"ประกันสังคม" แจงปมขยายฐานอายุผู้ประกันตน ม.33

Sat, 7 Sep 2024 12:54:00

วันนี้ (7 ก.ย.2567) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงเรื่องการขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 ในการจ่ายเงินชราภาพ ยืดไปเป็น 65 ปี นั้น ข้อเท็จจริงคือการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.…. (ฉบับที่ 5) ที่อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาตามขั้นตอนนั้น มิได้เป็นการแก้ไขอายุการเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจากอายุ 55 ปี เป็น 65 ปี แต่อย่างใด เป็นเพียงการแก้ไขอายุแรกเข้าของการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งปัจจุบัน กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี

อ่านข่าว : กลุ่มลูกจ้างค้าน "ประกันสังคม" ขยายอายุรับเงินชราภาพเป็น 65 ปี

การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ ได้แก้ไขอายุแรกเข้าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นอายุระหว่าง 15 – 65 ปี ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หากได้รับการว่าจ้างงานจะสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทุกกรณีได้อย่างครบถ้วน เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับผู้ประกันตนที่เกษียณ หรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่ออายุ 55 ปี ยังคงสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพได้ตามปกติ

นายบุญสงค์ กล่าวว่า การขยายฐานอายุผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นมาตรการหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงสร้างหลักประกันทางสังคมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุกช่วงวัย ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด

อ่านข่าว : ป.ป.ช.ปัตตานีตรวจสอบโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ 2 แห่ง งบกว่า 45 ล้านบาท

"สายสุนีย์" สร้างประวัติศาสตร์คนแรกของโลก คว้าเหรียญทองวีลแชร์ฟันดาบครบ 3 ประเภท

 "ปางช้าง" ที่เป็นมิตร ยกระดับสวัสดิภาพช้างปลดระวางการทำงาน


ย้ายพื้นที่ ? ทางแก้ "คนกรุงเก่า" จำยอมรับน้ำแทน "คนกรุง"

Fri, 6 Sep 2024 21:02:00

วันนี้ (6 ก.ย.2567) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สิตางศุ์ พิลัยหล้า นักวิชาการด้านน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับ สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. หนึ่งในข้อเสนอเพื่อเป็นทางเลือกแก้ไขปัญาน้ำท่วมซ้ำซาก คือ การย้ายชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ไปอยู่พื้นที่อื่น แต่ต้องสำรวจความคิดเห็นแต่ละครอบครัว

และรัฐบาลต้องจัดงบประมาณเยียวยาชาวบ้านให้เหมาะสม หลังเกิดกรณีชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ระบุว่าต้องอยู่ใน "สภาวะจำยอม" รับน้ำแทนคนกรุงฯ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือทุกปี

แนวทางเบื้องต้นคือ ย้ายพวกเขาออกจากพื้นที่ไหม ไม่ได้บังคับ แต่ให้รัฐไปเสนอทางเลือก ว่าในพื้นที่แบบนี้ ท่วมทุกปี ท่วมแน่นอน ท่วมแบบไม่ต้องลุ้น เพราะยังไงก็ท่วม

ถ้าหากรัฐมีพื้นที่ที่ดี ที่สามารถจัดการให้เขาได้ หรือสนับสนุนเงินงบประมาณในการย้ายที่อยู่ ที่ความเสี่ยงต่ำกว่า แบบนี้มีใครที่จะยกมือไปบ้าง

หรือถ้าไม่ต้องการย้ายจริง ๆ ก็ดีดบ้านขึ้น แต่ทุกวันนี้ก็ดีดบ้านชาวบ้านจนไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าชาวบ้านจะเลือกทางนั้นก็ได้ 

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

สอดคล้องกับความเห็นของ รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญ IPCC ระบุว่าสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ อาจรุนแรงมากกว่าปี 2565 แต่การเจรจาต่อรองผันน้ำเข้าทุ่งรับน้ำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นทางเลือกเสนอย้ายชาวบ้านที่มีความพร้อม ออกจากพื้นที่ท่วมซ้ำซาก เพื่อนำพื้นที่มาเป็นแก้มลิง อาจเป็นวิธีสุดท้ายที่ทำยาก แต่รัฐบาลควรนำมาทบทวน

รัฐบาลต้องลองพูดคุย ถ้าให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ที่ใหม่และให้เงินเพิ่ม เงื่อนไขดีหรือไม่ และรัฐบาลก็จะได้พื้นที่ตรงนั้นมาเป็นแก้มลิงเพิ่มอีก การเจรจาแบบนี้ต้องคุยกันตอนที่ชาวบ้านสงบ อารมณ์ดี แต่ก็เข้าใจว่าชาวบ้านก็รักพื้นที่ของตัวเอง อาจมีบางคนยอมไปเพราะเศรษฐกิจไม่ดี 

ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ ย้ำว่าหลังจากนี้ภัยพิบัติจะรุนแรงมากขึ้นทุก 10 ปี สิ่งก่อสร้าง พนังป้องกันน้ำท่วมอย่างเดียวไม่เพียงพอ จึงต้องเร่งหาวิธีเตือนภัยที่แม่นยำ เพื่อลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในอนาคต

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

อ่านข่าว :

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "ยางิ" ขึ้นเกาะไห่หนาน คาดรุนแรงสุดรอบ 10 ปีของจีน

น้ำท่วม “กว๊านพะเยา” สู่ภาวะปกติ รอบนอกยังจม


กลุ่มลูกจ้างค้าน "ประกันสังคม" ขยายอายุรับเงินชราภาพเป็น 65 ปี

Fri, 6 Sep 2024 17:29:00

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2567 สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง คัดค้านขยายอายุผู้ประกันตนมาตรา 33 ชราภาพ ประกันสังคม จาก 55 ปี เป็น 65 ปี

ตามที่ รมว.แรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้แถลงต่อสาธารณชนผ่านสื่อมวลชน ใจความว่า การผลักดันนโยบายหรือทิศทางการขับเคลื่อนงานประกันสังคมในปี 2568 โดยให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน ตามร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … อาทิ ขยายฐานอายุผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็น 65 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 ที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39/1 เพื่อรับสิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, กรณีทุพพลภาพ และ ตาย

สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) และองค์กรสมาชิกได้ประชุมร่วมกันและมีมติ "ขอคัดค้าน ไม่เห็นด้วย" โดยมีเหตุผล ดังต่อไปนี้

1. ขัดต่อหลักการและสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 มาตรา 77 ทวิ และกระทบต่อวิถีชีวิตของคนทำงานเพราะคนงานส่วนมากจะเกษียณเมื่ออายุ 55 ปี การขยายเวลาออกไป จึงเป็นการประวิงเวลาและไม่เป็นคุณกับคนงาน

2. การอ้างประกันสังคมจะล้มเนื่องจากเงินไม่พอ เหตุเพราะรัฐบาลค้างจ่ายหลายหมื่นล้านบาท และ สัดส่วนการจ่ายสมทบลดลงจากในอัตราเท่ากัน 3 ฝ่าย คือ ในอัตราร้อยละ 5 ของค่าจ้าง และมีการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม ในต้นปี 2540 จากเหตุวิกฤต "ต้มยำกุ้ง" จนถึงบัดนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบ 30 ปี รัฐยังคงลดอัตราการจ่ายเงินสมทบเหลือเพียงร้อยละ 2.75 นอกจากจ่ายเงินสมทบอัตราที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการ และผู้ประกันตนแล้ว รัฐยังค้างจ่ายเงินสมทบอีก กว่า 68,000 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้ สสรท. ต้องติดตามทวงหนี้รัฐบาล เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล

3. การอ้างว่าประกันสังคมจะล้มไม่มีเงิน เพราะบริหารจัดการที่ไม่เป็นมืออาชีพ เช่น การลงทุนที่ไม่มีผลตอบแทนดีพอ เสี่ยง ขาดทุนจากการวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน เช่น การลงทุนในต่างประเทศ ทำให้สูญเงินจากอัตราแลกเปลี่ยน กว่า 14,400 ล้านบาท (ในปี 2566)

4. กรณีที่ผู้ประกอบการบางรายไม่ชำระเงินเข้ากองทุน และมีการตัดหนี้สูญอย่างมีนัยและอาจมองได้ว่าเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางไม่สุจริต หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งผู้ประกอบการบางรายเก็บเงินจากผู้ประกันตนแล้วไม่นำส่งประกันสังคม

5. นายจ้างที่เป็นส่วนราชการ จ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมล่าช้า บางส่วนราชการได้รับการยกเว้นเงินเพิ่ม ก่อให้เกิดปัญหากับกองทุนต่าง ๆ ของประกันสังคม

สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) จึงมีข้อเสนอเพื่อความมั่นคง ยั่งยืนของการประกันสังคมและเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตน ดังนี้

1. ยกเลิกแนวคิดนโยบาย การขยายอายุรับเงินชราภาพ จาก 55 ปี เป็น 65 ปี

2. แก้ไขกฎหมายประกันสังคมให้รัฐต้องจ่ายเงินสมทบในอัตราส่วนที่เท่ากันหรือมากกว่าผู้ประกอบการและผู้ประกันตน

3. ให้ขยายฐานสมาชิกประกันสังคมให้กว้างมากขึ้นให้ครอบคลุมถึงลูกจ้างภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ แรงงานนอกระบบ แรงงานภาคบริการ คนทำงานบ้าน และแรงงานข้ามชาติ

4. ปฏิรูปประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ บริหารจัดการที่มีแบบแผน มีวิสัยทัศน์ มั่นคง ยั่งยืน

5. ดำเนินงานการลงทุนและการได้รับผลตอบแทนที่ยั่งยืนด้วยการสร้างโรงพยาบาลประกันสังคม สร้างบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขของประกันสังคมเอง เพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตน และประโยชน์ที่ได้เงินจากการลงทุนนำไปสร้างความมั่นคง ยั่งยืนให้การประกันสังคม และการจัดตั้งสถาบันการเงิน (ธนาคารแรงงาน) เพื่อการระดมทุนจากผู้ประกันตนจากการออม การให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน และผู้ประกอบการ (นายจ้าง)

6. กระบวนการปฏิรูปประกันสังคมต้องเป็นประชาธิปไตยผ่านความเห็นชอบของผู้ประกันตน เพราะเงินกว่า 2.5 ล้านล้านบาท ของกองทุนประกันสังคมส่วนใหญ่เป็นของคนงานหรือผู้ประกันตน ดังเช่นครั้งนี้ คือ การขยายสิทธิประกันสังคมชราภาพจาก 55 ปี เป็น 65 ปี ไม่ผ่านความเห็นชอบ ไม่ผ่านความคิดเห็นจากผู้ประกันตน เป็นเหตุผลที่ สสรท. ออกแถลงการณ์คัดค้านเป็นเบื้องต้น และจะเรียกประชุมองค์กรสมาชิกและเครือข่ายเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านต่อไปจนถึงที่สุด

อ่านข่าวอื่น :

นายกฯ เข้าทำเนียบครั้งแรก นำ รมต.ถวายสัตย์ - ครม.ใหม่คึก

“ลุงป้อม”-“ผู้กอง” สร้างดาวคนละดวง


"6 ทุ่งรับน้ำ" พื้นที่กันชน-กักน้ำ-ระบายน้ำ ของอยุธยา

Thu, 5 Sep 2024 19:44:00

หลายปีที่ผ่านมา อยุธยาต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน น้ำที่ท่วมอยุธยามีสาเหตุหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งปัจจัยธรรมชาติ เช่น สภาพภูมิศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัจจัยที่เกิดจากมนุษย์ เช่น การใช้ที่ดิน การพัฒนาที่ไม่เหมาะสม และการจัดการน้ำที่ไม่เพียงพอ

หลากปัจจัย น้ำไหลหลากท่วม "อยุธยา" 

อยุธยาตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำของภาคกลางตอนล่างประเทศไทย ล้อมรอบด้วยลำน้ำใหญ่ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และ แม่น้ำลพบุรี ทำให้พื้นที่เมืองเก่ามรดกโลกนี้เป็น "แอ่ง" การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ฝนตกหนักบ่อยครั้งขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสาขาอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อฝนตกหนักน้ำในแม่น้ำไม่สามารถระบายได้ทัน ทำให้เกิดการล้นตลิ่งและท่วมเข้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ ของอยุธยา

การขยายตัวของเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเพิ่มขึ้นของประชากร ทำให้ความต้องการที่ดินเพิ่มขึ้น พื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งรับน้ำธรรมชาติ เช่น ทุ่งนา บึง และ ป่าชุ่มน้ำ ถูกทำลายหรือถูกเปลี่ยนไปใช้งานเป็นที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่พาณิชย์ ทำให้พื้นที่ระบายน้ำธรรมชาติลดลง เมื่อฝนตกหนัก น้ำก็ไม่สามารถซึมลงดินได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง

การก่อสร้าง เขื่อน ฝาย หรือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางน้ำธรรมชาติ ก็ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสาขาอื่น ๆ ทำให้เกิดการสะสมของน้ำในบางพื้นที่และขาดน้ำในบางพื้นที่ เมื่อการระบายน้ำไม่เป็นไปตามธรรมชาติก็ย่อมเพิ่มโอกาสการเกิดน้ำท่วม และเมื่อเส้นทางน้ำเปลี่ยน การสะสมตะกอนดินในแม่น้ำที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติก็ตามมา ตะกอนเหล่านี้จะลดความสามารถในการระบายน้ำของแม่น้ำ รวมถึงการก่อสร้างสะพาน ถนน หรืออาคารที่ไม่ได้คำนึงถึงทางน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดการปิดกั้นหรือชะลอการไหลของน้ำอีกได้

รวมถึงการจัดการน้ำในประเทศไทยที่บางครั้งยังไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำที่มีมากในช่วงฤดูฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การปล่อยน้ำจากเขื่อนหรือการจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา หากปล่อยน้ำจากเขื่อนมากเกินไปในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อป้องกันเขื่อนแตก แต่จะทำให้น้ำไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างอย่างรวดเร็ว น้ำก็ท่วมอยุธยาได้ง่ายอีก บางครั้งการบริหารจัดการน้ำท่วมของภาครัฐยังไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ทันท่วงที เช่น การแจ้งเตือนประชาชนล่าช้า การระบายน้ำไม่เป็นไปตามแผน หรือการจัดการพื้นที่รับน้ำที่ไม่เพียงพอ 

รู้จัก 6 พื้นที่ลุ่ม "แก้มลิง" รับน้ำอยุธยา

การกำหนดและการจัดการทุ่งรับน้ำในอยุธยามีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากน้ำท่วม ทุ่งรับน้ำเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น "พื้นที่กันชน" ที่ช่วยกักเก็บน้ำและชะลอการไหลของน้ำ ทำให้ลดความรุนแรงของน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เมืองและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ 

1.ทุ่งบางกุ่ม

ทุ่งบางกุ่มมีพื้นที่ประมาณ 83,000 ไร่ ประมาณ 132.80 ตร.กม. อยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงรางประมาณ 38,000 ไร่ เขตความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกะเทียม 45,000 ไร่ พื้นที่ ต.โก่งธนู ต.ดอนโพธิ์ ต.งิ้วราย อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี, ต.บ้านขล้อ ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน ต.บางพระครู ต.พระนอน ต.แม่ลา ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง ต.กะทุ่ม ต.มหาราช ต.น้ำเต้า ต.บางนา ต.โรง
ข้าง ต.เจ้าปลุก อ.มหาราช ต.วังแดง ต.โพธิ์เอน ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา, ต.บ้านหลวง ต.ดอนพุด ต.ดงตะงาว อ.ดอนพุด ต.ดอนทอง อ.หนองโดน จ.สระบุรี

พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางกุ่มมีระดับความสูงของพื้นที่เฉลี่ย +2.50 ม. รพก. (เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง) สภาพโดยทั่วไป รอบขอบพื้นที่ประกอบไปด้วยคันคลองชลประทาน คันกั้นน้ำ ถนน และดันนา ที่ระดับ +4.50 ม. รทก. ในช่วงหน้าน้ำหลากจะเกิดการท่วมขังของน้ำทุกปี ซึ่งในปีน้ำปกติจะเก็บกักระดับอยู่ที่ +4.50 ม. รทก. ในฤดูแล้งจะรักษาระดับน้ำในทุ่งที่ประมาณ +3.3.00 ม. รทก. ซึ่งเดิมเก็บกักอยู่ที่ +2.00 ม. รทก.มีพื้นที่ รองรับน้ำ 130 ล้าน ลบ.ม. 

ลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่โครงการโดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มค่อนข้างต่ำอยู่ 2 ฝั่งของคลองระบายใหญ่เริงราง พื้นที่รับน้ำของโครงการมีประมาณ 296 ตร.กม. กินพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา สถิติฝนเฉลี่ยรายปีในเขตลุ่มน้ำลพบุรีประมาณ 1,133 มม. ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยของลุ่มน้ำเท่ากับ 723 ล้าน ลบ.ม.

ทุ่งบางกุ่ม

ทุ่งบางกุ่ม

2.ทุ่งบางกุ้ง

ทุ่งบางกุ้ง เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมประจำมีคันคลองระบายเป็นแนวเขตปิดล้อม เก็บน้ำได้ดี มีประตูระบายน้ำบางกุ้งเป็นจุดระบายน้ำเข้า-ออก เป็นอาคารหลัก และยังมีท่อระบายน้ำหางกระเบนเหนือเป็นตัวเสริม 

พื้นที่ทุ่งบางกุ้งส่วนใหญ่จะติดกับคลองระบายน้ำต่าง ๆ เริ่มทำการปลูกข้าวนาปรังในเดือนมกราคม โดยสูบน้ำจากคลองระบายน้ำขึ้นมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว ใช้พันธุ์ข้าวอายุ 3-4 เดือน เก็บเกี่ยวประมาณเดือนปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม แล้วเริ่มทำข้าวนาปีและเก็บเกี่ยวให้เสร็จภายในวันที่ 15 กันยายน จากนั้นในปลายเดือนกันยายนจะใช้รองรับน้ำจากการตัดยอดน้ำหลาก และระบายน้ำออกจากทุ่งภายในเดือนธันวาคม เพื่อพักพื้นที่และรอทำนาปรังในช่วงเดือนมกราคม สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง

ทุ่งบางกุ้งมีสภาพพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ อาณาเขตพื้นที่ทุ่งครอบคลุม 7 ตำบล คือ ต.โรงช้าง ต.บางเสด็จ อ.ผักไห่ จ.อ่างทอง, ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครอยุธยา, ต.พุทเลา ต.บ้านลี่ ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ครอบคลุม ประมาณ 17,000 ไร่ โดยพื้นที่ทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช สำงานชลประทานที่ 10

ทุ่งบางกุ้ง

ทุ่งบางกุ้ง

3.ทุ่งป่าโมก

ทุ่งป่าโมกเป็นที่ราบลุ่มคล้ายท้องกระทะ มีคลองธรรมชาติหลายสาย เป็นพื้นที่รับน้ำนองจากแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางหลวง (โผงเผง) และแม่น้ำน้อย มีพื้นที่รับน้ำทั้งหมด 50,706 ไร่ เป็นพื้นที่ทำนาซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ใช้เป็นแก้มลิงธรรมชาติ 20,854 ไร่ รองรับน้ำได้ 50 ล้าน ลบ.ม. ที่ความลึกน้ำเฉลี่ย 1.50 ม. โดยจะเป็นระดับน้ำที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและเส้นทางการสัญจรทั้งสายรองและสายหลัก ลักษณะสภาพภูมิประเทศตอนบนของพื้นที่เป็นที่ดอน ตอนกลางและตอนล่างพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มแอ่งกระทะ ในช่วงฤดูฝนน้ำจะหลากเข้าท่วมภายในพื้นที่ทางคลองบางหลวง (คลองโผงเผง) และทางแม่น้ำน้อยทำให้ช่วงปลายขอของดูฝนเกิดน้ำท่าท่วมชังในพื้นที่เป็นประจำทุกปี

ในฤดูน้ำหลากปี 2560 ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงขึ้น สาเหตุจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าทางคลองโผงเผงส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงกว่าสันบาน ประตูระบายน้ำกุฎี, ปตร.วัดใบบัว และ ปตร.คลองตานึ่ง ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งป่าโมกเกินศักยภาพที่กำหนดไว้ ทำให้เส้นทางการสัญจรบางสายและบ้านเรือนของประชาชนเกิดความเสียหาย

ทุ่งป่าโมก

ทุ่งป่าโมก

4.ทุ่งผักไห่

ทุ่งผักไห่อยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ อ.ผักไห่ อ.บางช้าย อ.บาลบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ฝั่งขวาของแม่น้ำน้อยคิดเป็นพื้นพื้นที่ทุ่งรับน้ำประมาณ 124,879 ไร่ บริเวณด้านใต้ของทุ่งมีคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน เชื่อมระหว่างแม่น้ำน้อยกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร

ทุ่งผักไห่มีพื้นที่ลักษณะลุ่มต่ำแอ่งกระทะ มีระดับดินเฉลี่ยในช่วง +1.50 ถึง +2.00 ม.รทก. ในขณะที่คันคลองชลประทานโดยรอบพื้นที่มีระดับ +4.50 ถึง +5.50 ม.รทก. เมื่อถึงช่วงฤดูฝนของทุกปีถ้าระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงกว่าคันป้องกันจะทำให้น้ำลันคันคันป้องกันเข้าสู่พื้นที่ ดังนั้น จึงทำให้ทุ่งผักไห่เป็นพื้นที่รับน้ำตามธรรรมชาติไปโดยปริยาย

ทุ่งผักไห่

ทุ่งผักไห่

5.ทุ่งบางบาล-บ้านแพน

ทุ่งบางบาล-บ้านแพน เป็นเกาะพื้นที่ราบลุ่มผืนใหญ่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขต อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขต อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาและ ต.โผงเผง อ.บางบาล จ.อ่างทอง รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 34,690 ไร่ ทุ่งบางบาล-บ้านแพน มีแม่น้ำล้อมรอบ 2 สาย โดยเริ่มตั้งแต่คลองโผงเผง (บางหลวง) ไหลลงทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปบรรจบกับแม่น้ำน้อยที่ อ.เสนา จากนั้นก็ไหลเรื่อยมาจนถึง อ.บางไทร ซึ่งเป็นสถานที่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยบรรจบกัน 

พื้นที่ทุ่งบางบาล-บ้านแพน อยู่ในเขตรับผิดขอบของฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล สำนักงานชลประทานที่ 10 เป็นพื้นพื้นที่ทำนาที่เป็นพื้นที่เป้าหมายในการใช้เป็นทุ่งรับน้ำ 33,230 ไร่ แบ่งเป็น ทุ่งบางบาลมีพื้นที่รับน้ำ 27,450 ไร่ กําหนดความลึกระดับน้ำเฉลี่ยในพื้นที่ 2 เมตร
ส่วนทุ่งบ้านแพนมีพื้นที่รับน้ำประมาณ 5,780 ไร่ กําหนดความลึกระดับน้ำเฉลี่ยในพื้นที่ 2 เมตร รวมทั้ง 2 ทุ่งรองรับน้ำได้ 107 ล้าน ลบ.ม. 

