญรายได้ 158,000 ล้านบาท 

 

 


เช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวตามรอย "พิธา" หลังถูกทาบทูตท่องเที่ยว

Fri, 26 May 2023 09:13:00

หลังจากมีรายงานว่าสภาธุรกิจท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นทูตการท่องเที่ยว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศในอิริยาบถต่างๆ

พิธา ระบุว่า ตลอดการหาเสียง ลงพื้นที่ตอนเป็น ส.ส ผมเห็นที่เที่ยวในประเทศ ไทยเยอะมาก และมีสถานที่น่าสนใจมากกว่าที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆ เสียอีก  จึงอยากเห็นการท่องเที่ยวไทยที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ครั้งนี้ คนมาเยอะขึ้นกว่าเดิม อยู่นานกว่าเดิม กระจายไม่กระจุกแค่หัวเมือง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมส่วนตัวแล้วที่โปรดที่อยากพานักท่องเที่ยวไป ถ้าเขามา คือ T H A I

 

"พิธา" ที่ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น มีแนวทางใหม่ๆ segment ใหม่ๆ เยอะ แต่เดินทางลำบาก แรงงานไม่พอ อุปสรรคทัวร์ไกด์ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ก็ต้องแก้ไขไปด้วย แก้ทั้ง demand & supply ให้ทายกันเล่นครับ รูปเหล่านี้ถ่ายที่ไหนบ้างครับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกตั้ง2566 : ก้าวไกลเปิด 45 ร่างกฎหมาย เหตุผลต้องได้เก้าอี้ ปธ.สภา 

 


ปธ.ทีดีอาร์ไอชี้เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ส่งผลกระทบ “ทุนพวกพ้อง”

Thu, 25 May 2023 16:34:00

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ให้สัมภาษณ์ในรายการคิดยกกำลัง 2 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยระบุว่า หลังพรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งมีคะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 คงบอกอะไรได้หลายอย่าง แม้ปกติตลาดหุ้นจะไม่ได้ผูกโยงกับเศรษฐกิจมากนัก แต่หุ้นยังตกต่อเนื่อง คงบอกอะไรได้หลายอย่าง เช่น ตั้งรัฐบาลได้ช้า เป็นห่วงว่าการเมืองจะวุ่น เพราะมีเสียงต่อต้านจากบางฝ่าย โดยเฉพาะในวุฒิสภา หรือบางคนอาจจะเป็นห่วงเรื่องค่าแรงพุ่ง

หุ้นตกรับ รบ.ใหม่ เศรษฐกิจไทยผูกการเมือง

ประธานสถาบันทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ราคาหุ้นตกไปโดยเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์กว่าๆ แต่มีหุ้นบางตัวตกไกล ไหลไปมากกว่านั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดการจัดการของรัฐบาลใหม่ ต่อกลุ่มบริษัทบางบริษัทที่ทำมาหากินกับรัฐบาล เช่น หุ้นก่อสร้างของชิโนไทย ไหลรวดไป 13% หุ้นไฟฟ้า โทรคมนาคม อย่าง กัลฟ์ หรือ ทรู ตลอดจนอสังหาริมทรัพย์ เช่น เอสซี แอสเซส ก็ตกมากกว่าตลาดทั่วไป

          “สะท้อนให้เห็นว่า โครงสร้างเศรษฐกิจไทยผูกพันกับการเมือง หากเปรียบเทียบไทยกับหลายประเทศ บรรดาอภิมหาเศรษฐีของไทยกับประเทศต่างๆ ในที่นี้หมายถึง คนที่รวยเกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือเป็นบิลเลียนแนร์ขึ้นไป มีทรัพย์สินอยู่ในธุรกิจที่ถูกเรียกว่า เป็นสาขาที่เสี่ยงต่อการเอื้อพวกพ้อง หรือสาขาทั่วไปอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเอื้อพวกพ้อง ปรากฎว่าไทยอยู่อันดับที่ 15 ของระดับโลก” นายสมเกียรติ กล่าว

กลุ่มทุนพวกพ้องกุมโครงสร้างเศรษฐกิจ

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ประเทศที่ไปไกลที่สุด คือ รัสเซีย เพราะทำมาหากินอยู่กับน้ำมัน และบรรดาเศรษฐีของรัสเซียก็ต้องเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ถ้ารัฐบาลไม่พอใจก็อยู่ไม่ได้ นี่คือลักษณะของทุนพวกพ้อง ซึ่งก็แปลว่าประเทศไทยมีภาพแบบนี้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว ไทยมีสัดส่วนทรัพย์สินของเศรษฐีที่ถูกจัดว่า เป็นกลุ่มทุนพวกพ้องอยู่ประมาณ 2% ของจีดีพี หรืออันดับที่ 16 ของโลก

ปัจจุบันขยับมาเป็นอันดับ 15 อาจจะดูเหมือนไม่ขยับเท่าไหร่ แต่สัดส่วนทรัพย์สินพวกพ้องสูงขึ้นเกินกว่า เท่าหนึ่งหรือเกือบๆ 5% ของจีดีพี ซึ่งมีข้อสังเกตอย่างสำคัญต่อโครงสร้างเศรษฐกิจไทย

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มทุนพวกพ้องที่เป็นระดับอภิมหาเศรษฐี หากทำมาหากินตามปกติเหมือนชาวบ้านทั่วไป คงไม่สามารถร่ำรวยได้ขนาดนี้ แต่การเป็นอภิมหาเศรษฐี แปลว่า ต้องมีกำไรเกินปกติ และตามตำราวิธีทำมาหากินได้กำไรเกินปกติ นักเศรษฐศาสตร์ เรียกว่า ได้ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ

          “คำว่า ค่าเช่าทางเศรษฐกิจฟังแล้วประชาชนคง งง ค่าเช่าที่ว่านี้ คือ กำไรเกินปกติ ซึ่งอภิมหาเศรษฐี จะมีรายได้ต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานแล้วได้เงินเดือน แต่เขาจะมีรายได้จากทรัพย์สิน 7 อย่าง เช่น การปล่อยเงินกู้ สัญญาภาครัฐ สัปทานต่างๆ รายได้จากโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า โทรคมนาคม ซึ่งก็เกี่ยวกับรัฐ หรือที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ เหมืองแร่ น้ำมัน ทรัพย์สินทางปัญญาและแพลตฟอร์มใหม่ๆ” นายสมเกียรติ กล่าว

เขาย้ำว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ กลุ่มทุนพวกพ้องก็จะได้รับผลกระทบด้วย เพราะพรรคก้าวไกลหาเสียงว่าประเทศจะเปลี่ยนไป แง่มุมหนึ่ง หากพ้นจากทุนพวกพ้อง แปลว่า ธุรกิจใหญ่ จะมีบทบาทกำหนดเศรษฐกิจลดลง ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะมีบทบาทมากขึ้น ก็คาดว่านวัตกรรมต่างๆ จะเกิดขึ้น

ประธานสถาบันทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ปัญหาการทำธุรกิจของไทย ทุกวันนี้หลายคนอยากทำ START UP แต่ถ้าไปคุยกับกลุ่ม START UP หลายคนพบว่า มีโอกาสโตยาก หากจะโตต้องขายกิจการให้บริษัทขนาดใหญ่ ไม่สามารถไปโตได้เอง จากการทำ IPO หรือไปขายหุ้นในตลาดหุ้น หรือธุรกิจบางอย่าง เช่น คราฟเบียร์ หรือธุรกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ อยากพัฒนา แต่ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นโจทย์สำคัญของรัฐบาลใหม่คือ ต้องปรับเศรษฐกิจไทยไปให้ไกล และไม่เอื้อให้ทุนพวกพ้อง