ทุ่งบางบาล-บ้านแพน

ทุ่งบางบาล-บ้านแพน

6.ทุ่งเจ้าเจ็ด

ทุ่งเจ้าเจ็ดดมีลักษณะของพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นลุ่มต่ำแอ่งกระทะ อยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบํารุงรักษาเจ้าเจ็ด สํานักงานชลประทานที่ 11 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ อ.เจ้าเจ็ด อ.บางซ้าย อ.เสนา อ.บางไทร อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, อ.สองพี่น้อง และ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ฝั่งขวาของแม่น้ำน้อยและฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน คิดเป็นพื้นที่ทุ่งรับน้ำประมาณ 350,000 ไร่

ด้านใต้ของทุ่งมีคลองพระยาบรรลือเป็นแนวเขต เชื่อมระหว่างแม่น้ำน้อยกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร โดยทุ่งเจ้าเจ็ดมีลักษณะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำแทบจะทั้งพื้นที่ และเป็นพื้นที่ที่อยู่ด้านท้ายของแม่น้ำน้อย มีแม่น้ำและคลองล้อมรอบ ทุ่งเจ้าเจ็ดมีความจุรองรับน้ำหลากได้ 560 ล้าน ลบ.ม.

ทุ่งเจ้าเจ็ด

ทุ่งเจ้าเจ็ด

ทำไมต้องมี "ลุ่มรับน้ำ" 

ลุ่มรับน้ำ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ลุ่มน้ำ คือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ทำหน้าที่รวบรวมน้ำจากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้า หรือพื้นที่การเกษตร เป็นแหล่งกักเก็บและจัดการน้ำตามธรรมชาติ และไหลรวมกันสู่แหล่งน้ำหลัก เช่น แม่น้ำ ลำธาร ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร ช่วยลดการไหลบ่าของน้ำที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วม ลุ่มน้ำที่มีการจัดการดีจะช่วยลดผลกระทบจากฝนที่ตกหนักและพายุ และยังทำหน้าที่จัดหาน้ำให้กับการเกษตรและอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำจำนวนมาก เช่น การปลูกข้าว การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ 

ลุ่มน้ำยังเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลายชนิด รวมถึงพืชพรรณท้องถิ่นที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศ พื้นที่ป่าภายในลุ่มน้ำทำหน้าที่เป็น "ตัวกรองธรรมชาติ" สามารถดักจับตะกอน สารพิษ และสารเคมีจากการเกษตรหรืออุตสาหกรรมที่อาจไหลลงสู่แหล่งน้ำ ช่วยให้แหล่งน้ำสะอาดและปลอดภัยสำหรับการใช้งานของมนุษย์และสัตว์

ในปัจจุบัน ลุ่มน้ำหลายแห่งถูกใช้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ (Hydropower) โดยการสร้างเขื่อนหรือโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ใช้กระแสน้ำในการหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและยั่งยืน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ สร้างรายได้และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น หลายชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตลุ่มน้ำ สะท้อนถึงบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชนท้องถิ่น เช่น การประมง พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำ และการดำรงชีพในรูปแบบต่าง ๆ

ปัญหา-ความท้าทาย การจัดการ "ลุ่มรับน้ำ"

  1. การเสื่อมโทรมของลุ่มน้ำ อันเนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่า การขยายตัวของชุมชนและพื้นที่เกษตร และการใช้สารเคมีในเกษตรกรรม ทำให้ลุ่มน้ำเสื่อมโทรม คุณภาพน้ำลดลง และส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
  2. การจัดการน้ำที่ไม่ยั่งยืน เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้สูญเสียน้ำในการชลประทาน การระบายน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ และการสร้างเขื่อนที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ 
  3. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฝนตกหนัก น้ำท่วมบ่อยครั้ง ภาวะภัยแล้งที่รุนแรงขึ้น ทำให้การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น

ที่มา : การบริหารจดการน้ำและการประเมินผลสัมฤทธิ์การใช้พื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อ่านข่าวอื่น :

จ่อแก้มาตรฐานทางจริยธรรม “ของแสลง” นักการเมือง

นายกฯ ชี้ใช้คำแรงไป "ครม.สืบสันดาน" ย้ำตั้งใจทำงาน

จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยงน้ำท่วม กรมชลฯ เล็งเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยารับฝน ก.ย.


ศธ.สั่งปิดศูนย์การเรียนฯ ลอยแพเด็กพม่า หลังไวรัลคลิปร้องเพลงชาติ

Thu, 5 Sep 2024 15:11:00

วันนี้ (5 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในกลุ่มคนทำงานด้านการศึกษา หลังจากเมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำป้ายประกาศไปติดที่หน้าศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

บนป้ายเป็นเอกสารระบุว่า “การเรียนมิตตาเย๊ะ จัดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 จึงให้ยุติกิจการดังกล่าวทันที และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน”

ทั้งนี้ในเฟสบุ๊กของของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2567 นายโชคดี ศรัทธากาล ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายเสาวพจน์ รัตนบุรี รองศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายสุภนันทน์ จันทรา นิติกรชำนาญการ ร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีการจัดตั้งสถานศึกษา และการจัดการศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และวันที่ 4 ก.ย.2567 นายโชคดีลงพื้นที่ติดประกาศให้ยุติกิจการดังกล่าวทันที และอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานจัดการศึกษาให้เด็กเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากประเทศพม่าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีเด็กอยู่ร่วมพัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ

อย่างไรก็ตามการสั่งปิดศูนย์การเรียนแห่งนี้ ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากปัจจุบันมีศูนย์ประสานงานการศึกษาในลักษณะนี้อยู่ในประเทศไทยถึง 63 แห่ง มีเด็กเคลื่อนย้ายจากประเทศพม่า กำลังศึกษาอยู่ไม่น้อยกว่า 20,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีคลิปเด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ร้องเพลงชาติไทย และเพลงชาติพม่าหน้าเสาธง ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ร้องเพลงชาติพม่าชัดกว่าเพลงชาติไทย และมีความเห็นต่าง ๆ จากคนไทยจำนวนมากในลักษณะที่ระบุว่า ไม่เหมาะสมเพราะเป็นแผ่นดินไทย เรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ทำให้ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งให้มีการตรวจสอบสถานศึกษาอย่างเข้มข้น

นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (Labor Protection Network : LPN) กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าการปิดศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ เป็นความบ้าจี้ของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากคลิปเด็กร้องเพลงชาติพม่าในไทยหรือไม่ แต่ปัจจุบันมีเด็กเคลื่อนย้ายจากพม่านับหมื่นคน เรียนอยู่ในศูนย์การเรียนในลักษณะเดียวกับศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ เพียงแต่ศูนย์การเรียนที่สุราษฎร์ธานี แห่งนี้ เป็นการออกแบบและประสานงานกันเองของคนพม่า ที่เชื่อมต่อกับภาคเอกชนไทย ที่ให้เช่าสถานที่แต่ไม่มีร่มใหญ่ และเท่าที่รู้เขาก็พยายามที่จะจดทะเบียนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ แต่เนื่องจากไม่มีเจ้าภาพ ทำให้ระบบการจัดการอาจมีปัญหา แต่การปิดครั้งนี้เป็นการใช้อำนาจของศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด

ผู้อำนวยการ LPN กล่าวว่า ในส่วนของ จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีศูนย์ในลักษณะเดียวกับที่สุราษฎร์ธานี อยู่หลายแห่ง โดยมีศูนย์ใหญ่อยู่ที่ อ.กระทุ่มแบน แต่การออกแบบและบริหารเป็นเครือข่ายชาวพม่า ที่อยู่ภายใต้ร่มของ LPN และประสานกับทุกหน่วยงาน ซึ่งได้เคยมาเยี่ยมดูที่ศูนย์กันหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อมีคลิปไวรัลของเด็กนักเรียน ที่ร้องเพลงชาติพม่า เกิดขึ้นในโลกออกไลน์และกระทรวงศึกษาธิการ สอบถามมาว่า ใช่เป็นโรงเรียนที่ LPN เป็นร่มให้หรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบว่าไม่ใช่ โดยที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัด ตม.และหน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้าไปเยี่ยมแล้ว เพื่อให้เห็นการจัดการร่วมกันอย่างไ รในการดูแลคุ้มครองเด็ก ซึ่งเราได้ทำเอกสารประวัติเด็กครบทุกคนและรู้ว่าพ่อแม่อยู่ที่ไหน เพื่อให้รู้ตัวตน

การจดทะเบียนให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น การจัดทำหลักสูตร ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ที่ผ่านมามีเด็กจำนวนหนึ่งทะลักเข้าประเทศไทยเนื่องจากต้องหนีสงคราม และความขัดแย้งในประเทศพม่า และผู้ปกครองหนีการเกณฑ์ทหาร ทำให้เข้าเรียนระหว่างเทอมไม่ได้ และไม่รู้จะไปไหนจึงต้องใช้ศูนย์การเรียนในลักษณะนี้ และผมเรียกว่าเป็นฝึกอบรมเด็กเพื่อเตรียมความพร้อม ตอนนี้มีเด็กเข้ามาเยอะมาก ทั้งใน กทม.และปริมณฑล

ผู้อำนวยการ LPN กล่าวว่า ในระดับนโยบายรัฐบาล ต้องเข้าใจต้นทางของเด็กเหล่านี้ให้มากเพราะการใช้เรื่องความมั่นคงเป็นหลัก โดยการจับและผลักดันกลับอย่างเดียว ก็ไม่เป็นผลดีเพราะเหมือนกับส่งเขากลับไปตาย และคนเหล่านี้ต่างหนีร้อนมาพึ่งเย็น ที่สำคัญคือการดูแลและคุ้มครองเด็กควรประกาศให้ชัดเจนว่า เด็กทุกคนที่เกิดและอยู่ในประเทศไทย หรือเป็นผู้ติดตาม รัฐต้องให้การปกป้องคุ้มครอง

“ศูนย์การเรียนแต่ละแห่งที่ตั้งขึ้นมา ภาครัฐควรเข้ามาส่งเสริมและกำกับดูแล ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ไม่ใช่จ้องที่จะปิดเขา ควรมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อเป้าหมายในการดูแลคุ้มครองเด็ก อย่าลืมว่า ศูนย์เหล่านี้ทำหน้าที่ดูแลเด็กแทนรัฐด้วยซ้ำไป เพราะรัฐเองไม่มีนโยบายเชิงรุก ที่จะเข้ามาดูแลเด็กกลุ่มนี้ แต่การที่รัฐไปชี้นิ้วบอกอันนั้นผิด อันนี้ผิด ทำให้จะตายกันหมด ถ้าคุณเอากฎหมายเข้าไปจัดการกับศูนย์การเรียนทั่วประเทศ ผิดหมดเลยเพราะบางศูนย์ไม่ได้มีสถานภาพที่จะไปจดเบียน มีเด็กไม่น้อยกว่า 5-6 หมื่นคนอยู่ในศูนย์การเรียนแบบนี้” นายสมพงค์ กล่าว

 


กลัวเกิดชาติหน้า "พิการ" สาเหตุคนไทยไม่ยอมบริจาคอวัยวะ

Wed, 4 Sep 2024 19:36:00

ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย องค์กรสมาชิกทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดงาน World Organ Donation Day 2024 ภายใต้แคมเปญ "Give LIFE Get LIVES: สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ" 

นพ.ศักดา อัลภาชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาทีมจัดเก็บอวัยวะและศูนย์ผ่าตัดปลูกถ่ายไตในทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และสภากาชาดไทยสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะที่สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกถึง 8 ชีวิต 

ด้าน นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะสะสม จำนวน 1,646,469 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.5 ของประชากรทั่วประเทศ และในปี 2567 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะแล้วทั้งสิ้นเพียง 485 ราย

เนื่องจากผู้ที่สามารถบริจาคได้ต้องอยู่ในภาวะสมองตาย และญาติต้องยินยอมเท่านั้น หรือเป็นโรคติดเชื้อรุนแรง มะเร็ง หรืออวัยวะเสื่อม ไม่สามารถบริจาคได้

จึงมีผู้รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะจำนวนมาก โดยมีผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง มีจำนวนมากถึงหลักแสนคนขึ้นไป และทุกวันนี้ต้องล้างไตผ่านช่องท้องหรือไม่ก็ฟอกเลือด แต่วิธีดีที่สุดคือการปลูกถ่ายไต ซึ่งก็ต้องรอรับอวัยวะบริจาค ขณะที่ดวงตาก็เช่นกันมีผู้มองไม่เห็นหลักหมื่นคน แต่ผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาจริง ๆ ได้เพียงปีละไม่ถึง 1,000 คน ซึ่งอวัยวะทุกส่วนยังมีคนไข้อีกจำนวนมากที่เฝ้ารออย่างมีความหวัง

1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต สามารถบริจาคได้ 8 อวัยวะ ได้แก่ ไต 2 ข้าง ปอด 2 ข้าง หัวใจ ตับ ตับอ่อน และลำไส้เล็ก

นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ กระจกตา ลิ้นหัวใจ หลอดเลือด ผิวหนัง กระดูกและเส้นเอ็น และในการส่งทีมแพทย์และพยาบาลไปยังโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคสมองตายต่าง ๆ เพื่อนำผ่าตัดเอาอวัยวะออก และเก็บรักษาไว้ด้วยน้ำยาถนอมอวัยวะในกระติกน้ำแข็งและเอากลับมาผ่าตัดให้ทันที เพราะอวัยวะที่ผ่าตัดมานั้นมีเวลาขาดเลือดจำกัด โดยหัวใจ อยู่ได้แค่ 4 ชั่วโมง ตับ 12 ชั่วโมง ไต 24 ชั่วโมง ทีมแพทย์ต้องทำงานแข่งกับเวลา

นพ.วิศิษฏ์ กล่าวเสริมว่า ต้องสร้างความเข้าใจให้กับสังคมว่า การบริจาคอวัยวะและดวงตา เป็นบุญในการช่วยชีวิต อย่ากลัวว่าบริจาคไปแล้วเมื่อเราไปเกิดในชาติหน้าจะทำให้พิการ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ แต่ที่แน่ ๆ เราทำดีก็ต้องได้สิ่งดี ๆ แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องช่วยกันหลาย ๆ ฝ่าย

จากการสำรวจความคิดเห็นที่ผ่านมาพบว่า 80% เห็นด้วยกับการบริจาคอวัยวะ แต่มีเพียง 20% ที่จะยอมบริจาคอวัยวะ 

ช่องทางร่วมบริจาคอวัยวะ

บริจาคออนไลน์www.organdonate.in.th หรือ https://eyeorgandonate.redcross.or.th/ และ แอปพลิเคชัน "บริจาคดวงตา-อวัยวะ"

บริจาคด้วยตนเอง : ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) ชั้น 5 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ

บริจาคผ่านเครือข่ายฯ อาทิ

อ่านข่าวอื่น :

จับกระแสการเมือง:วันที่ 4 ก.ย.67 แม่สาวแก้มเรื่อ โผบิ๊ก ทร.ยังไม่ลงตัว "เรืองไกร" ร้องต่อ (ไม่รอ ) รัฐบาลแพทองธาร

"ภูมิธรรม"​ ไร้กังวลคุมกลาโหม​ จำไม่ได้​ภาพสหายใหญ่​ 50 ปีก่อน

รมว.แรงงาน ยืนยัน ปรับค่าจ้างขั้นต่ำบางอาชีพ 400 บาท 1 ต.ค.

 


สสส.ชี้พนันออนไลน์ ขยายตัวปีละ 10% จี้ ศธ.จัดหลักสูตรต่อต้าน

Wed, 4 Sep 2024 17:51:00

วันนี้ (4 ก.ย.2567) นายจุมพล รอดคำดี ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเป็นประธานที่ปรึกษา สสดย. กล่าวว่า กล่าวในงานเสวนา "รู้เท่าทันสื่อการตลาด เวปไซต์ออนไลน์" จัดโดยสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน โดยระบุตอนหนึ่งว่า อันตรายจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ในปัจจุบัน พบว่า มีการใช้กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเป้าหมายมายังผู้เล่น ที่ขาดความเข้าใจถึงกลไกการสื่อสารการตลาด จึงทำให้เด็กถูกล่อหลอกให้เข้าเล่นพนันออนไลน์จำนวนมาก

โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน โดยพบว่า 91% เป็นคนรุ่นใหม่ มีความคิดที่จะไม่หยุดเล่นการพนัน เพื่อหวังจะได้เงินที่เสียไปคืนมา อีกทั้งมีสัญญาณจะเพิ่มจำนวนเงินเล่นเพื่อความตื่นเต้นเร้าใจด้วย นับเป็นภัยที่รุกคืบเข้ามาในชีวิตของผู้คนในสังคม

ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวว่า การพนันออนไลน์มีการขยายตัวมากในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ปี 2565 พบว่า มีแนวโน้มขยายตัวทั่วโลกถึง 10% ต่อปี

เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การสื่อสาร และธุรกิจออนไลน์ ที่ทำให้ประชาชนทั่วโลกรวมทั้งเด็กและเยาวชนเข้าถึงโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน แท็บเลต และเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ได้สะดวกมากขึ้น

สำหรับไทย การพนันออนไลน์ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีใครสามารถจัดให้คนเข้าเล่นได้ การป้องกันและปราบปรามการพนันออนไลน์จึงปรากฏเป็นวาระแห่งชาติ และเคยมีมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การลดผลกระทบจากการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน เมื่อปี พ.ศ. 2564 ที่วุฒิสภาเป็นเจ้าของเรื่อง แต่กลับพบว่ามีผู้มีอำนาจถือกฎหมายในมือหลายคน หลายระดับเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งทางตรงและทางอ้อม

ด้าน ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะเอนก นายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า สาเหตุหลักในการเล่นพนันออนไลน์ของเด็กในปัจจุบัน มีทั้งปัจจัยภายใน เช่น ความอยากรู้อยากลอง สัมพันธภาพในครอบครัว การพนันสามารถตอบสนองความต้องการของเด็ก

และปัจจัยภายนอก เช่น มีทัศนคติว่าการเล่นพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมทั่วไปที่สามารถทำได้ ส่งผลให้เด็กเสียความสามารถในการควบคุมตนเอง เสียวินัยทางการเงิน มีพฤติกรรมการโกหก การหาเงินด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม

กลยุทธ์การตลาดที่เว็บไซต์พนันออนไลน์ใช้เพื่อจูงใจเด็ก มีทั้งตัวผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ระดับที่ต่ำมาก ๆ มีการเสนอให้เล่นฟรี กลยุทธ์ช่องทางการเข้าถึงที่หลากหลาย แปะลิงก์ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ การยิงโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มเด็กและเยาวชน

นอกจากนี้อินฟลูเอนเซอร์ยังมีรูปแบบการจูงใจที่หลากหลายที่ชวนให้เด็กเล่นพนันออนไลน์ เช่น สื่อว่าเล่นแล้วรวย มีเงินเข้ามาจริง ๆ หรือใช้คนที่มีชื่อเสียงมาโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา นักแคสต์เกม นักดนตรี หรือกลุ่มเด็กและเยาวชนด้วยกันเอง ทำให้เด็กชื่นชอบ ศรัทธา นำไปสู่การเลียบแบบ และเริ่มต้นการเล่นการพนันออนไลน์ในที่สุด

ทั้งนี้ผลการวิจัยการสร้างการรู้เท่าทันสื่อการตลาดเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้มีการเสนอ 10 แนวทางการสร้างการรู้เท่าทันสื่อการตลาดของการพนันออนไลน์ คือ สร้างทัศนคติต่อต้านการพนัน ใช้สื่อและผู้มีอิทธิพลทางความคิด กระตุ้นการเรียนรู้ในสังคม เสริมสร้างความรู้ด้านการเงิน ให้ความรู้เรื่ององค์ประกอบของการพนัน ส่งเสริมครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง พัฒนาศักยภาพครู ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม ศึกษาและปรับใช้แนวทางต่างประเทศ และกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในหลายประเด็น เพื่อรับมือกับภัยพนันออนไลน์ โดยขอให้ภาครัฐ มีนโยบายจัดการการพนันโดยคำนึงถึงผลกระทบทางสังคม ให้โรงเรียนจัดให้เนื้อหาการต่อต้านพนันออนไลน์อยู่ในหลักสูตร สื่อมวลชน สื่อออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์ ควรตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยของการพนันออนไลน์ นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นกลางและน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการพนันออนไลน์

นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชนเป็นภัยออนไลน์ที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม สอดคล้องกับมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับสื่อเพื่อเด็ก โดยหวังว่าจากข้อเสนอในงานวิจัยครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในทุกภาคส่วน เพื่อให้เด็กเด็กและเยาวชนปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวและลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด

อ่านข่าว:

เช็กนิยาม "หมาอันตราย" คาดกฎหมายลูกบังคับใช้เร็วสุดสิ้นปีนี้

ดรามา "ป้ามล" หั่นงบ ตัดตำแหน่งผอ.บ้านกาญจนาภิเษก

อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน 2567 เงินเข้าวันไหน

 


ไทยพีบีเอส เกาะติดแข่งขัน WorldSkills 2024 ลุ้นเยาวชนไทยแข่งทักษะด้านอาชีพบนเวทีโลก

Wed, 4 Sep 2024 17:48:00

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ได้รับการ คัดเลือกจาก WorldSkills International ให้ทำหน้าที่รายงานการแข่งขันเวทีระดับโลก WorldSkills 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน 2567 ที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยถือเป็นสื่อมวลชนไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบภารกิจนี้ โดย ไทยพีบีเอส วางแผนรายงานความเคลื่อนไหวเกาะติดกิจกรรมตลอดการแข่งขัน

สำหรับการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ หรือ Worldskills 2024 เป็นการแข่งขันทักษะด้านอาชีพในระดับโลก โดยในปีนี้ จัดการแข่งขันที่เมืองลียง สาธารณรัฐฝรั่งเศส ประเทศไทย ได้ส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขัน 22 คน ใน 19 สาขา ได้แก่ สาขากราฟิกดีไซน์ สาขาการก่ออิฐ สาขาการจัดดอกไม้ สาขาการแต่งผม สาขาการปูกระเบื้อง สาขาการสร้างโมเดลในเกมสามมิติ สาขาเทคโนโลยีงานเชื่อม สาขาเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร สาขาเทคโนโลยีเว็บ สาขาเมคคาทรอนิกส์ (ประเภททีม) สาขาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ (ประเภททีม) สาขาการซ่อมตัวถังรถยนต์ สาขาการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย สาขาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม สาขาการประกอบอาหาร สาขาเครื่องจักรกล CNC (เครื่องกลึง /สาขาเทคโนโลยีสีรถยนต์ และสาขาอุตสาหกรรม 4.0 (ประเภททีม) ซึ่งผลการแข่งขันจะแบ่งเป็น รางวัลเหรียญทอง /เหรียญเงิน /เหรียญทองแดง รวมทั้ง ประกาศนียบัตรฝีมือยอดเยี่ยม

ไทยพีบีเอส เกาะติดแข่งขัน WorldSkills 2024 วันที่ 10-15 กันยายน 67

ไทยพีบีเอส เกาะติดแข่งขัน WorldSkills 2024 วันที่ 10-15 กันยายน 67

การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ WorldSkills จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะฝีมือแรงงานของเยาวชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดยจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2493 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน ซึ่งกำหนดให้จัดการแข่งขันขึ้นทุก 2 ปี และจัดให้มีการแข่งขันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยประเทศไทยได้สมัครเป็นสมาชิกองค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ (WorldSkills International) เมื่อปี 2536 และได้จัดส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติมาตามลําดับจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้แสดงศักยภาพของเยาวชนไทย สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นต่อไปด้วย

สามารถติดตามทุกข่าวสารการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ หรือ Worldskills ได้ระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน 2567 นี้ทุกช่วงข่าวไทยพีบีเอส กดหมายเลข 3 และทุกช่องทางออนไลน์

สามารถติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
▪ Website : www.thaipbs.or.th
▪ Application : Thai PBS
▪ Social Media : Thai PBS , Thai PBS News : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, Instagram, Threads, Linkedin

อ่านข่าว :
เรารู้อะไรจาก Acoustic Kitty โครงการสัตว์สายลับฉบับ "เหมียว"
"แวว สายสุนีย์" เฉือนชนะจีน คว้าเหรียญทอง วีลแชร์ฟันดาบ
ไทม์ไลน์ ครม.แพทองธาร เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ 6 ก.ย.ประชุมนัดพิเศษ 7 ก.ย.