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลและบางพรรคการเมืองได้หาเสียง โดยระบุว่า จะกำจัดกลุ่มทุนผูกขาด ถือเป็นโจทย์ใหญ่และอยากให้ดำเนินการ แต่คงไม่ใช่เรื่องง่าย ประเด็นสำคัญที่ง่ายกว่าคือ อย่าให้เกิดเพิ่มขึ้นอีก ถ้าจะจับตามองดูรัฐบาลชุดใหม่จะเห็นว่ามีหลายเรื่องที่อาจจะเสี่ยงต่อทุนพวกพ้อง โดยยังไม่ต้องดูหน้าตารัฐบาล เพราะทุนพวกนี้เกี่ยวข้องกับภาครัฐ ย่อมอยากพยายามมีอิทธิพลต่อนโยบายของรัฐอยู่แล้ว

แนะ รบ.ใหม่จับตา 5 โครงการแก้ปัญหาทุนผูกขาด

สำหรับเรื่องที่อยากให้รัฐบาลใหม่จับตาดูมี 5 เรื่องคือ การประมูลก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ ที่ยังมีอยู่ ซึ่งต้องทำให้โปร่งใส เกิดการแข่งขันมากที่สุด เรื่องการซื้อขายไฟฟ้าที่ต้องมีการผลิตเพิ่ม แม้ว่าไฟฟ้าในประเทศมีสำรองเกินกว่าระดับที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่ต้องทำพลังงานทางเลือกเพิ่ม เรื่องการเจรจาสัมปทาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับการขนส่ง สนามบิน รถไฟความเร็วสูง การบริหารทรัพยากรธรรมชาติ และการควบรวมธุรกิจต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดการผูกขาดเพิ่มขึ้น

อย่างน้อยรัฐบาลใหม่จะต้องไม่ทำให้สถานการณ์แย่ลงจากเดิม ก่อนที่จะไปแก้ไขปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้วในอดีต

นายสมเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า การหาเสียงของพรรคก้าวไกลและพรรคการเมืองบางพรรคได้ใจประชาชนหลายเรื่อง จึงหวังว่าเมื่อได้เป็นรัฐบาลต้องช่วยกันเปลี่ยนระบบรัฐไทย ไปให้ไกลจากทุนพวกพ้อง ลดการผูกขาด เพิ่มความโปร่งใส ไม่ใช้ดุลยพินิจไปเอื้อ แต่เรื่องนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากให้พรรคการเมืองผลักดันฝ่ายเดียว แต่ประชาชนต้องช่วยรวมพลังยับยั้งทุนพวกพ้อง

นายสมเกียรติ ยังระบุอีกว่า ที่สำคัญ ค่านิยมนับถือเศรษฐีของเมืองไทยฝังรากลึกพอสมควร ประชาชนควรตั้งคำถาม อย่าไปอวย หรือนับถือเศรษฐี โดยไม่ได้ดูที่มาของความรวยว่า รวยจากการสร้างนวัตกรรมให้กับประเทศ หรือรวยจากการได้กำไรสูงเกินปกติจากลักษณะทุนพวกพ้อง และควรหลีกเลี่ยงการอุดหนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทุนผูกขาด ไม่ซื้อสินค้า บริการของบางเจ้าที่เราเห็นว่าเป็นปัญหา และที่สำคัญถ้าธุรกิจขนาดเล็กถูกทุนใหญ่รังแก ก็ควรรวมตัวกันส่งเสียงร้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหารุกลาม เพื่อยับยั้งทุนพวกพ้อง

อ่านข่าวอื่นๆ

"สุพันธ์ุ" เชื่อโหวต "พิธา" ผ่าน-ตั้ง รบ. ได้ ตลาดทุนสดใสแน่นอน

"กสิกร" เผยนักลงทุนเทขายตราสารหนี้ เหตุกังวลตั้งรัฐบาลช้า

รพ.เอกชน หวังรัฐบาลใหม่ดันไทยสู่ Medical Hub ดึงเงินเข้าประเทศ

"ส.อ.ท." เสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน หลังร่วมแลกเปลี่ยน "พิธา" กว่า 2 ชม.


"กสิกร" เผยนักลงทุนเทขายตราสารหนี้ เหตุกังวลตั้งรัฐบาลช้า

Wed, 24 May 2023 18:14:00

วันนี้ (24 พ.ค.2566) นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรค่าเงิน ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ประมาณ 137,000 ล้านบาท

แต่กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าและยังไม่ชัดเจน ทำให้นักลงทุนเทขายไปแล้วกว่า 82,000 ล้านบาท ประกอบกับส่วนเพิ่มของผลตอบแทนเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หรือ Risk Premium ตราสารไทยเพิ่มขึ้น ทั้งที่อันดับความน่าเชื่อและอัตราผิดนัดชำระต่ำ

เหล่านี้สะท้อนมุมมองนักลงทุนต่างชาติที่มองโอกาสการสร้างผลตอบแทนไทยลดน้อยลง จากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้ในระยะ 1 เดือนข้างหน้า ค่าเงินบาทจะผันผวนสูง ในกรอบที่ค่อนข้างกว้างที่ 33.80-35.40 บาทต่อดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ

ขณะเดียวกัน หากเกิดการพลิกขั้ว ไม่ใช่พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 อาจนำไปสู่การชุมนุมทางการเมือง ซึ่งกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จึงเห็นว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งเปิดเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อกระตุ้นการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศและการลงทุนภาคเอกชน หลังอียูส่งสัญญาณพร้อมเจรจา FTA กับประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวมากเกินไปแบบที่เป็นอยู่

ส่วนนโยบายหาเสียงอย่างการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นนโยบายที่นักลงทุนต่างชาติจับตามองก่อนตัดสินใจขยายการลงทุน แต่การบริหารนโยบายภายใต้ระบบพรรคร่วมรัฐบาล อาจทำให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เหมือนกับที่หาเสียงทั้งหมด จึงไม่กระทบเงินเฟ้อในปีนี้

ส่งผลให้ธนาคารกสิกรไทย คาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 31 พ.ค.นี้ คณะกรรมการฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2 ต่อปี และยังคงประมาณการจีดีพีทั้งปี ขยายตัวร้อยละ 3.7 จากอานิสงส์การท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศสูงถึง 30 ล้านคน

อ่านข่าวอื่นๆ

"สุพันธ์ุ" เชื่อโหวต "พิธา" ผ่าน-ตั้ง รบ. ได้ ตลาดทุนสดใสแน่นอน

"ส.อ.ท." เสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน หลังร่วมแลกเปลี่ยน "พิธา" กว่า 2 ชม.

เลือกตั้ง2556 : เอกชนหวังเร่งจัดตั้งรัฐบาล-แก้ปัญหาปากท้อง


พลังงาน-กกพ.ส่งสัญญาณค่าไฟ ก.ย.-ธ.ค.ลดสูงสุด 70 สต./หน่วย

Wed, 24 May 2023 11:41:00

สถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกที่เริ่มคลี่คลาย ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว LNG เป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผ่านมายังค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปี 2566 (ก.ย.-ธ.ค.) มีแนวโน้มลดลง

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2566 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาก๊าซฯ LNG ราคาตลาดจร หรือ SPOT LNG อยู่ที่ประมาณ 10.5 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู เป็นปัจจัยบวกต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำลง จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้างวดที่ 3 ของปีนี้ ลดลงได้ 40-50 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4 บาทกว่า

แต่หากในระยะต่อไป ราคา LNG ลดลงเหลือประมาณ 9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และ ปตท. สามารถซื้อได้ในราคาดังกล่าว รวมถึงการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย คาดว่าเพิ่มมากขึ้นตามแผน ก็จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ 70 สตางค์ต่อหน่วย จากราคาค่าไฟฟ้างวดปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย

ส่วนแนวทางการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตรนั้น จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ซึ่งต้องรอรัฐบาลใหม่พิจารณา หากไม่ต่ออายุออกไป ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นเป็น 37 บาทต่อลิตรทันที จากราคาปัจจุบัน 32 บาทต่อลิตร ซึ่งระหว่างนี้จะพิจารณาว่ากองทุนน้ำมันฯ จะเข้ามาช่วยอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบภาระประชาชน

ด้านนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ระบุว่า นโยบายด้านพลังงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างกิจการ โครงสร้างการใช้ก๊าซ ซึ่งขณะนี้ยังรอความชัดเจน หากมีนโยบายที่ชัดเจนออกมาแล้ว กกพ. ก็พร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลใหม่

ทั้งนี้ การนำก๊าซในอ่าวไทยมาให้ประชาชนก่อน เป็นนโยบายที่เคยทำมาแล้วในเดือน ม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า หากรัฐบาลใหม่มีนโยบายให้ทำอีกครั้งก็สามารถทำได้ แต่อาจทำให้อีกกลุ่มจ่ายค่าไฟแพงขึ้นด้วย

ส่วนมุมมองเอกชน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) มองว่า นโยบายหาเสียงเรื่องพลังงานปัจจุบันมักใช้คำว่า ค่าไฟถูกหรือแพง ซึ่งจริง ๆ แล้วนโยบายที่ดีคือราคาค่าไฟต้องเป็นไปตามกลไกตลาด มีการแข่งขันกันอย่างเสรี ตรวจสอบได้ พร้อมย้ำว่าระบบพลังงานเป็นเรื่องซับซ้อน ไม่มีสูตรลัด จึงต้องมีคนเก่งเข้ามาบริหารเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้

อ่านข่าวอื่นๆ

กกต.ไฟเขียว ครม.ใช้งบกลางกว่า 1 หมื่นล้านช่วยค่าไฟ พ.ค.-ส.ค.

"ส.อ.ท." เสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน หลังร่วมแลกเปลี่ยน "พิธา" กว่า 2 ชม.

ส.อ.ท.รับห่วงนโยบายปรับขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท


"ส.อ.ท." เสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน หลังร่วมแลกเปลี่ยน "พิธา" กว่า 2 ชม.

Wed, 24 May 2023 07:25:05

วานนี้ (23 พ.ค.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หารือร่วม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยใช้เวลาหารือรวมกว่า 2 ชม. โดย ส.อ.ท.เสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน ได้แก่ 1.การแก้ปัญหาต้นทุนพลังงาน, 2.การแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานและทักษะแรงงาน, 3.ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กรายกลาง, 4.การพัฒนาเศรษฐกิจยั่งยืน และ 5.ปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจและภาคเศรษฐกิจ

รวมถึง นโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลประกาศว่า ต้องปรับขึ้นทันทีแต่หลังการหารือ พบว่า ท่าทีฝ่ายการเมืองอ่อนลงเมื่อมีการแลกเปลี่ยนร่วมกัน

ทั้งนี้ นายพิธายังกล่าวว่า การเป็นรัฐบาลผสมทำให้ต้องพิจารณาใหม่เรื่องค่าแรงขั้นต่ำว่า ไม่สามารถปรับกระชากไปได้ทันที 450 บาท ภายใน 100 วันอย่างที่เขียนไว้ในนโยบายหาเสียงกับ กกต.ทำให้เกิดความกังวลจากบางภาคส่วนที่สนับสนุนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนี้ ว่านี่จะกลายเป็นนโยบายแรกที่ประกาศทำทันที แต่ทำไม่ได้ ใช่หรือไม่

ซึ่งจะว่าไป ไม่ใช่แค่ค่าแรงมีเรื่องค่าไฟที่เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ ลดราคาลงได้ ซึ่งค่าไฟเป็นต้นทุนใหญ่อีกอย่างของภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งประชาชนโดยทุกบ้านที่จะลดลงได้ 70 สต.

ขณะที่เมื่อวาน (23 พ.ค.2566) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยข่าวดี ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดเดือน ก.ย. - ธ.ค.จะลดได้แน่นอนสูงสุด 70 สต. เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ผลิตไฟฟ้าในตลาดจร อยู่ที่ 10.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู

จากก่อนหน้าที่แพง 30 - 40 ดอลลาร์ และก๊าซในอ่าวไทยมีแนวโน้มผลิตได้มากขึ้นอีก ดังนั้นนำเข้าก๊าซน้อยลง ราคาก๊าซต่ำลง ค่าไฟในอีกไม่กี่เดือนอาจเหลือหน่วยละ 4 บ. จาก 4 บ.70 สต.