 


รมว.แรงงาน ยืนยัน ปรับค่าจ้างขั้นต่ำบางอาชีพ 400 บาท 1 ต.ค.

Wed, 4 Sep 2024 16:26:19

วันนี้ (4 ก.ย.2567) ความคืบหน้าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท รอบที่ 3 หลังจากปีนี้มีการประกาศปรับค่าจ้างไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 1 ม.ค. และวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการค่าจ้าง เตรียมเปิดประชุมพิจารณาการปรับขึ้นค่าจ้างอีก 2 ครั้งภายในเดือน ก.ย.นี้ และเตรียมเคาะตัวเลขสรุปให้เสร็จสิ้นทันที

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ยืนยันยังคงเดินหน้าดำเนินการตามนโยบายที่ทำไว้ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน โดยเฉพาะเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ที่จะมีการประกาศปรับขึ้นให้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้แน่นอน แต่จะเป็นการปรับขึ้นบางอาชีพ หรือ บางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งต้องรอผลจากที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยเชื่อว่า จะได้ผลตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยหลังจากนี้ ตนเองพร้อมเดินหน้าทำตามนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

ส่วนการปิดกิจการของสถานประกอบการทั้งขนาดใหญ่และ SME นั้น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน พร้อมเชื่อว่า แม้จะมีสถานประกอบการปิดกิจการ แต่จะต้องมีสถานประกอบการใหม่เกิดขึ้นมา ซึ่งกระทรวงแรงงาน พยายามที่จะพัฒนาทักษะอาชีพให้กับแรงงาน ให้ตอบรับกับอุตสาหกรรมใหม่ที่จะเข้ามา รวมถึง สนับสนุนผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้มีช่องทางทำธุรกิจ โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบอาชีพนี้ คาดว่า กว่า 20 ล้านคน

อ่านข่าว : 

อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน 2567 เงินเข้าวันไหน

เช็กนิยาม "หมาอันตราย" คาดกฎหมายลูกบังคับใช้เร็วสุดสิ้นปีนี้

"ขบวนการแพทย์ชนบท" คว้ารางวัล "แมกไซไซ 2567"


อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน 2567 เงินเข้าวันไหน

Wed, 4 Sep 2024 11:53:00

วันนี้ (4 ก.ย.2567) น.ส.ทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนกันยายน 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 กันยายน 2567

(เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ก.ค. - 26 ส.ค. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ก.ย. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ก.ค. - ก.ย. 67)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)

วันที่ 11 - 13 กันยายน 2567

- เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อัตรา 100 บาทต่อเดือน (ก.ค. - ก.ย. 67)

วันเดือนปีเกิด เดือนที่มีสิทธิ จำนวนเงิน (บาท)
เกิดก่อน 1 กรกฎาคม 2507 ก.ค. - ก.ย. 67 300
เกิด ระหว่าง 1 - 31 ก.ค. 2507 ส.ค. - ก.ย. 67 200
เกิด ระหว่าง 1 - 31 ส.ค. 2507 ก.ย. 67 100

วันที่ 11 กันยายน 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2495
วันที่ 12 กันยายน 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2495 - 31 ธันวาคม 2501
วันที่ 13 กันยายน 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2502 - 31 สิงหาคม 2507

สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) แล้ว ภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 จะได้รับการโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้

(1) บัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือ

(2) กรณีไม่มีบัญชีตาม (1) จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 5 ก.ย. 67)

วันที่ 20 กันยายน 2567

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ก.ค. - 26 ส.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 - 31 สิงหาคม 2567 ดังนี้
1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน (ล้านบาท)
1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,950.64
1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 38.37
1.3 วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 124.54
รวมจำนวนเงิน (1) 4,113.54
2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน)
2.1 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 264.66
รวมจำนวนเงิน (2) 264.66
3. สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ
3.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 189.40
3.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 24.94
รวมจำนวนเงิน (3) 214.34
รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) + (3) 4,592.54

อ่านข่าว :

เช็กนิยาม "หมาอันตราย" คาดกฎหมายลูกบังคับใช้เร็วสุดสิ้นปีนี้

ดรามา "ป้ามล" หั่นงบ ตัดตำแหน่งผอ.บ้านกาญจนาภิเษก

"ขบวนการแพทย์ชนบท" คว้ารางวัล "แมกไซไซ 2567"


เช็กนิยาม "หมาอันตราย" คาดกฎหมายลูกบังคับใช้เร็วสุดสิ้นปีนี้

Tue, 3 Sep 2024 13:42:00

จากกรณีข่าวสุนัขกัด หรือทำร้ายคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุดเคสชายอายุ 18 ปี ถูกสุนัขสายพันธุ์อเมริกัน บูลลี่ 3 ตัว รุมกัดจนเสียชีวิตในบ้านพักที่ จ.ลพบุรี

วันนี้ (3 ก.ย.2567) นายโรเจอร์ โลหะนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย เปิดเผยความคืบหน้าในการออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพสัตว์เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและสุนัขอันตราย เพื่อควบคุมการเลี้ยง "สุนัขอันตราย" ที่ไม่ได้ระบุเฉพาะสุนัขสายพันธุ์ดุร้าย แต่เป็นการดูถึงนิสัยและพฤติกรรมของสุนัขแต่ละตัว รวมทั้งประวัติการร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน หรือคนในชุมชน

กฎหมายลูกนี้จะไม่เน้นสายพันธุ์ดุแล้ว แต่จะดูพฤติกรรมของสุนัขเป็นหลักในตัวที่กัดคน วิ่งไล่รถ

นายโรเจอร์ กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายลูกดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก โดยรอทางกรมปศุสัตว์ ส่งร่างกฎหมายมาให้คณะกรรมการพิจารณา โดยประกอบด้วยกรมปศุสัตว์ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย มูลนิธิ SOS Animal Thailand คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.มหิดล มาร์คพิทบูล สมาคมผู้เลี้ยงสุนัขพิทบูล กรุงเทพมหานคร

จากนั้นต้องผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการวิชาการฯ ยื่นกฤษฎีกา และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้อย่างเร็วที่สุดภายในเดือน ธ.ค.นี้ และช้าสุดภายในเดือน มี.ค.2568 ซึ่งเจ้าของสุนัขที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ จะมีโทษปรับ 10,000-40,000 บาท

เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย ระบุว่า เจ้าของสุนัขจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ หรือท้องถิ่น เทศบาล ซึ่งต้องะมีมาตรการดูแลสุนัขอันตรายโดยเฉพาะ รวมทั้งกรณีเคยมีเหตุให้เชื่อว่าสุนัขตัวนั้น ๆ มีพฤติกรรมดุ เช่น ถูกร้องเรียนว่าเคยพยายามกัด ทำร้ายคน ทำร้ายสัตว์เลี้ยง วิ่งไล่รถ วิ่งปาดหน้ารถจักรยานยนต์จนเกิดอุบัติเหตุ โดยเชื่อว่าเจ้าของไม่น่าจะควบคุมสุนัขได้ ถือว่าเป็น "สุนัขอันตราย"

เจ้าของต้องรู้เอง จะมาอ้างว่าหมาไม่ดุไม่ได้ ถ้าเพื่อนบ้านร้องเรียนว่าหมาวิ่งเข้าหาคน

สำหรับร่างดังกล่าวเป็นกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 โดยมีสาระสำคัญในการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสม มีที่อยู่ อาหาร น้ำอย่างเพียงพอ และสนับสนุนพฤติกรรมที่เหมาะสม โดยสุนัขอันตราย คือ สุนัขที่มีลักษณะทางกายภาพ นิสัยหรือพฤติกรรมดุร้าย ขู่กรรโชก ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำลายทรัพย์สินผู้อื่น มีประวัติทำร้าย หรือพยายามทำร้ายคน หรือสัตว์เลี้ยง โดยเจ้าของไม่อาจควบคุมได้

นอกจากนี้ ยังรวมถึงสุนัขที่ได้รับการฝึกสอนให้ทำร้ายคนหรือสัตว์เลี้ยงได้ และสุนัขที่มีลักษณะหรือสายพันธุ์ตามที่อธิบดีกรมปศุสัตว์ประกาศกำหนด

ทั้งนี้ ต้องเลี้ยงสุนัขอันตรายในสถานที่หรือกรงที่มั่นคงแข็งแรง ไม่ให้สุนัขเข้าถึงบุคคลภายนอกได้ และมีป้ายเตือนที่สังเกตได้ชัดเจน, ฝึกสุนัขให้คุ้นเคยกับการใช้สายจูงเมื่อต้องนำออกไปในที่สาธารณะ, ใส่อุปกรณ์ครอบปากและจับสายลากจูงห่างไม่เกิน 1 เมตร, ห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี หรือเกิน 65 ปี นำสุนัขอันตรายออกนอกสถานที่เลี้ยง เว้นกรณีอยู่ในกรงขัง

ต้องดูแลไม่ให้สุนัขได้รับความเครียด หวาดกลัว เจ็บปวด โดยไม่มีเหตุอันควร, ไม่ฝึก ควบคุม หรือลงโทษสุนัขด้วยความรุนแรง ทุบตี อดอาหาร ช็อตไฟฟ้า หากพบพฤติกรรมที่อาจเป็นผลจากความเครียดให้รีบปรับปรุงแก้ไข

อ่านข่าว : ไขปม "หมาดุ-ก้าวร้าว" แนะวิธีเอาตัวรอดเมื่อถูกกัด 

ครอบครัวทำใจไม่ได้เตรียมส่งสุนัข "อเมริกัน บูลลี" ให้ผู้อื่นดูแลต่อ 

เตี้ย ล่ำ ตัน สัญชาตญาณนักล่า "ต่ำ" สุนัขสายพันธุ์อเมริกันบูลลี่ 


เสียชีวิตเพิ่ม 1 รวม 8 คน คลัสเตอร์ "เหล้าเถื่อน" ป่วย 44 คน

Tue, 3 Sep 2024 09:41:00

วันนี้ (3 ก.ย.2567) กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยหลายรายเข้าโรงพยาบาลพร้อมกัน เนื่องจากดื่มสุราเถื่อน โดยศูนย์ปฏิบัติการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี พบผู้ป่วยเริ่มเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่าง ๆ ในกทม.ตั้งแต่ 22 ส.ค.นี้ รวมผู้ป่วย 44 ราย มีผู้เสียชีวิต 8 คน รักษาตัวและกลับบ้านได้ 30 คน ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 คน

ทั้งนี้ นับแต่เกิดเหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากจากการบริโภคสุราที่มีสารพิษเมทานอลเจือปน กรมการแพทย์ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินส่วนหน้าที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ร่วมกับกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 กรมสรรพสามิต และกรุงเทพมหานคร ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามได้ภายใน 1 สัปดาห์ ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหาและรักษาผู้ป่วย ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต

ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี รายงานพิกัดซุ้มยาดองอันตราย (จากการสอบสวนขยายผล) จำนวน 18 จุด ดังนี้ พื้นที่เขตมีนบุรี ได้แก่ ซอยสามวา 1 ซอยเสรีไทย 95 ตลาดบางชัน หน้าเคหะรามคำแหง ซุ้มตรงข้าม รร.สุดใจวิทยา พื้นที่เขตหนองจอก ได้แก่ ซอยสุวินทวงศ์ 64