"พิธา"นัดหารือหอการค้าสัปดาห์หน้า 

นอกจากภาคการผลิต ภาคการค้าอย่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ก็เตรียมจะพบกับนายพิธา เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.66) ทีมข่าวได้พบนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยเปิดเผยภายหลังเข้าร่วมเปิดงานแสดงสินค้าอาหาร (THAIFEX-ANUHA ASIA 2023)

พร้อมระบุถึงการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของนายพิธา ที่ได้มีการลงนาม MOU ร่วมกับ 8 พรรคการเมือง ใน 23 วาระว่า เป็นสัญญาณที่ดีในทางเศรษฐกิจและน่าพอใจเพราะมีการระบุแนวทางที่ว่า ที่รัฐบาลใหม่จะดำเนินการหลังจากนี้

พร้อมทั้งให้กำลังใจว่าที่รัฐบาลใหม่และเห็นว่านายพิธาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำงานได้รวดเร็ว โดยสิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นคือการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนและนักลงทุน

ในสัปดาห์หน้าหอการค้าไทย จะหารือร่วมกับนายพิธา ซึ่งได้รับการประสานงานจากพรรคก้าวไกลมาแล้ว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เห็นว่า ในระยะสั้นสิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งดำเนินการคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ

รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ที่ได้หาเสียงเอาไว้เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ เช่น การลดค่าไฟฟ้าการแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจเป็นต้น 

ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 450 บาทนั้นให้เป็นกลไกของไตรภาคีที่จะร่วมกันพิจารณา


ส.อ.ท.รับห่วงนโยบายปรับขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท

Tue, 23 May 2023 06:58:41

หากพิจารณา MOU การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค จะเห็นว่ามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอยู่หลายข้อ เช่น ข้อ 8.ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม

9.ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชน หนุนเอสเอ็มอี

10. ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม

11. ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ

12. ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

13. จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดงบประมาณฐานศูนย์ (zero-based budgeting)


14. สร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระทางการคลังระยะยาว

17. ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย คุ้มครอง รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต

18. แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน

19. ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะ ข้อ 19 ซึ่งเกี่ยวกับค่าแรงนี้ ที่ต้องติดตามโดยนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุว่า ขณะนี้ภาคเอกชนมีความกังวลเป็นอันดับแรก เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับการขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท

เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการเผชิญผลกระทบหลายด้าน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ต้นทุนวัตถุดิบ จนมาถึงค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้นจนกระทบต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ

นายเกรียงไกร ยังระบุว่า วันนี้ (23 พ.ค) สภาอุตฯ จะพบกับพรรคก้าวไกล โดยจะมีการหารือและรับฟังแนวทางการดำเนินนโยบายการขึ้นค่าแรง 450 บาททันที แต่ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย เรามีเวลาปรับตัวและหายใจ เพราะเขาใช้เวลา 4 ปี ในการทยอยปรับเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาภาคผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจขนาดใหญ่ และใช้แรงงานที่มีศักยภาพสูง หรือ มีความชำนาญเป็นพิเศษค่าแรงได้สูงกว่าขั้นต่ำไปนานแล้ว ดังนั้นอยากเห็นนโยบายที่เป็นระยะยาว หรือ สร้างศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถให้เพิ่มขึ้น 

ด้านบริษัทผลิตอาหารทะเลส่งออก จ.ตรัง ออกมาขานรับนโยบายพรรคก้าวไกล การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท แม้มองว่าอาจจะส่งผลกระทบกับธุรกิจบ้าง แต่หากมองภาพรวมเศรษฐกิจ และรายได้ของคนระดับรากหญ้า ค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ไม่ใช่เรื่องเกินเลย เพราะอัตราเงินเฟ้อปีนี้ที่สูงร้อยละ 5 ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น