พื้นที่เขตลาดกระบัง ได้แก่ ตลาดบึงใหญ่-บึงบัว ถนนคุ้มเกล้า พื้นที่เขตประเวศ ได้แก่ ซอยอ่อนนุช 70 พื้นที่เขตคันนายาว ได้แก่ ซอยเสรีไทย 38

พื้นที่เขตคลองสามวา ได้แก่ ถนนเจริญพัฒนา (ตลาดกีบหมู) ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 7 ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 7 แยก 1 ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 9 ซอยประชาร่วมใจ 19 ซอยประชาร่วมใจ 43/1 ซอยนิมิตใหม่ 9 ซอยสามวา 11/1 และซอยหทัยราษฎร์ 33

เตือนดื่มเมทานอลแอลกอฮอล์ อาจสูญเสียดวงตา-ชีวิต

นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า เมทานอลเป็นแอลกอฮอล์ที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่นที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น ในการผลิตเชื้อเพลิง สี และสารเคมี

อย่างไรก็ตาม เมทานอลไม่ใช่แอลกอฮอล์ที่สามารถบริโภคได้ และการกินเมทานอลซึ่งมักพบในสุราปลอม เหล้าเถื่อน จะนำไปสู่ความเป็นพิษที่เป็นอันตรายสูญเสียดวงตา หรือชีวิต เมื่อเมทานอลเข้าสู่ร่างกาย จะถูกเมแทบอลิซึมในตับผ่านเอนไซม์ alcohol dehydrogenase เปลี่ยนเป็นฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งมีความเป็นพิษสูง และจากนั้นฟอร์มัลดีไฮด์จะถูกเปลี่ยนเป็นฟอร์มิกแอซิด (Formic acid) ฟอร์มิกแอซิดเป็นสารที่มีผลทำลายเซลล์ในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบการหายใจ

พญ.วรินทร์ สมิทธิเมธินทร์ จักษุแพทย์ด้านจอตาและวุ้นตา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาการจากการกินเมทานอลแอลกอฮอล์แล้วเกิดพิษ อาจใช้เวลา 1 ชั่วโมง ถึง 3 วัน อาการจะปรากฏ ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยคือ อาการปวดหัว เวียนศีรษะ สับสน และชัก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น

ในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นตาบอดถาวร หายใจลำบาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolic acidosis) เป็นภาวะที่มีความเป็นกรดในเลือดสูงจากการสะสมของฟอร์มิกแอซิด อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จะต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว โดยแพทย์จะพิจารณาจากประวัติการบริโภคสาร ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย และการตรวจระดับเมทานอลและสารเมแทบอลิซึมในเลือด

นอกจากนี้ การตรวจความเป็นกรด-ด่างในเลือด และการตรวจระดับเกลือแร่ในเลือดก็เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินภาวะของผู้ป่วย การรักษาพิษจากเมทานอลเป็นกระบวนการที่ต้องทำโดยทันทีเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบประสาทและระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น การให้ยาลดความเป็นพิษของเมทานอล การฟอกไต การให้กรดโฟลิค

อ่านข่าว : คุมตัวเจ้าของ รง.ผลิตเหล้าเถื่อน ฝากขังศาลอาญามีนบุรี 

1 สัปดาห์คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนพุ่ง 43 คนตาย 6 

เปิดผลตรวจค่า "เมทานอล" เหล้าเถื่อนจาก 6 เขต พบเกินมาตรฐาน 5 จุด 


ไขปม "หมาดุ-ก้าวร้าว" แนะวิธีเอาตัวรอดเมื่อถูกกัด

Mon, 2 Sep 2024 18:15:00

กรณีชายอายุ 18 ปี ถูกสุนัขสายพันธุ์อเมริกัน บูลลี่ รุมกัดจนเสียชีวิตในบ้านพักที่ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุสุนัขทำร้ายคนจนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

วันนี้ (2 ส.ค.2567) นายสัตวแพทย์เกษตร สุเตชะ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก โดยสุนัขอเมริกัน บูลลี่ เป็นสายพันธุ์ย่อยของอเมริกันพิตบูล เทอร์เรีย แม้ตัวจะเตี้ย แต่โครงหน้าและแรงกัดยังเหมือนเดิม

นายสัตวแพทย์เกษตร กล่าวว่า โดยปกติสุนัขจะมีความเกรงกลัว "จ่าฝูง" หรือเจ้าของ ซึ่งความก้าวร้าวและดุร้าย อาจเกิดจากการเลี้ยงดูเป็นสำคัญ หรือเมื่อถูกย้ายมาอยู่บ้านใหม่ สุนัขอาจจะงงว่าเจ้าของไปไหน และข่มคนอื่นที่ไม่ใช่จ่าฝูง

3 ปัจจัย กระตุ้น "ก้าวร้าว-ดุร้าย"

ทั้งนี้ 3 ปัจจัยที่กระตุ้นความก้าวร้าวและทำร้ายคน คือ ถูกกระทำให้เจ็บ หรือกรณีที่สุนัขรวมกลุ่ม เมื่อเกิดเหตุถูกสุนัขกัด ตัวที่เหลือจะร่วมขย้ำด้วย เพราะคิดว่าคนไม่ใช่พวกเดียวกัน, ถูกปล่อยให้หิว เช่น ลดอาหารจาก 3 มื้อ เหลือ 1 มื้อ หรือหวง ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับชามข้าวระหว่างกินอาหาร, มีสุนัขตัวเมียอยู่บริเวณดังกล่าว และสุนัขตัวผู้แย่งกัน หรือคนที่ถูกกัดไปเล่นกับสุนัขตัวเมียที่อยู่ในระยะติดสัดแล้วมีกลิ่นติดเสื้อผ้า

ถ้าหมาตัวเมียเป็นสัดอยู่ ตัวผู้พร้อมปะทะตลอด

โดยปกติสุนัขจะไม่กระโดดเข้ากัดคน หากไม่ถูกกระตุ้นด้วยบางอย่าง จึงต้องย้อนดูไปถึงการเลี้ยงดู การเล่น การใช้คำสั่ง อีกทั้งสุนัขตัวเมียจะมีความดุน้อยกว่า เพราะพฤติกรรมก้าวร้าวถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศชาย ส่วนใหญ่พบพฤติกรรมนี้ในสุนัขตัวผู้วัยเจริญพันธุ์

ข่มใจ-นิ่งที่สุด เอาตัวรอดถูกสุนัขกัด

เมื่อสุนัขเริ่มกัด หรือรุมทำร้าย คนมักปัดป้อง โวยวาย วิ่งหนี หรือต่อสู้ แต่สุนัขจะใช้สัญชาตญาณกัดจนกว่าจะคน หรือสิ่งที่คิดว่าเป็นศัตรูจะนิ่ง เงียบ หรือหมอบกับพื้น จึงแนะนำว่าเมื่อถูกสุนัขกัดแล้ว ต้องไม่ดิ้น ให้ยอมทันที อดทน ไม่วิ่งหนี เพื่อให้สุนัขหยุดทำร้าย แต่กรณียังไม่ถูกกัด แนะนำให้สังเกตอารมณ์ของสุนัข และหลีกเลี่ยงการเข้าหา

ปั้นนิสัยสุนัขด้วยการเลี้ยงดู สำคัญกว่า DNA

นายสัตวแพทย์เกษตร อธิบายว่า นิสัยของสุนัขแต่ละตัว ขึ้นอยู่กับ DNA 30 % ยกตัวอย่างคัดเลือกสายพันธุ์พ่อแม่ที่นิสัยดี เรียบร้อย ฉลาด ลูกก็มีนิสัยเหล่านั้นเช่นเดียวกัน

แต่อีก 70% เกิดจากปัจจัยการเลี้ยงดู ยกตัวอย่างสุนัขกินนมแม่นาน 2 เดือน จะได้รับความรักพอสมควร เมื่อมาอยู่กับคนก็ไม่ได้รู้สึกว่าจิตใจบอบช้ำมาก ประกอบกับได้รับความรัก การกอด เป็นเพื่อน และมีเวลาให้ ก็เป็นสุนัขที่ดีและเป็นมิตร ตรงกันข้ามหากสุนัขต้องอยู่เพียงลำพัง หรืออยู่แต่กับเพื่อนสุนัขด้วยกันเพียงเท่านั้น ก็จะมีนิสัยอีกแบบหนึ่ง

วิธีการเลี้ยงตั้งแต่เด็กมีความสำคัญ ต้องรัก เมตตา อ่อนโยน คอยปรามสุนัขเมื่อทำสิ่งไม่ดี จะเติบโตเป็นสุนัขที่สุภาพ อ่อนโยน

นายสัตวแพทย์เกษตร กล่าวว่า สุนัขสายพันธุ์ดุบางตัวก็มีนิสัยอ่อนโยนและยอมให้จับง่าย ซึ่งการเลี้ยงดูเป็นปัจจัยหลัก ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ 2 เคสของบ้านที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เดียวกัน คือ ร็อตไวเลอร์ 1 ตัว และโกลเด้น รีทริฟเวอร์ 1 ตัว

ผลปรากฏว่า บ้านแรกชื่นชอบร็อตไวเลอร์และเลี้ยงให้เฝ้าบ้าน กลายเป็นโกลเด้น รีทริฟเวอร์ ที่ปกตินิสัยอ่อนโยน ใจดี เป็นมิตร กลับดุตามนิสัยร็อตไวเลอร์ ส่วนอีก 1 บ้าน ชื่นชอบโกลเด้น รีทริฟเวอร์ จึงเลี้ยงร็อตไวเลอร์ให้มีนิสัยใจดี

ขณะที่สุนัขบางตัวอาจเชื่อฟังเฉพาะเจ้าของ เพราะเข้าใจว่าเป็น "จ่าฝูง" เคสที่เคยพามาพบสัตวแพทย์ บางคนบอกว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองใจดี น่ารัก แต่กลับกัดสัตวแพทย์ขณะฉีดวัคซีน

สายพันธุ์ตาม DNA เป็นเพียงส่วนหนึ่ง พ่อแม่สุภาพและลูกออกมาสุภาพ เป็นเรื่องจริง แต่ถ้าคุณเลี้ยงให้ก้าวร้าว สิ่งที่ยังฝังใน DNA คือความเป็นสัตว์ผู้ล่า การทำงานเป็นฝูง ตอบโต้เมื่อบาดเจ็บ หรือไม่คิดหน้าคิดหลังเมื่อโกรธ

หมาหัวใหญ่-แรงกัดสูง ไม่เหมาะเลี้ยงเป็นเพื่อนเด็ก-ผู้สูงอายุ

นายสัตวแพทย์เกษตร เสนอกรมปศุสัตว์ สั่งงดนำเข้าสุนัขสายพันธุ์ดุ หากเลี้ยงแล้วต้องทำหมันทั้งตัวผู้และตัวเมีย ตั้งแต่เด็กอายุ 4-5 เดือน เพื่อลดความก้าวร้าวที่ถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศ และค่อย ๆ ลดจำนวนลง

หมาหัวใหญ่ สายพันธุ์แข็งแรง มีแรงกัดสูง พวกนี้ไม่แนะนำให้เลี้ยง ไม่เหมาะกับการเลี้ยงเป็นเพื่อนเด็กและคนแก่

อ่านข่าว : ครอบครัวทำใจไม่ได้เตรียมส่งสุนัข "อเมริกัน บูลลี่" ให้ผู้อื่นดูแลต่อ 

วงจรปิดบันทึกเหตุชาย 18 ปีถูก 3 สุนัขอเมริกันบูลลี่ขย้ำตาย 

"โรเจอร์" จี้ควบคุมเลี้ยง "หมาพันธุ์ดุ" หลังเคสพิทบูลกัดชาย 67 ปีดับ 

เตี้ย ล่ำ ตัน สัญชาตญาณนักล่า "ต่ำ" สุนัขสายพันธุ์อเมริกันบูลลี่

 


ดรามา "ป้ามล" หั่นงบ ตัดตำแหน่งผอ.บ้านกาญจนาภิเษก

Mon, 2 Sep 2024 17:32:00

กรณีดรามาศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ภายหลังเฟซ บุ๊ก Thicha Nanakorn ของทิชา ณ นคร ที่ระบุว่า กองทรัพยากรบุคคล กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม แจ้งว่างบประมาณปี 2568 จะตัดงบในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กและเยาวชน ของนางทิชา หรือป้ามล ในฐานะผอ.บ้านกาญจนาภิเษก หรือยุติการทำหน้าที่ ผอ.