ส่วนภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ ยังมีเวลาที่จะปรับตัว เพราะมองว่าอนาคตค่าแรงขั้นต่ำต้องปรับขึ้นอยู่แล้ว หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับค่าไฟที่ปรับขึ้นในช่วงแรก ผู้ใช้อาจปรับตัวทันจากนั้นก็จะชินไปเอง

นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด ฝากถึงไปยังรัฐบาลก้าวไกล ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ หากจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ก็ขอให้ทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันไดไม่ควรปรับขึ้นรวดเดียวเนื่องจากผู้ประกอบการอาจปรับตัวไม่ทัน และเป็นผลดีกับผู้ประกอบการด้วย

สำหรับนโยบายด้านภาษี ประกอบด้วย การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ธุรกิจ SMEs ให้เหลือ 0-15% ยังไม่ได้มีการศึกษาในเรื่องนี้

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกตั้ง2566 : เปิด (ร่าง) MOU ฉบับตั้งรัฐบาลก้าวไกลก่อนลงนาม 16.30 น. 

เลือกตั้ง2566 : "ศิธา" ถือว่า MOU ยกระดับการเมืองไทยสูงขึ้น ขอ ส.ว. ฟังเสียงประชาชน  

วิเคราะห์ : ก้าวไกล “MOU” การเมืองใช่แค่เรื่องของภาพที่เห็น  

เลือกตั้ง2566 : วินาทีประวัติศาสตร์ 8 พรรคลงนาม MOU ตั้ง "รัฐบาลก้าวไกล" ตัดมาตรา 112  

 


สภาพัฒน์ชี้ "หนี้ครัวเรือนไทย" ชะลอตัวลงแต่ทรงตัวสูง

Mon, 22 May 2023 12:38:11

วันนี้ (22 พ.ค.2566) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงาน สภาการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานภาวะทางสังคมไทยไตรมาสแรกของปี พบว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัว ส่งผลให้การจ้างงานทั้งในและนอก ภาคเกษตรกรรม ปรับตัวดีขึ้น อัตราว่างงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

แรงงานมีชั่วโมงทำงานล่วงเวลาและค่าจ้างเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 15,118 บาท/คน/เดือน

โดยหนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 4 ของปี 2565 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ร้อยละ 86.9/GDP คิดเป็นมูลหนี้ 15.09 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการก่อหนี้จากสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ แต่ที่ต้องจับตามอง คือ ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ สินเชื่อกลุ่มสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และหนี้เสียที่มาจากสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรกดเงินสดเพิ่มขึ้น ทั้งในแง่มูลค่าและจำนวนบัญชีเมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์โควิด-19

โดยแนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่ยังทรงตัวระดับสูงเช่นนี้ ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป จึงสนับสนุนให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินนโยบายปรับโครงสร้างหนี้รายย่อย และกำชับสถาบันการเงิน ระมัดระวังในการทำตลาด ผ่อนดอกเบี้ย 0% และมุ่งส่งเสริมการให้ความรู้การเงินกับประชาชน

สภาพัฒน์ ยังรายงาน ภาวะการเจ็บป่วยโรคเฝ้าระวัง ไตรมาสแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น จากการเปิดภาคเรียน เช่นเดียวกับ แนวโน้มผู้ป่วยโรคโควิด-19 และโรคลมแดด หรือ ฮีทโตรก ขณะที่สุขภาพจิตคนไทย มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ต้องจับตาปัญหาโรคซึมเศร้า กลุ่มประชากรในวัย 19-24 ปี ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากขึ้น

อ่านข่าวอื่นๆ :

เลือกตั้ง2566: เปิด (ร่าง) MOU ฉบับตั้งรัฐบาลก้าวไกลก่อนลงนาม 16.30 น.

ตร.ตั้งข้อหาพยายามฆ่า-ฝากขังชายยิงคนในครอบครัวปมมรดก

7 วัน ป่วยโควิดรักษาตัวใน รพ. 2,632 คน เสียชีวิต 64 คน