ทำให้บุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคน โพสต์ข้อความส่งกำลังใจให้ นางทิชา พร้อมกับแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น นายสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ หรือ "นิ้วกลม" มองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของบุคคล แต่เป็นเรื่องของระบบ และการเสียโอกาสของสังคม ในการฟื้นฟูเด็ก ๆ ที่ก้าวพลาดให้ออกไปสู่สังคมได้ใหม่

ส่วนครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ครูสอนการแสดง ระบุว่า ได้นำระบบของบ้านกาญจนาฯ และความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับหน้าที่การงานได้ผลดี

อ่านข่าว ควันหลง สมรภูมิรบเมืองโอ่ง "กำนันตุ้ย" คว้าชัยนายก อบจ.ราชบุรี

แจงปม "ป้ามล" ครบวาระ 5 ปี

ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว เกิดจากการครบวาระสัญญา 5 ปีของนางทิชา จึงทำให้สำนักงาน ก.พ.ต้องพิจารณาตามนโยบายลดอัตราจำนวนคน หรือปรับตำแหน่ง ซึ่งกรมพินิจฯ ไม่ได้เป็นผู้กำหนด

อยู่ที่ตำแหน่ง เพราะหากทางก.พ.ขอยุบตำแหน่ง ก็ต้องปรับภารกิจตามทิศทางที่กรมกำหนดนโยบายไป ส่วนจะไม่เป็นบ้านที่ไม่ดูแลเด็กนอกระบบ ยังพิจารณากันอยู่ ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่นี้มีบ้านที่ดูแลเยาวชนในคดีเพียงพอ 

พ.ต.ท.ประวุธ ระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไปสู่การประเมิน ที่ผ่านมาบ้านกาญจนาภิเษก เป็นสถาบันของเอกชน ที่รับงบจากรัฐ 100% ปีละ 8 ล้านบาทเป็นค่าอุปโภคบริโภค ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โปรแกรมการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็ก ไม่ให้กลับไปกระทำความผิดซ้ำ หากไม่มีผู้ดูแล ก็อาจปรับภารกิจเป็นอย่างอื่นแทน

ทิชา ณ นคร หรือป้ามล ผอ.บ้านกาญจนาภิเษก

ทิชา ณ นคร หรือป้ามล ผอ.บ้านกาญจนาภิเษก

ขอทบทวนตัดงบคนนอก-ห่วงยุบบ้านกาญจนา

ขณะที่อดีตเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ร่วมกับองค์กรด้านเด็กและเยาวชน ยื่นหนังสือถึงพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม คัดค้านการตัดงบผอ.คนนอก  นายอภิรัฐ สุดสาย อดีตเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ระบุว่า รู้สึกเป็นกังวล เมื่อทราบข่าว การยุติบทบาทของนางทิชา และเกรงว่าบ้านกาญจนาภิเษก จะถูกยุบ จึงมีข้อเสนอไปถึงกระทรวงยุติธรรม ขอให้ทบทวนและศึกษากระบวนกลไกการทำงานของบ้านกาญจนาภิเษก

รวมทั้งให้ช่วยติดตาม และเดินหน้ากฎกระทรวง มาตรา 55 ที่ศูนย์ฝึกมีทั้งภาครัฐ และภาคสังคมร่วมขับเคลื่อนบริหารจัดการได้ พร้อมทั้งต้องการให้ขยายผลและสนับสนุนบ้านกาญจนาอย่างจริงจัง

หลักฐานเชิงประจักษ์คือพวกเราที่เป็นผู้รอดกว่า 90-95 % กรมพินิจฯ ต้องการขยายผลแทนการปิดหู ปิดตา ปิดปาก เสมือนการค้นพบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจนของที่นี่ไร้ค่า ไม่มีความหมาย
เยาวชนยื่นหนังสือพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

เยาวชนยื่นหนังสือพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

ยันเยาวชนทำผิดซ้ำแค่ 6% 

ด้านนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว กล่าวว่า มีข้อกังวลในสังคมอย่างกว้างขวางว่า การดำเนินงานในระยะต่อไปของบ้านกาญจนาภิเษก จะเข้าสู่ระบบราชการ อำนาจนิยมที่ควบคุมสูงหรือไม่ องค์ความรู้จากการทำงาน 20 ปีที่ผ่านมา จะถูกนำไปดำเนินการต่อหรือไม่

ปี 2561 มีงานศึกษาในรูป Focus group ในกลุ่มเยาวชนบ้านกาญจนาฯ ปี 2556-2559 พบเยาวชนทำผิดซ้ำเพียง 6%

พ.ต.อ.ทวี ชี้รอชี้ขาด ก.ย.นี้ประเมิน 

ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณากรอบอัตรากำลังพนัก งานราชการ จากสำนักงานก.พ. ซึ่งการขอกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ กรมพินิจฯ ต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ เพื่อประกอบการพิจารณาในการต่อสัญญาจ้าง

กรณีของนางทิชา ยังอยู่ในกระบวนการ ต้องรอผลการประเมินและกรอบของ กพ.ในเดือนก.ย.นี้ ว่าจะมีการต่อสัญญาหรือไม่ ส่วนศูนย์ฝึก ลักษณะเดียวกับบ้านกาญจนา ขณะนี้กฎกระทรวง มาตรา 55 อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย หากจบกระบวนการ ก็จะได้เห็นศุนย์ฝึกฯลักษณะนี้เพิ่มขึ้น

อ่านข่าวอื่นๆ

สั่งปิด "พระใหญ่" ห้ามทำกิจกรรมชั่วคราว-สอบข้อเท็จจริงดินสไลด์

ศาลสั่ง "วิน โพรเสส" ชดใช้ 1.7 พันล้านฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม


พม.จัดระเบียบขอทาน ลุยจับ-ส่งตรวจ DNA ก่อนคุมตัว

Sun, 1 Sep 2024 19:39:00

วันนี้ (1 ก.ย.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้มอบนโยบายให้ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เป็นศูนย์กลาง ในการเร่งรัดจัดการในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม และส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ในวันนี้ ได้รับรายงานจากศรส.กระทรวง พม. ว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.เวลา 21.00 น. รับแจ้งพบขอทานแม่ลูกบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS นานา ซึ่งศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นที่บริเวณดังกล่าว และใกล้เคียง

พบว่า มีขอทานแม่ลูก 2 คู่ จำนวน 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาที่ สน.ลุมพินี และได้แจ้งกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการคัดกรอง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559

นายวราวุธ กล่าวว่า ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจสอบและคัดกรอง พบว่า ขอทานคู่แม่ลูก 2 คู่ เป็นชาวกัมพูชา และหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขอทานคู่แรกเป็นหญิงอายุ 26 ปี ได้พาเด็ก อายุ 6 ปี และ 4 เดือน มานั่งขอทาน ส่วนคู่ที่สองเป็นหญิงอายุ 28 ปี มากับเด็กอายุ 1 ปี จนท.ได้ทำบันทึกจับกุม และเปรียบเทียบปรับ

พร้อมทั้งได้ดำเนินการส่งตัวเข้ารับการคุ้มครอง ที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี เพื่อรอตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต (DNA) ของแม่ลูกทั้งสองคู่ต่อไป

นอกจากกรณีนี้ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร มีแผนการจัดระเบียบผู้ทำการขอทานในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต เพื่อกวดขันและป้องกันไม่ให้มีผู้ทำการขอทาน

“ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ พม. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ ถึงแม้ว่าภารกิจการจัดระเบียบขอทาน จะเป็นงานที่ใช้เวลาเป็นอย่างมาก จนบางครั้งเหมือนไม่เห็นความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหา ด้วยข้อจำกัดของกฎหมาย แต่เพื่อความเป็นระเบียบของสังคม ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุก ๆ คน ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่” นายวราวุธ กล่าว

อ่านข่าว : หมอกควัน-ไฟป่าเหนือ โจทย์ใหญ่ "รัฐบาลแพทองธาร"

ปลุกผี "แก่งเสือเต้น" 30 ปี แก้น้ำท่วมสุโขทัย

ให้กำลังใจ “เจ ภูธเรศ” วีลแชร์คว่ำ 5 ม.ก่อนเข้าเส้นชัยพลาดเหรียญ


"ขบวนการแพทย์ชนบท" คว้ารางวัล “แมกไซไซ 2567”

Sat, 31 Aug 2024 11:39:05

วันนี้ (31 ส.ค.2567) เพจเฟซบุ๊กชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความระบุว่า ในปี 2567 ซึ่งเป็นการมอบรางวัลแมกไซไซ ครั้งที่ 66 นั้น โดยคัดเลือกผู้มีผลงานดีเด่นเข้ารับรางวัลจำนวน 5 ท่าน ได้แก่ Karma Phuntsho จากภูฏาน, Miyazaki Hayao จากญี่ปุ่น, Nguyen Thi Ngoc Phuong จากเวียดนาม, Farwiza Farhan จากอินโดนีเซีย และขบวนการแพทย์ชนท จากประเทศไทย

สำหรับขบวนการแพทย์ชนบท ได้ขับเคลื่อนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง 48 ปี ด้วยกลไกสำคัญ 3 กลไกของขบวนการแพทย์ชนบท คือ ชมรมแพทย์ชนบท มูลนิธิแพทย์ชนบท และกลุ่มสามพราน ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ที่สากลยอมรับ คือ การสร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย และการเฝ้าระวังป้องกันการคอร์รัปชัน

ขบวนการแพทย์ชนบท ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการรางวัลแมกไซไซเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งขอมอบความชื่นชมยินดีนี้ให้กับแพทย์ผู้ปฏิบัติงานในชนบททุกท่านทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงภาคประชาสังคม เครือข่ายองค์กรชุมชน องค์กรชาวบ้านที่ทำงานขับเคลื่อนร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ผู้หลักผู้ใหญ่ องค์กรพันธมิตร สื่อสารมวลชน และทุก ๆ ท่าน ที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับระบบสุขภาพไทยมาตลอด

ขบวนการแพทย์ชนบท ยังมีภารกิจอันมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำ สร้างระบบสุขภาพและสังคมที่เป็นธรรม เฝ้าระวังการคอร์รัปชัน และสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมเพื่อประเทศไทยและสังคมโลก

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีบุคคล หรือองค์กร รับรางวัลแมกไซไซแล้วจำนวน 24 ท่าน/องค์กร และขบวนการแพทย์ชนบทเป็นรายที่ 25 สำหรับรางวัลอันทรงคุณค่านี้ โดยรางวัลแมกไซไซ (Ramon Magsaysay Award) เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้มีผลงานดีเด่นต่อมนุษยชาติในทวีปเอเชีย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น Nobel Peace Prize of Asia เริ่มให้รางวัลตั้งแต่ปี 2500 เพื่อระลึกถึงคุณความดีและความตั้งใจของประธานาธิบดีรามอน แมกไซไซ แห่งประเทศฟิลิปปินส์


กู้ภัยเล่าภารกิจวางแผนช่วย 3 ชีวิตติดอุโมงค์ถล่ม จนถึงวันกู้ร่าง

Fri, 30 Aug 2024 15:45:59

วันนี้ (30 ส.ค.2567) นายกฤษรักษ์ เนียนหอม เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาและกู้ภัยเขตเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยเกี่ยวกับภารกิจการช่วยเหลือคนงานติดอุโมงค์ถล่มใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยระบุว่า ตั้งแต่วันแรกของการปฎิบัติงานสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องประเมินการทำงานตลอดเวลาเช่นกัน แม้กระทั่งความเสี่ยง ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความเมื่อยล้า จึงต้องจัดทีมจากกรุงเทพฯ มาเสริม ทำให้ภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดี

สำหรับกระบวนการทำงาน ทีมงานปฏิบัติตามหลักสากลไม่ว่าจะเผชิญสถานการณ์ไหน โดยจะมีหลักในการวิเคราะห์เพื่อหาผู้ประสบภัย ซึ่งการค้นหาผู้ประสบเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ส.ค.) เมื่อผู้รับเหมาแจ้งว่าพบคนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมทีมเข้าไปดำเนินการตรวจสอบหาชีพจรเพื่อวางแผนช่วยเหลือ เนื่องจากทางค่อนข้างแคบ ต้องคลานเข้าไปภายในช่องที่ขุดไว้ แต่เมื่อมีการยืนยันว่าผู้ประสบเหตุเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ก็ถอนกำลังออกมาวางแผนในการกู้ร่างแทน

อ่านข่าว : ปิดภารกิจ 126 ชั่วโมง "อุโมงค์ถล่ม" พาร่าง 3 คน กลับครอบครัว

ส่วนวิธีการนำผู้เสียชีวิตออกมา ทีมจะมีกระบวนการซึ่งเป็นรูปแบบการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตอยู่แล้ว อาทิ ผ้าห่อศพ เชือก สเปย์ฆ่าเชื้อ หากเสียชีวิตมานานจะต้องใช้เครื่องช่วยหรืออุปกรณ์เสริมเพื่อนำตัวผู้เสียชีวิตออกมา

ขณะที่ลักษณะการเสียชีวิตของผู้ประสบภัยทั้ง 3 คน คนแรก พบบริเวณประตูด้านหลังคนขับรถบรรทุกดิน ส่วนคนที่ 2 หากมองจากอุโมงค์ด้านขวาสุดจะเห็นรถแบคโฮและพบคนที่ 2 บริเวณดังกล่าว ส่วนคนที่ 3 ก็พบอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งทั้ง 3 คนไม่ได้ถูกดินหรือหินหล่นทับ แต่เป็นการอยู่ในโพรงหรือรูที่ถูกครอบด้วยแผ่นซิเมนต์ของอุโมงค์

ส่วนจะมีขวดน้ำหรืออุปกรณ์อื่นๆ ของผู้เสียชีวิตวางอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุหรือไม่นั้น ทีมยังไม่ได้สำรวจ เนื่องจากในพื้นที่ยังมีความอันตราย แต่ทุกครั้งที่ปฎิบัติหน้าที่ วิศวกรจีนจะมีการส่งอากาศเข้าไปภายใน โดยมีการตรวจวัดอากาศก่อนปฎิบัติงานอยู่เสมอ

นายกฤษรักษ์ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่นำร่างผู้เสียชีวิตคนที่ 2 และ 3 ออกมาได้เร็ว เนื่องจากมีการเปิดช่องทางการเข้าพื้นที่และสามารถขุดเจาะเข้าไปได้ง่ายกว่าการค้นหาผู้ประสบภัยคนแรกที่ขณะนั้นยังไม่สามารถจับจุดได้ จึงอาจทำให้เกิดความล่าช้าต่อการช่วยเหลือ

ขณะเดียวกันเครื่องจับความเคลื่อนไหวมีประโยชน์มาก เพราะช่วยให้สามารถจับพิกัดหรือระบุผู้เสียชีวิตได้แม่นยำ สอดรับกับสุนัข K9 ที่เข้ามาช่วยหาร่างผู้เสียชีวิต ทำให้พบและสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้อย่างรวดเร็ว

อ่านข่าว

ไทม์ไลน์ 126 ชั่วโมง ติดอุโมงค์ถล่ม เสียชีวิต 3 คน

ยืนยันอีก 2 คนเสียชีวิต ไม่ห่างจุดพบศพแรกเหตุติดอุโมงค์ถล่ม


เปิดผลตรวจค่า "เมทานอล" เหล้าเถื่อนจาก 6 เขต พบเกินมาตรฐาน 5 จุด

Fri, 30 Aug 2024 14:45:00

วันนี้ (30 ส.ค.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าผลการตรวจหาสาร "เมทานอล" จากเหล้าขาวและยาดองที่ยึดมาจาก พื้นที่ต่าง ๆ จาก 6 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ค่าเมทานอลเกินค่ามาตรฐาน 5 จุด

จุดแรกที่บ้านพักของ 2 พี่น้อง ในซอยกาญจนาภิเษก 25 พบค่าเมทานอล ประมาณ 13,075 มิลลิกรัมต่อลิตร และจุดที่ 2 บ้านของ น.ส.ภัสส์รศา หรือ เจ๊ปู ผู้ผลิตยาดอง 12,385 มิลลิกรัมต่อลิตร

ส่วนจุดที่ 3 ซุ้มหทัยราษฎร์ 33 จุดที่ 4 ซุ้มคลองสามวา 1 และ จุดที่ 5 ซุ้มคลองสามวา 11/1 พบค่าเมทานอลเกิน 100,000 มิลลิกรัมต่อลิตร

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ค่าเมทานอลจากบ้านพักจอง 2 พี่น้อง ต่างจากซุ้มยาดองอาจเป็นไปได้ว่า เมทานอลที่พบจากบ้านพักของ 2 พี่น้อง เป็นเมทานอลที่ค้างอยู่ในถังอาจทำให้เกิดการเจือจาง

ผลการตรวจเลือดของผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อน พบว่าค่าเมทานอลสูงสุดอยู่ที่ 124 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาและมีประวัติเคยดื่มยาดองจากซุ้มหทัยราษฎร์ 33

อ่านข่าว : เปิดใจผู้รอดชีวิตยาดองเถื่อน ต้องฟอกไต หวิดตาบอด ยันไม่ดื่มอีก

1 สัปดาห์คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนพุ่ง 43 คนตาย 6

ตำรวจปูพรมจับ 2 ใน 3 จับแก๊งปลอมวุฒิการศึกษา


ไทม์ไลน์ 126 ชั่วโมง ติดอุโมงค์ถล่ม เสียชีวิต 3 คน

Fri, 30 Aug 2024 11:59:18

ภารกิจหิน เจ้าหน้าที่ ทีมกู้ภัย และอาสาสมัคร ระดมช่วยเหลือแรงงานเมียนมา และจีนรวม 3 คน ติดอุโมงค์ถล่มตั้งแต่กลางดึก 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสี่ยงหินและดินหล่นลงมาซ้ำ ล่าสุดพบศพทั้ง 3 คนแล้ว เบื้องต้นสาเหตุเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

ภาพ : K9 : USAR Thailand

ภาพ : K9 : USAR Thailand

ขณะที่นายพลพัฒ กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเป็นคู่สัญญากับรัฐโดยตรง แต่ว่าจ้างจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำอุโมงค์ ซึ่งอยู่ไทยมานาน 40 ปี เคยผ่านงานทั้งโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน - นครราชสีมา (M6) และอ่างเก็บน้ำแม่กวงอุดมธารา

นายพลพัฒ ยืนยันว่า ดำเนินการตามแบบและขั้นตอน โดยพร้อมชี้แจงกระทรวงคมนาคมในการตรวจสอบสัญญางานจ้าง แต่เหตุการณ์นี้เป็นภัยพิบัติ ไม่ใช่อุบัติเหตุ และพร้อมชดเชยเยียวยากับครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิต

สำหรับอุโมงค์รถไฟคลองไผ่ ดำเนินการขุดอุโมงค์เกือบจะแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันขุดเจาะอุโมงค์ได้ความยาวประมาณ 4,100 เมตร ระหว่างการก่อสร้างมีการทำผนังอุโมงค์ไว้ตลอดแนว โดยบริเวณที่เกิดเหตุชั้นหินและดินทรุดตัวภายในอุโมงค์ มีความยาวประมาณ 10-30 เมตร อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำผนังอุโมงค์

อ่านข่าว : อีก 1 เมตร ถึงตัวแรงงานติดอุโมงค์ เตรียม 3 แผนเคลื่อนย้าย

ยืนยันเสียชีวิต 1 คน ติดอุโมงค์ถล่มนาน 5 วัน เร่งช่วยอีก 2 ชีวิต

ยืนยันอีก 2 คนเสียชีวิต ไม่ห่างจุดพบศพแรกเหตุติดอุโมงค์ถล่ม

ปิดภารกิจ 126 ชั่วโมง "อุโมงค์ถล่ม" พาร่าง 3 คน กลับครอบครัว


1 สัปดาห์คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนพุ่ง 43 คนตาย 6

Fri, 30 Aug 2024 10:00:38

วันนี้ (30 ส.ค.2567) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยหลายรายเข้าโรงพยาบาลพร้อมกัน เนื่องจากดื่มสุราเถื่อน โดยศูนย์ปฏิบัติการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี พบผู้ป่วยเริ่มเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่าง ๆ ในกทม.ตั้งแต่ 22-30 ส.ค.นี้ รวมผู้ป่วย 43 ราย มีผู้เสียชีวิต 6 คน รักษาตัวและกลับบ้านได้ 27 คน ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 คน ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ 16 คน ผู้ป่วยได้รับการฟอกไต 23 คน

ทั้งนี้นับแต่เกิดเหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากจากการบริโภคสุราที่มีสารพิษเมทานอลเจือปน จึงสั่งการให้กรมการแพทย์ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินส่วนหน้าที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ร่วมกับกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 กรมสรรพสามิต และกรุงเทพมหานคร ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม ได้ภายใน 1 สัปดาห์ ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหาและรักษาผู้ป่วย ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต

อ่านข่าว คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนป่วยพุ่ง 41 คน ตร.สอบพ่อค้าขายเอทานอล

ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี รายงานพิกัดซุ้มยาดองอันตราย (จากการสอบสวนขยายผล) จำนวน 18 จุด ดังนี้ พื้นที่เขตมีนบุรี ได้แก่ ซอยสามวา 1 ซอยเสรีไทย 95 ตลาดบางชัน หน้าเคหะรามคำแหง ซุ้มตรงข้าม รร.สุดใจวิทยา พื้นที่เขตหนองจอก ได้แก่ ซอยสุวินทวงศ์ 64

พื้นที่เขตลาดกระบัง ได้แก่ ตลาดบึงใหญ่-บึงบัว ถนนคุ้มเกล้า พื้นที่เขตประเวศ ได้แก่ ซอยอ่อนนุช 70 พื้นที่เขตคันนายาว ได้แก่ ซอยเสรีไทย 38

พื้นที่เขตคลองสามวา ได้แก่ ถนนเจริญพัฒนา (ตลาดกีบหมู) ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 7 ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 7 แยก 1 ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 9 ซอยประชาร่วมใจ 19 ซอยประชาร่วมใจ 43/1 ซอยนิมิตใหม่ 9 ซอยสามวา 11/1 และซอยหทัยราษฎร์ 33

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่ดื่มเหล้าเถื่อนสังเกตอาการซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับ 1 ไม่มีอาการ คำแนะนำ อยู่บ้านสังเกตอาการ ระดับ 2 มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน  คำแนะนำ สังเกตอาการ หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที

ส่วนระดับ 3 มีอาการด้านการมองเห็นผิดปกติ เช่น เห็นภาพไม่ชัด การมองเห็นแตกต่างจากเดิม ตาพร่า ตามัว เห็นภาพข่าวจ้า แพ้แสง สับสน มองเห็นสีผิดปกติ หอบ เหนื่อย หายใจเร็ว ชัก เกร็ง คำแนะนำ รีบเดินทางมาห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที หรือโทร.1669  

อ่านข่าว

สธ.เร่งขยายผลซุ้มยาดอง 5 จุดใหม่เชื่อมโยง 18 จุดเสี่ยงหรือไม่

เสียชีวิตอีก 2 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนตายแล้ว 6 คน